ASTVผู้จัดการรายวัน-"พรทิวา"สั่งไล่บี้สอบผู้ผลิตอาหารสัตว์ดอดขึ้นราคา จนทำให้ต้นทุนการผลิตหมู ไข่ไก่ สูงขึ้นจนต้องขึ้นราคาตาม พร้อมส่งหมูธงฟ้าแก้เกมช่วยลดค่าครองชีพ "ยรรยง"เตรียมเข้าดูแลเส้นทางหมูหน้าฟาร์มถึงหน้าเขียง ชี้หากใครฉวยโอกาสเจอเล่นงานหนัก ส่วนการลดต้นทุนการเลี้ยงตามนโยบายประชาวิวัฒน์เป็นเรื่องของกระทรวงเกษตรฯ ที่ต้องดูแล ดันต่อไข่ชั่งกิโล เพิ่มทางเลือกขายในห้างค้าปลีก
นายฉัตรชัย ชูแก้ว โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน ไปทำการตรวจสอบต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์ว่ามีการปรับขึ้นราคาจริงหรือไม่ เพราะขณะนี้อยู่ในช่วงการขอความร่วมมือให้ตรึงราคา จึงไม่น่าที่จะมีการปรับราคาเพิ่มขึ้น และขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีการปรับขึ้นราคาเนื้อหมู และไข่ไก่ ตามที่เกษตรกรอ้างว่าเป็นเพราะต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นราคาอาหารสัตว์ว่าเป็นจริงหรือไม่ เพราะจากการตรวจสอบไม่พบว่าต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์จะมีการปรับเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน ขอให้กรมการค้าภายในเร่งจัดส่งหมูธงฟ้าราคากิโลกรัมละ 90 บาท เข้าสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกและลดค่าครองชีพให้กับประชาชน
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์จะเข้าไปดูแลราคาระหว่างต้นทาง คือ หมูมีชีวิตหน้าฟาร์มไปจนถึงเนื้อหมูชำแหละหน้าเขียงว่าสอดคล้องกันหรือไม่ ไม่ใช่ว่าหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มราคาเท่าเดิม แต่หมูหน้าเขียงแพงขึ้น เพราะหากเป็นเช่นนี้ก็แสดงว่า มีการฉวยโอกาสทางการค้าอย่างไม่เป็นธรรม ก็จะต้องเข้าไปจัดระเบียบให้ทุกฝ่ายค้าขายอย่างมีกำไรตามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ราคาเนื้อหมูในช่วงหน้าร้อนจะมีปัญหาทุกปี เพราะอากาศร้อนจะทำให้หมูโตช้า
สำหรับโครงการขายไข่ชั่งกิโล ซึ่งนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เสนอให้ปรับระบบขายไข่ชั่งกิโลใหม่โดยเข้าไปซื้อรับจากสหกรณ์มาวางจำหน่ายใน 4 จังหวัดใหญ่ทั่วประเทศนั้น เป็นเรื่องของวิธีการ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ดำเนินการลักษณะดังกล่าวอยู่แล้ว
ส่วนของการลดต้นทุนการผลิตสุกร ไก่ไข่ ตามโครงการประชาวิวัฒน์ เป็นหน้าที่หลักของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเข้าไปจับคู่กลุ่มเกษตรผู้เลี้ยงกับผู้จำหน่ายอาหารสัตว์ เพื่อให้ซื้อได้ราคาต่ำลง
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายไข่ไก่ชั่งกิโลผ่านห้างค้าปลีก โดยจะปรับลดราคาขายลงเหลือกก.ละ 48-49 บาท เพื่อจูงใจผู้บริโภค ส่วนในตลาดสด ปัจจุบันได้มีการจำหน่ายไข่ไก่แบบชั่งกิโลแล้วจำนวน 23 แห่ง
ก่อนหน้านี้ เกษตรกรได้ออกมาให้ข้อมูลว่า สาเหตุที่ต้องปรับขึ้นราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์ม ก็เพื่อลดภาระการขาดทุนจากการปรับขึ้นราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นเหตุทำให้ราคาหมูหน้าเขียงปรับเพิ่มขึ้นจาก 105-110 บาท/กก. เพิ่มเป็น 115-120 บาท/กก. ขณะที่ไข่ไก่ ราคาหน้าฟาร์มขายอยู่ที่ฟองละ 2.70 บาท ราคาขายปลีกไม่ควรเกินฟองละ 3 บาท แต่ราคาขายจริงในท้องตลาดอยู่ที่ 3.10 บาท โดยสาเหตุหลักมาจากต้นทุนการเลี้ยงที่เพิ่มสูงขึ้นจากราคาวัตถุดิบ และเกิดโรคระบาดในไก่ไข่
นายฉัตรชัย ชูแก้ว โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน ไปทำการตรวจสอบต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์ว่ามีการปรับขึ้นราคาจริงหรือไม่ เพราะขณะนี้อยู่ในช่วงการขอความร่วมมือให้ตรึงราคา จึงไม่น่าที่จะมีการปรับราคาเพิ่มขึ้น และขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีการปรับขึ้นราคาเนื้อหมู และไข่ไก่ ตามที่เกษตรกรอ้างว่าเป็นเพราะต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นราคาอาหารสัตว์ว่าเป็นจริงหรือไม่ เพราะจากการตรวจสอบไม่พบว่าต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์จะมีการปรับเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน ขอให้กรมการค้าภายในเร่งจัดส่งหมูธงฟ้าราคากิโลกรัมละ 90 บาท เข้าสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกและลดค่าครองชีพให้กับประชาชน
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์จะเข้าไปดูแลราคาระหว่างต้นทาง คือ หมูมีชีวิตหน้าฟาร์มไปจนถึงเนื้อหมูชำแหละหน้าเขียงว่าสอดคล้องกันหรือไม่ ไม่ใช่ว่าหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มราคาเท่าเดิม แต่หมูหน้าเขียงแพงขึ้น เพราะหากเป็นเช่นนี้ก็แสดงว่า มีการฉวยโอกาสทางการค้าอย่างไม่เป็นธรรม ก็จะต้องเข้าไปจัดระเบียบให้ทุกฝ่ายค้าขายอย่างมีกำไรตามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ราคาเนื้อหมูในช่วงหน้าร้อนจะมีปัญหาทุกปี เพราะอากาศร้อนจะทำให้หมูโตช้า
สำหรับโครงการขายไข่ชั่งกิโล ซึ่งนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เสนอให้ปรับระบบขายไข่ชั่งกิโลใหม่โดยเข้าไปซื้อรับจากสหกรณ์มาวางจำหน่ายใน 4 จังหวัดใหญ่ทั่วประเทศนั้น เป็นเรื่องของวิธีการ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ดำเนินการลักษณะดังกล่าวอยู่แล้ว
ส่วนของการลดต้นทุนการผลิตสุกร ไก่ไข่ ตามโครงการประชาวิวัฒน์ เป็นหน้าที่หลักของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเข้าไปจับคู่กลุ่มเกษตรผู้เลี้ยงกับผู้จำหน่ายอาหารสัตว์ เพื่อให้ซื้อได้ราคาต่ำลง
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายไข่ไก่ชั่งกิโลผ่านห้างค้าปลีก โดยจะปรับลดราคาขายลงเหลือกก.ละ 48-49 บาท เพื่อจูงใจผู้บริโภค ส่วนในตลาดสด ปัจจุบันได้มีการจำหน่ายไข่ไก่แบบชั่งกิโลแล้วจำนวน 23 แห่ง
ก่อนหน้านี้ เกษตรกรได้ออกมาให้ข้อมูลว่า สาเหตุที่ต้องปรับขึ้นราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์ม ก็เพื่อลดภาระการขาดทุนจากการปรับขึ้นราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นเหตุทำให้ราคาหมูหน้าเขียงปรับเพิ่มขึ้นจาก 105-110 บาท/กก. เพิ่มเป็น 115-120 บาท/กก. ขณะที่ไข่ไก่ ราคาหน้าฟาร์มขายอยู่ที่ฟองละ 2.70 บาท ราคาขายปลีกไม่ควรเกินฟองละ 3 บาท แต่ราคาขายจริงในท้องตลาดอยู่ที่ 3.10 บาท โดยสาเหตุหลักมาจากต้นทุนการเลี้ยงที่เพิ่มสูงขึ้นจากราคาวัตถุดิบ และเกิดโรคระบาดในไก่ไข่
