“ธาริต” ชักเข้าชักออก! ยื่นถอนประกัน “ไอ้ตู่” อีก - ชี้สมคบ “แม้ว” โฟนอินกระทบคดี

“ธาริต” หวนยื่นฟ้องถอนประกัน “ไอ้ตู่” อีกรอบวันพุธนี้ หลังวิเคราะห์พฤติการณ์เพิ่ม ระบุ เป็นแกนนำให้เกิดการชุมนุมเรือนหมื่น แถมรู้เห็นเป็นใจกับ “ทักษิณ” ต่อสายโฟนอิน พูดเนื้อหากระทบต่อการสอบสวน ระบุ เป็นการเข้าข่ายก้าวล่วงต่อศาล ส่วนผลการถอนประกันหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล

วันนี้ (11 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีก่อการร้าย แถลงข่าวกรณี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดสวน พรรคเพื่อไทย จำเลยในคดีก่อการร้าย เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 ม.ค.ว่า ครั้งแรกคณะพนักงานสอบสวนคดีก่อการร้ายได้วิเคราะห์พฤติการณ์ของนายจตุพร ในการขึ้นเวที นายจตุพรไม่ได้พูดอะไรที่เข้าข่ายผิดข้อกำหนดฝ่าฝืนเงื่อนไขในการให้ประกันตัว แต่เมื่อได้วิเคราะห์เพิ่มเติมถึงพฤติการณ์โดยรวม พบว่า นายจตุพร เป็นแกนนำให้เกิดการชุมนุมเรือนหมื่น แล้วนายจตุพรได้ต่อสายโทรศัพท์ไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่อยู่ต่างประเทศ โดยนายจตุพรเป็นคนถือโทรศัพท์เอง และ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็พูดผ่านเครื่องโทรศัพท์ของนายจตุพร และนายจตุพร ก็ถ่ายทอดเสียงออกไป ซึ่งถ้อยคำที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้พูด มีถ้อยคำอยู่หลายตอนซึ่งอาจกระทบกระเทือนต่อการสอบสวนและการดำเนินคดี นายจตุพร จึงอยู่ในฐานะรู้เห็นเป็นใจ ในการดำเนินการดังกล่าวแม้นายจตุพรไม่ได้เป็นคนพูดเอง

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า ประการที่ 2 เมื่อวันจันทร์ นายจตุพร ได้ให้สัมภาษณ์สองประโยคสำคัญ คือ บอกว่า นายจตุพร ไม่ใช่ลูกไล่นายธาริต นายธาริตเป็นเพียงข้าราชการซี 10 ที่ ส.ส.ไม่จำเป็นต้องไปกลัว แต่นายธาริตต้องกลัวตัวนายจตุพร และจะไล่ฟ้องนายธาริตในหลายเรื่อง สอง นายจตุพร บอกว่า อาจจะดำเนินการฟ้องศาลในฐานะที่ศาลได้ออกข้อกำหนดไม่ถูกต้อง เพราะว่าพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้เลิกแล้ว และสั่งห้ามชุมนุมอีก 2 ประโยคนี้ดีเอสไอได้พิจารณาร่วมกันแล้วเห็นว่าการกระทำของนายจตุพร เข้าข่ายเป็นการประทำที่อาจกระทบกระเทือนต่อการสอบสวน หรือการพิจารณาคดีของศาล ตนในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน และในฐานะพยานในคดีได้ถูกนายจตุพรข่มขู่ว่าจะต้องหวั่นกลัว โดยเฉพาะการฟ้องร้องซึ่งไม่จำเป็นว่าตนจะต้องกลัวหรือไม่

นายธาริต กล่าวอีกว่า การกระทำของนายจตุพร ถือว่าเข้าข่ายไปก้าวล่วงต่อศาล ซึ่งไม่ถูกต้อง พฤติการณ์ทั้งปวง ตั้งแต่เป็นหัวเรือใหญ่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินแล้วถือโทรศัพท์ออกเครื่องขยายเสียง และการให้สัมภาษณ์ เป็นการกระทำผิดเงื่อนไขที่ศาลอาญากำหนดห้ามกระทำ ดีเอสไอจะดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาเพื่อให้ถอนประกันตัวนายจตุพร ในวันพุทธนี้ เวลา 10.30 น.และขอยืนยันว่า ไม่ได้เป็นลูกไล่หรือไปรุกไล่นายจตุพร แต่เป็นหน้าที่ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีก่อการร้าย ที่ต้องดำเนินการ หากดีเอสไอไม่ดำเนินการแล้วใครจะเป็นคนทำ จะเกิดความเสียหายต่อสังคมตนจำเป็นต้องทำหน้าที่ของตน ส่วนผลสุดท้ายศาลใช้ดุลพินิจเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับศาล