xs
xsm
sm
md
lg

ราคาประเมินที่ดินย่านทำเลทองกระบี่พุ่ง 10-20 ล้าน/ไร่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กระบี่ - ราคาที่ดินเมืองกระบี่ ย่านทำเลทองท่องเที่ยวยังพุ่งสูง 10-30 ล้านต่อไร่ ในพื้นที่ตำบลอ่าวนาง และตำบลหนองทะเล ยังครองแชมป์ น่าลงทุน ทุนต่างถิ่น ต่างชาติยังแห่ลงทุน

นายเสรี ชัยชื่อ ธนารักษ์พื้นที่กระบี่ เปิดเผยถึงการประเมินราคาที่ดินในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ในรอบ4ปีที่ผ่านมาว่า ราคาประเมินที่ดินในพื้นที่จังหวัดกระบี่ปรับสูงขึ้นเฉลี่ยร้อยะ 94.34 สูงสุดจนติดอันดับ1 ของประเทศ โดยในพื้นที่ที่ราคาประเมินปรับขึ้นสูงสุดคือ พื้นที่อำเภอเกาะลันตา ราคาที่ดินตกไร่ละประมาณ 10-15 ล้านบาท รองลงมาก็คือในพื้นที่อำเภอเมือง ในเขตตำบลอ่าวนาง พื้นที่ติดทะเล เช่นที่ หาดอ่าวนาง เกาะพีพี จะมีราคาสูงสุด ตกไร่ละประมาณ 20 ล้านบาท

นายเสรี เปิดเผยอีกว่า สำหรับราคาประเมินที่ดินที่จะประกาศในรอบต่อไปนั้น จะประกาศใช้ในวันที่1 มกราคม พ.ศ.2555 สำหรับพื้นที่ที่มีแนวโน้มว่าราคาประเมินเพิ่มสูงขึ้นมากที่สุดก็คือ พื้นที่ในอำเภอเกาะลันตา และอำเภอเมือง ส่วนอำเภออื่นๆ โดยในเขตอำเภอเมืองนี้ ราคาที่ดินจะปรับสูงขึ้นมาจากเดิมประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ โดยอำเภอเกาะลันตา ก็จะปรับสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอำเภออื่นๆนอกเหนือจากเกาะลันตาและอำเภอเมืองแล้วก็จะปรับเพิ่มขึ้นมาประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าในรอบนี้ราคาที่ดินปรับขึ้นมาไม่มากเหมือน4ปีที่ผ่านมา

ส่วนปัจจัยที่ทำให้ที่ดินปรับราคาขึ้น คือสภาพเศรษฐกิจ ค่าเงิน และโครงการพัฒนาทางด้านอสังหาริมทรัพย์ เช่น ในเขตอำเภอเมืองมีการปลูกสร้างโรงแรม แมนชั่น อาคารพาณิชย์ รวมถึงการพัฒนาทางด้านธุรกิจการท่องเที่ยว เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ราคาที่ดินเพิ่มสูงขึ้น ส่วนราคาซื้อขายกันจริงนั้น อาจจะมีสูงกว่าที่มีการประเมินไว้

นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ อดีตประธานคณะกรรมการบริหารหอการค้าจังหวัดกระบี่ และผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า สำหรับพื้นที่ที่นักลงทุนยังแห่ลงทุนในธุรกิจท่องเที่ยวของพื้นที่จังหวัดกระบี่ พื้นที่ที่ยังน่าสนใจลงทุนลำดับต้นๆ ยังได้แก่พื้นที่ ต.อ่าวนาง รองลงมาก็ได้แก่ พื้นที่ ต.หนองทะเล บริเวณหาดคลองม่วง อ.เมือง ถึงแม้ว่าราคาที่ดินจะมีราคาแพงก็ตาม โดยที่ดินติดชายหาด ราคาเฉลี่ยไร่ละ 10-30 ล้านบาท

นอกจากนั้น พื้นที่ที่นักลงทุนยังให้ความสนใจก็ยังมีในพื้นที่เกาะลันตา อ.เกาะลันตา แต่ก็ยังเป็นรอง ต.อ่าวนาง และ ต.หนองทะเล เนื่องจากการเดินทางค่อนข้างจะลำบากเนื่องจากต้องใช้แพขนานยนต์ข้ามฟาก การลงทุนค่อนข้างสูงกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับการลงทุนบนฝั่งนักลงทุนจึงไม่ให้ความสนใจลงทุนมากนัก แต่อย่างไรก็ตาม 2 ปีหลังมานี้การลงทุนทางด้านธุรกิจท่องเที่ยวก็ซบเซาลงไป เพิ่มขึ้นประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น โดยทุนส่วนใหญ่ก็จะเป็นทุนต่างถิ่นและทุนต่างชาติ

สำหรับนักลงทุนในกระบี่เองยังรอดูท่าที และส่วนใหญ่ก็จะลงทุนในกิจการเล็กๆ และต้องยอมรับว่าสู้ทุนต่างถิ่นและทุนต่างชาติไม่ไหว สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่ ยังคงมีเท่าเดิมและน่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 2 ล้านคน แต่ที่ดูเหมือนว่านักท่องเที่ยวลดลงเนื่องจากจำนวนห้องพักเพิ่มขึ้น และขอฝากไปยังนักลงทุนรายย่อยที่ต้องการจะมาลงทุนในกระบี่ต้องมีตลาดชัดเจน เพราะไม่อย่างนั้นแล้วจะสู้ทุนใหญ่ไม่ไหว
กำลังโหลดความคิดเห็น