“โฆษกมาร์ค” ซัดม็อบแดงกดดันศาล วอนผู้พิพากษาหน้าที่อิสระ ซัด “ไอ้ตู่” ข่มขู่ไร้ความถูกต้อง ถามถ้าอยากติดคุกทำไมต้องใช้เอกสิทธิ์ ส.ส. แนะรัฐจับตา หยันปูดสัญชาติ “มาร์ค” แค่โดนทนายฝรั่งหลอกต้ม ท้าฝ่ายค้านโชว์ใบเสร็จโกง แนะซักฟอกแล้วยื่นป.ป.ช.ถอดถอนด้วย
วันนี้ (20 ก.พ.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้นัดชุมนุมเพื่อไปชุมนุมที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ และเคลื่อนขบวนไปยังศาลฎีกา เพื่อที่จะประกาศเจตนารมย์ เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวแกนนำคนเสื้อแดงว่า ถือว่าเป็นวิธีการกดดันศาลอย่างรุนแรง และในวันที่ 21 ก.พ. ศาลอาญาจะมีการพิจารณาคำร้องประกันตัวแกนนำนปช. ยิ่งทำให้การพิจารณาของศาลได้รับแรงกดดันจากภายนอกเป็นอย่างมาก ดังนั้น ตนขอสนับสนุนการทำหน้าที่ของตุลาการอย่างอิสระ โดยไม่เกรงกลัวอิทธิพลใดๆ หากมีความวุ่นวายที่อาจจะไปกระทบต่อความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ของ ตุลาการ เชื่อว่ารัฐบาลก็พร้อมที่จะคุ้มครองและแก้ปัญหาให้ ไม่อยากให้ตุลาการศาลยุติธรรมหวั่นไหวใดๆ ทั้งสิ้น
นายเทพไทกล่าวว่า ส่วนการที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย แกนนำกลุ่ม นปช. ออกมาข่มขู่ว่าหากแกนนำไม่ได้รับอิสรภาพ ก็เหมือนกับเป็นการบีบให้คนเสื้อแดงจนตรอกและแตกหัก และจะชุมนุมใหญ่ในวันที่ 12 มี.ค. ซึ่งอาจจะเป็นการชุมนุมยืดเยื้อนั้น ว่า พฤติกรรมนายจตุพร ได้ใช้วิธีการข่มขู่หน่วยงานต่างๆ ไปทั่ว เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องและหลักกฎหมาย การปล่อยตัวแกนนำ นปช.กี่คนก็ย่อมอยู่กับดุลพินิจของศาลว่าพฤติกรรมคนเหล่านั้นเป็นอย่างไร ถ้านายจตุพรบอกว่าหากศาลปล่อยตัวแกนนำ 2 คน คือ นพ.เหวง โตจิราการ และนายก่อแก้ว พิกุลทอง ตัวเองก็พร้อมเข้าคุกร่วมกับแกนนำคนอื่นๆ นั้น นายจตุพรไม่ควรที่จะพูดให้สังคมเห็นว่าตัวเองกล้าหาญ เป็นผู้เสียสละ ถ้าอยากติดคุกกับเพื่อนๆ แล้วทำไมต้องรีบยื่นประกันตัว และใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง
“วันก่อนศาลเคยถอนประกันตัวนายจตุพรมาแล้ว ก็ต้องรีบวิ่งไปรายงานตัวต่อศาลทันทีเพื่อไม่อยากให้ตัวเองติดคุก เป็นพฤติกรรมขอมคนขี้ขลาดตาขาว เก่งแต่ปาก ทั้งๆ ที่ตัวเองเอาเปรียบเพื่อนที่ร่วมชะตากรรมมาโดยตลอด การประกาศชุมนุมใหญ่ในวันที่ 12 มี.ค. แสดงให้เห็นว่า กลุ่ม นปช.กำลังเตรียมตัวที่จะมีการชุมนุมใหญ่ในรอบปีครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นการชุมนุมในช่วง เม.ย.ทุกปี ดังนั้นอยากให้หน่วยงานความมั่นคงติดตามความเคลื่อนไหวเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และอยากให้ประชาชนคนไทยทุกคนออกมาต่อต้าน ขัดขวางพฤติกรรมเผาบ้านเผาเมืองของกลุ่ม นปช.ครั้งที่ 3 อีก” นายเทพไทกล่าว
นายเทพไทยังกล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคเพื่อไทยว่า ไม่ควรออกมาข่มขู่เรื่องการอภิปรายรายวันว่ามีประเด็นเด็ด ที่จะเป็นหมัดน็อกรัฐบาล ทั้งๆ ที่ข้อเท็จจริงยังไม่เคยเห็นพร้อม ทั้งในตัวผู้อภิปรายและข้อมูล มีเพียงการหยิบฉวยเอาประเด็นข่าวเฉพาะหน้ามาเท่านั้น เช่น กรณี 3 จี และน้ำมันปาล์มขาดตลาด ซึ่งทั้ง 2 เรื่อง รัฐบาลกำลังแก้ปัญหาอยู่ ถ้าแก้ 2 เรื่องดังกล่าวได้ก็ทำให้พรรคเพื่อไทยหมดประเด็นมาอภิปรายอีก และจากการติดตามเรื่องดังกล่าวแล้วก็รู้ว่าพรรคเพื่อไทยได้ระดมเจ้าหน้าที่ของพรรคตัดข่าวตามหน้าหนังสื่อพิมพ์ในประเด็นร้อนเพื่อใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้าอ้างว่ามีข้อมูลและใบเสร็จจริงก็ควรที่จะออกมายืนยัน เพราะรัฐบาลก็อยากเห็นเหมือนกันว่าในเสร็จนั้นเป็นอย่างไร
นายเทพไทกล่าวว่า ถ้าอภิปรายในประเด็นการทุจริต พรรคเพื่อไทยก็ควรที่จะยื่นถอดถอนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ควบคู่กับการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย ส่วนที่พรรคเพื่อไทยกล่าวหานายกฯ ว่าใช้ความสามารถการเป็นนักพูดอาชีพมาตอบโต้พรรคเพื่อไทยนั้นก็ไม่เป็นความจริง แม้ว่านายกฯ จะเป็นนักพูดที่นำเสนอเก่งก็จริง ถ้าไม่มีข้อมูลข้อเท็จจริงก็ไม่สามารถที่พูดให้ประชาชนเข้าใจหรือคล้อยตามได้ สิ่งที่นายกฯ ชี้แจงในสภาผู้แทนราษฎร ก็ล้วนแต่เป็นความจริงที่พรรคเพื่อไทยไม่สามารถโต้แย้งใดๆ ได้ทั้งสิ้น ในพรรคเพื่อไทยก็มีนักพูดหลายคน ก็อยากถามว่าทำไมไม่สามารถที่จะพูดให้ประชาชนเข้าใจได้ เพราะการพูดของคนพรรคเพื่อไทยมีแต่ลมปาก สำนวนโวหาร ไม่มีข้อเท็จจริงที่มีน้ำหนักเพียงพอ จึงมากล่าหานายกฯพูดเก่งกว่า ทำให้ประชาชนเชื่อข้อมูลและยอมรับได้มากกว่าข้อมูลของพรรคเพื่อไทยก็ไม่เป็นความจริง
ส่วนที่นายจตุพรเอาใบสูติบัตรของนายกฯ มาเปิดเผยบนเวทีการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น เป็นเพียงหนังสือสำคัญที่ระบุถึงการเกิดของนายกฯ ที่เมืองนิวคาสเซิล ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่นายกฯ ไม่เคยปฏิเสธ แต่การมากล่าวหาว่านายกฯ เป็นคน 2 สัญชาตินั้น ก็ต้องพิสูจน์เจตนารมณ์ของนายกฯ ที่มีการแสดงออกต้องการถือสัญชาติไทยเพียงอย่างเดียวตั้งแต่เกิดมาโดยตลอด และการออกมาเปิดเผยเรื่องดังกล่าว ก็ไม่เกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆทั้งสิ้น ถ้าจะเอาเรื่องดังกล่าวเพื่อใช้เป็นเงื่อนไขในการฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ ก็ต้องเป็นหน้าที่ของนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาก่อการร้าย ที่พยายามดิ้นรนเอาหลักฐานเพื่อฟ้องร้องนายกฯ ต่อศาลอาญาระหว่างประเทศให้ได้ เป็นแค่การทำงานของฝรั่งรับจ้างที่ต้องการสร้างผลงานหลอกเอาเงิน พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองภายในประเทศของนายกฯ
“ถ้าต้องการแสดงออกช่วยเหลือนายโรเบิร์ต หรือเป็นลูกคู่ให้ฝรั่งรับจ้างทำลายชาติ โดยเอาข้อมูลจากนายโรเบิร์ตมาเผยแพร่ ต้องกลับไปคิดทบทวนว่าเรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการเมืองในประเทศอย่างไร เรื่องนี้เป็นเพียงขบวนการของฝรั่งตาน้ำข้าวที่ต้องการต้มตุ๋น พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณก็มาต้มตุ๋นคนเสื้อแดงอีกทอดหนึ่ง โดยใช้แกนนำ นปช.เป็นเครื่องมือ” นายเทพไทกล่าว