นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงที่พุ่งเป้าไปที่การกดดันอำนาจตุลาการ และกระบวนการยุติธรรมของประเทศ โดยการบีบให้ศาลปล่อยตัวแกนนำนปช. ที่คุมขังอยู่ในขณะว่า เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม เพราะการใช้มวลชนมาเคลื่อนไหวในลักษณะนี้ เป็นการสร้างแบบอย่างที่ไม่ดี เพราะต่อไปใครไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษา หรือคำสั่งศาล ก็จะสามารถก่อม็อบประท้วงคำพิพากษาของศาลได้ หรือใช้วิธีข่มขู่ คุกคาม ตัวผู้พิพากษาและองค์คณะตุลาการ
นอกจากนี้ วิธีการเคลื่อนไหวแบบนี้ สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดความไร้ระเบียบในบ้านเมืองอีกครั้ง และอาจเป็นการเชื้อเชิญให้เกิดการรัฐประหารอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งน่าแปลกใจที่ นปช.ประกาศมาตลอดว่า ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร แต่การเคลื่อนไหวในขณะนี้กำลังจะเปิดประตูให้กับการรัฐประหารอีกรอบ
"แกนนำ นปช.พูดเสมอว่า เป็นนักประชาธิปไตย ต่อต้านการรัฐประหาร แต่วันนี้กำลังทำลายอำนาจตุลาการที่เป็นหัวใจสำคัญของระบอบประชาธิปไตย รวมทั้งกำลังสร้างเงื่อนไขให้เกิดอำนาจนอกระบบหรือการรัฐประหารอีกรอบ" นายสุริยะใสกล่าว
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้นัดชุมนุมเพื่อไปชุมนุมที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ และเคลื่อนขบวนไปยังศาลฎีกา เพื่อที่จะประกาศเจตนารมย์ เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวแกนนำคนเสื้อแดงนั้น ถือว่าเป็นวิธีการกดดันศาลอย่างรุนแรง และในวันที่ 21 ก.พ. ศาลอาญาจะมีการพิจารณาคำร้องประกันตัวแกนนำนปช. ยิ่งทำให้การพิจารณาของศาลได้รับแรงกดดันจากภายนอกเป็นอย่างมาก
ดังนั้น ขอสนับสนุนการทำหน้าที่ของตุลาการอย่างอิสระ โดยไม่เกรงกลัวอิทธิพลใดๆ หากมีความวุ่นวายที่อาจจะไปกระทบต่อความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ของตุลาการ เชื่อว่ารัฐบาลก็พร้อมที่จะคุ้มครอง และแก้ปัญหาให้ ไม่อยากให้ตุลาการศาลยุติธรรมหวั่นไหวใดๆ ทั้งสิ้น
ส่วนการที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำกลุ่ม นปช. ออกมาข่มขู่ว่า หากแกนนำไม่ได้รับอิสรภาพ ก็เหมือนกับเป็นการบีบให้คนเสื้อแดงจนตรอกและแตกหัก และจะชุมนุมใหญ่ในวันที่ 12 มี.ค. ซึ่งอาจจะเป็นการชุมนุมยืดเยื้อนั้น นายเทพไทย กล่าวว่า พฤติกรรมนายจตุพร ได้ใช้วิธีการข่มขู่หน่วยงานต่างๆไปทั่ว เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง และหลักกฎหมาย การปล่อยตัวแกนนำ นปช.หรือไม่ ก็ย่อมอยู่กับดุลพินิจของศาลว่าพฤติกรรมคนเหล่านั้นเป็นอย่างไร ถ้านายจตุพร บอกว่าหากศาลปล่อยตัวแกนนำ 2 คน คือ นพ.เหวง โตจิราการ และ นายก่อแก้ว พิกุลทอง ตัวเองก็พร้อมเข้าคุกร่วมกับแกนนำคนอื่นๆ นั้น นายจตุพรไม่ควรที่จะพูดให้สังคมเห็นว่า ตัวเองกล้าหาญ เป็นผู้เสียสละ ถ้าอยากติดคุกกับเพื่อนๆ แล้วทำไมต้องรีบยื่นประกันตัว และใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง
" วันก่อนศาลเคยถอนประกันตัวนายจตุพรมาแล้ว ก็ต้องรีบวิ่งไปรายงานตัวต่อศาลทันที เพื่อไม่อยากให้ตัวเองติดคุก เป็นพฤติกรรมขอมคนขี้ขลาด ตาขาว เก่งแต่ปาก ทั้งๆ ที่ตัวเองเอาเปรียบเพื่อนที่ร่วมชะตากรรมมาโดยตลอด การประกาศชุมนุมใหญ่ในวันที่ 12 มี.ค. แสดงให้เห็นว่า กลุ่ม นปช. กำลังเตรียมตัวที่จะมีการชุมนุมใหญ่ ในรอบปีครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นการชุมนุมในช่วงเม.ย.ทุกปี ดังนั้น อยากให้หน่วยงานความมั่นคงติดตามความเคลื่อนไหวเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และอยากให้ประชาชนคนไทยทุกคนออกมาต่อต้าน ขัดขวางพฤติกรรมเผาบ้านเผาเมืองของกลุ่มนปช.ครั้งที่ 3 อีก" นายเทพไทกล่าว
นอกจากนี้ วิธีการเคลื่อนไหวแบบนี้ สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดความไร้ระเบียบในบ้านเมืองอีกครั้ง และอาจเป็นการเชื้อเชิญให้เกิดการรัฐประหารอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งน่าแปลกใจที่ นปช.ประกาศมาตลอดว่า ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร แต่การเคลื่อนไหวในขณะนี้กำลังจะเปิดประตูให้กับการรัฐประหารอีกรอบ
"แกนนำ นปช.พูดเสมอว่า เป็นนักประชาธิปไตย ต่อต้านการรัฐประหาร แต่วันนี้กำลังทำลายอำนาจตุลาการที่เป็นหัวใจสำคัญของระบอบประชาธิปไตย รวมทั้งกำลังสร้างเงื่อนไขให้เกิดอำนาจนอกระบบหรือการรัฐประหารอีกรอบ" นายสุริยะใสกล่าว
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้นัดชุมนุมเพื่อไปชุมนุมที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ และเคลื่อนขบวนไปยังศาลฎีกา เพื่อที่จะประกาศเจตนารมย์ เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวแกนนำคนเสื้อแดงนั้น ถือว่าเป็นวิธีการกดดันศาลอย่างรุนแรง และในวันที่ 21 ก.พ. ศาลอาญาจะมีการพิจารณาคำร้องประกันตัวแกนนำนปช. ยิ่งทำให้การพิจารณาของศาลได้รับแรงกดดันจากภายนอกเป็นอย่างมาก
ดังนั้น ขอสนับสนุนการทำหน้าที่ของตุลาการอย่างอิสระ โดยไม่เกรงกลัวอิทธิพลใดๆ หากมีความวุ่นวายที่อาจจะไปกระทบต่อความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ของตุลาการ เชื่อว่ารัฐบาลก็พร้อมที่จะคุ้มครอง และแก้ปัญหาให้ ไม่อยากให้ตุลาการศาลยุติธรรมหวั่นไหวใดๆ ทั้งสิ้น
ส่วนการที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำกลุ่ม นปช. ออกมาข่มขู่ว่า หากแกนนำไม่ได้รับอิสรภาพ ก็เหมือนกับเป็นการบีบให้คนเสื้อแดงจนตรอกและแตกหัก และจะชุมนุมใหญ่ในวันที่ 12 มี.ค. ซึ่งอาจจะเป็นการชุมนุมยืดเยื้อนั้น นายเทพไทย กล่าวว่า พฤติกรรมนายจตุพร ได้ใช้วิธีการข่มขู่หน่วยงานต่างๆไปทั่ว เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง และหลักกฎหมาย การปล่อยตัวแกนนำ นปช.หรือไม่ ก็ย่อมอยู่กับดุลพินิจของศาลว่าพฤติกรรมคนเหล่านั้นเป็นอย่างไร ถ้านายจตุพร บอกว่าหากศาลปล่อยตัวแกนนำ 2 คน คือ นพ.เหวง โตจิราการ และ นายก่อแก้ว พิกุลทอง ตัวเองก็พร้อมเข้าคุกร่วมกับแกนนำคนอื่นๆ นั้น นายจตุพรไม่ควรที่จะพูดให้สังคมเห็นว่า ตัวเองกล้าหาญ เป็นผู้เสียสละ ถ้าอยากติดคุกกับเพื่อนๆ แล้วทำไมต้องรีบยื่นประกันตัว และใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง
" วันก่อนศาลเคยถอนประกันตัวนายจตุพรมาแล้ว ก็ต้องรีบวิ่งไปรายงานตัวต่อศาลทันที เพื่อไม่อยากให้ตัวเองติดคุก เป็นพฤติกรรมขอมคนขี้ขลาด ตาขาว เก่งแต่ปาก ทั้งๆ ที่ตัวเองเอาเปรียบเพื่อนที่ร่วมชะตากรรมมาโดยตลอด การประกาศชุมนุมใหญ่ในวันที่ 12 มี.ค. แสดงให้เห็นว่า กลุ่ม นปช. กำลังเตรียมตัวที่จะมีการชุมนุมใหญ่ ในรอบปีครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นการชุมนุมในช่วงเม.ย.ทุกปี ดังนั้น อยากให้หน่วยงานความมั่นคงติดตามความเคลื่อนไหวเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และอยากให้ประชาชนคนไทยทุกคนออกมาต่อต้าน ขัดขวางพฤติกรรมเผาบ้านเผาเมืองของกลุ่มนปช.ครั้งที่ 3 อีก" นายเทพไทกล่าว