ชาวบ้านเกาะลันตาแห่เก็บหอยตะเภาขายสร้างรายได้

กระบี่ -ชาวบ้านตำบลเกาะกลาง อ.เกาะลันตา แห่เก็บหอยตะเภาที่ชายหาดทุ่งทะเล หลังพบหอยฝังตัวในหาดกทรายจำนวนมาก

วันนี้ (21 ก.พ.) ที่บริเวณชายหาดทุ่งทะเล ม.3 ต.เกาะกลาง อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ได้มีชาวบ้านจำนวนมาก ทั้งในตำบลเกาะกลางและตำบลใกล้เคียง จำนวนกว่า 100 คน ได้เดินทางมาเก็บหอยตะเภาที่ฝังอยู่ใต้พื้นทรายหน้าหาดทุ่งทะเลกันเป็นจำนวนมาก บางคนก็เอาไปรับประทานเป็นอาหาร บางคนก็นำไปขายให้พ่อค้ามารับซื้อ ราคากิโลกรัมละ 130 บาท สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ บางคนขายได้วันได้ละ 1,000-3,000 บาท

นางสาริกา เกื้อกูล อายุ 44 ปี ชาวบ้าน ม.4 ต.เกาะกลาง กล่าวว่า หลังทราบจากเพื่อนบ้านว่ามีหอยตะเภาชุกชุมที่บริเวณหาดทรายทุ่งทะเล ก็ได้เดินทางมาเก็บ โดยได้เดินทางมา ตั้งแต่ 5โมงเช้า เก็บได้ประมาณ 10 กิโลกรัม ส่วนหนึ่งจะเอาไปขายพ่อค้าที่มารับซื้อ เนื่องจากราคาค่อนข้างสูง และรถชาดอร่อย แต่เก็บได้บางช่วงเวลาเท่านั้นราคาขายตกราคากิโลกรัมละประมาณ 130 บาท และส่วนหนึ่งเอาไว้ประกอบอาหาร

ด้าน นายมานิต ดำกุล นายกสมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า หอยตะเภาจะมีมากประมาณ ช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ทุกปี โดยเฉพาะเวลาน้ำทะเลลดต่ำสุด หอยตะเภาจะขึ้นมาฝังตัวอยู่บริเวณใต้พื้นทรายลึกประมาณ 1-2 นิ้ว ชาวประมงจะใช้เหล็กแหลม หรือมีด จิ้มลงไปตามจุดที่มีรู ก็จะพบหอยดังกล่าว และเนื่องจากเนื้อหอยมีลักษณะขาวนุ่มน่ารับประทาน และรสชาติหวานอร่อยไม่เหมือนกับหอยชนิดอื่นๆ ทั้งยังสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายประเภท ทำให้มีราคาสูง โดยราคาส่งอยู่ที่กิโลกรัม 130-150 บาท

สำหรับหอยชนิดนี้มักจะอาศัยอยู่ตามชายหาดในเขตน้ำขึ้นน้ำลง ที่ดินมีลักษณะเป็นดินทรายละเอียดปนเลนเล็กน้อย และมีสีค่อนข้างดำ เช่น ที่หาดปากเม็ง จังหวัดตรัง และหาดทุ่งทะเล จ.กระบี่ สาเหตุที่ก่อนหน้านี้หอยตะเภาขึ้นในทะเลกระบี่น้อย เนื่องมาจากจากมีชาวปะมงต่างถิ่นใช้วิธีนำเครื่องลมมาดำลงไปในทะเลลึก ซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของหอยตะเภา ทำให้หอยขึ้นบนหน้าหาดน้อย จนกระทั่งเมื่อปี 2551 ได้มีการรณรงค์ห้ามดำหอยตะเภาอย่างจริงจัง ทำให้หอยตะเภาเริ่มขึ้นมามากขึ้น โดยเฉพาะในปีนี้ หอยตะเภาขึ้นมาเป็นจำนวนมากกว่าทุกปี ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ชายฝั่งมีรายได้เพิ่มขึ้น