ASTVผู้จัดการรายวัน – บีทีเอสยันยื่นประมูลสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสีม่วงบางใหญ่-บางซื่อ 24 ก.พ.นี้แน่นอน เผยขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกซัปพลายเออร์ โดยเสนอจัดหารถวิ่ง 25 ขบวนๆละ 4 ตู้ โดยมีมูลค่าโครงการรวม 2 หมื่นล้านบาท ส่วนแหล่งเงินทุนอาจนำBTSCเข้าระดมทุนในตลาดหุ้น แย้มปีนี้จำนวนผู้โดยสารและรายได้จากการเดินรถไฟฟ้าโตไม่ต่ำกว่า 10% เหตุคอนโดฯใหม่ผุดเพียบ-เปิดเดินรถส่วนต่อขยายอ่อนนุช-แบริ่ง
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)(BTSC) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการคัดเลือกซัปพลายเออร์ที่ยื่นเสนอราคาเกี่ยวกับติดตั้งระบบเดินรถและอื่นๆที่เกี่ยวข้องในการให้บริการให้แล้วเสร็จ และจะยื่นประมูลสัมปทานเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงบางใหญ่-บางซื่อในวันที่ 24 ก.พ.นี้
โครงการดังกล่าวจะใช้เงินลงทุนประมาณ 2 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทฯจะลงทุนเองทั้งหมด ซึ่งบริษัทมีความมั่นใจว่าจะได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะการประมูลดังกล่าว เนื่องจากบริษัทฯเป็นผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าลอยฟ้ามานานกว่า 10ปี และตามเงื่อนไขระบุว่า เมื่อประกาศรายชื่อผู้ได้รับคัดเลือกสัมปทานจะมีเวลา 60 วัน ต้องมีความพร้อมในด้านการเงินและอีก 1200 วันในการสร้างงานระบบและจัดหารถไฟฟ้าให้แล้วเสร็จ โดยบริษัทฯจะเสนอใช้รถไฟฟ้า25 ขบวนๆละ 3 ตู้
สำหรับแหล่งเงินทุนนั้น บริษัทฯอาจจะนำบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯเพื่อระดมทุนใช้ในโครงการ หรือจัดหาเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์เพื่อใช้การลงทุน เนื่องจากสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงเป็นสัญญาแบบ (BBB) ทำให้มีความเสี่ยงต่ำ และฐานะการเงินของบีทีเอสซีก็เข้มแข็งจะเห็นได้จากจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นทุกปี
นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีความสนใจที่จะเข้าร่วมประมูลเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวเส้นหมอชิต-สะพานใหม่และแบริ่ง-สมุทรปราการ ส่วนการลงทุนในต่างประเทศนั้นคงต้องชะลอไปก่อนเนื่องจากความวุ่นวายภายในประเทศ
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อไปว่า ในปีนี้บริษัทฯคาดว่าจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% ส่งผลให้รายได้และกำไรสุทธิเติบโตในอัตราใกล้เคียงกัน เนื่องจากมีคอนโดมิเนียมใหม่เกิดขึ้นตามเส้นทางรถไฟฟ้า และบริษัทฯได้มีการเพิ่มจำนวนรถไฟฟ้า 12 ขบวนๆละ 4ตู้ที่วิ่งเส้นสีลมเป็นที่เรียบร้อยแล้วรวมทั้งมีการเปิดเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายอ่อนนุช-แบริ่งในเดือนส.ค.นี้ ทำให้มีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น8หมื่นถึง1แสนคน/วัน
สำหรับส่วนต่อขยายวงเวียนใหญ่-บางหว้า บริษัทฯมีแผนจัดซื้อรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีก5 ขบวนๆ ละ 4ตู้ ซึ่งจะดำเนินการจัดซื้อภายหลังจากได้ลงนามสัญญาให้เป็นผู้เดินรถก่อน ซึ่งคาดว่าจะลงนามสัญญาได้ภายในปีนี้
ปัจจุบันรถไฟฟ้าบีทีเอสมีผู้โดยสารวันจันทร์-ศุกร์เฉลี่ย 4.8 แสนเที่ยวคน/วัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5 % ซึ่งโตใกล้เคียงเป้าหมายเดิมที่วางไว้ว่าปี 53 อัตราการเติบโตจะเพิ่มขึ้น 8%จากปีก่อน แต่เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบภายในประเทศในปีที่แล้วทำให้ต้องหยุดเดินรถในบางช่วง อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาบริษัทฯได้ลดค่าใช้จ่ายต่างๆทำให้รายได้จากการเดินรถในปี53(1เม.ย.53-31 มี.ค.54) คาดว่ามีรายได้สุทธิเติบโตขึ้นมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 8%
วานนี้ (14 ก.พ.)ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิดงาน”เชื่อมล้อ...เชื่อมราง...ด้วยตั๋วใบเดียว” โดยเป็นการนำระบบตั๋วร่วมรูปแบบใหม่ที่ใช้เดินทางระหว่างรถโดยสารด่วนพิเศษBRT กับรถไฟฟ้าบีทีเอส มาใช้เป็นครั้งแรก เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนผู้เดินทางพร้อมกับเดินหน้าก่อสร้างลิฟท์โดยสารสำหรับผู้พิกาเพิ่มเติมให้ครบทุกสถานีจำนวน 56 ชุดภายใน1ปี
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)(BTSC) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการคัดเลือกซัปพลายเออร์ที่ยื่นเสนอราคาเกี่ยวกับติดตั้งระบบเดินรถและอื่นๆที่เกี่ยวข้องในการให้บริการให้แล้วเสร็จ และจะยื่นประมูลสัมปทานเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงบางใหญ่-บางซื่อในวันที่ 24 ก.พ.นี้
โครงการดังกล่าวจะใช้เงินลงทุนประมาณ 2 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทฯจะลงทุนเองทั้งหมด ซึ่งบริษัทมีความมั่นใจว่าจะได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะการประมูลดังกล่าว เนื่องจากบริษัทฯเป็นผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าลอยฟ้ามานานกว่า 10ปี และตามเงื่อนไขระบุว่า เมื่อประกาศรายชื่อผู้ได้รับคัดเลือกสัมปทานจะมีเวลา 60 วัน ต้องมีความพร้อมในด้านการเงินและอีก 1200 วันในการสร้างงานระบบและจัดหารถไฟฟ้าให้แล้วเสร็จ โดยบริษัทฯจะเสนอใช้รถไฟฟ้า25 ขบวนๆละ 3 ตู้
สำหรับแหล่งเงินทุนนั้น บริษัทฯอาจจะนำบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯเพื่อระดมทุนใช้ในโครงการ หรือจัดหาเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์เพื่อใช้การลงทุน เนื่องจากสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงเป็นสัญญาแบบ (BBB) ทำให้มีความเสี่ยงต่ำ และฐานะการเงินของบีทีเอสซีก็เข้มแข็งจะเห็นได้จากจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นทุกปี
นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีความสนใจที่จะเข้าร่วมประมูลเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวเส้นหมอชิต-สะพานใหม่และแบริ่ง-สมุทรปราการ ส่วนการลงทุนในต่างประเทศนั้นคงต้องชะลอไปก่อนเนื่องจากความวุ่นวายภายในประเทศ
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อไปว่า ในปีนี้บริษัทฯคาดว่าจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% ส่งผลให้รายได้และกำไรสุทธิเติบโตในอัตราใกล้เคียงกัน เนื่องจากมีคอนโดมิเนียมใหม่เกิดขึ้นตามเส้นทางรถไฟฟ้า และบริษัทฯได้มีการเพิ่มจำนวนรถไฟฟ้า 12 ขบวนๆละ 4ตู้ที่วิ่งเส้นสีลมเป็นที่เรียบร้อยแล้วรวมทั้งมีการเปิดเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายอ่อนนุช-แบริ่งในเดือนส.ค.นี้ ทำให้มีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น8หมื่นถึง1แสนคน/วัน
สำหรับส่วนต่อขยายวงเวียนใหญ่-บางหว้า บริษัทฯมีแผนจัดซื้อรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีก5 ขบวนๆ ละ 4ตู้ ซึ่งจะดำเนินการจัดซื้อภายหลังจากได้ลงนามสัญญาให้เป็นผู้เดินรถก่อน ซึ่งคาดว่าจะลงนามสัญญาได้ภายในปีนี้
ปัจจุบันรถไฟฟ้าบีทีเอสมีผู้โดยสารวันจันทร์-ศุกร์เฉลี่ย 4.8 แสนเที่ยวคน/วัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5 % ซึ่งโตใกล้เคียงเป้าหมายเดิมที่วางไว้ว่าปี 53 อัตราการเติบโตจะเพิ่มขึ้น 8%จากปีก่อน แต่เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบภายในประเทศในปีที่แล้วทำให้ต้องหยุดเดินรถในบางช่วง อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาบริษัทฯได้ลดค่าใช้จ่ายต่างๆทำให้รายได้จากการเดินรถในปี53(1เม.ย.53-31 มี.ค.54) คาดว่ามีรายได้สุทธิเติบโตขึ้นมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 8%
วานนี้ (14 ก.พ.)ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิดงาน”เชื่อมล้อ...เชื่อมราง...ด้วยตั๋วใบเดียว” โดยเป็นการนำระบบตั๋วร่วมรูปแบบใหม่ที่ใช้เดินทางระหว่างรถโดยสารด่วนพิเศษBRT กับรถไฟฟ้าบีทีเอส มาใช้เป็นครั้งแรก เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนผู้เดินทางพร้อมกับเดินหน้าก่อสร้างลิฟท์โดยสารสำหรับผู้พิกาเพิ่มเติมให้ครบทุกสถานีจำนวน 56 ชุดภายใน1ปี
