ASTVผู้จัดการรายวัน-"โสภณ”เบรกปะทะกทม. กลับลำถอดชงครม.ตัดสินบริหารเดินรถสีเขียวต่อขยาย ระบุเป็นเรื่องที่รฟม.และกทม.ต้องคุยกันเอง คมนาคมเดินงานก่อสร้างประกาศประมูลสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ก.พ.นี้ เร่งศึกษาสีส้มและม่วงต่อขยาย หลังครม.ไฟเขียวโยกงบศึกษา ส่วนก่อสร้างสีม่วงไปบางใหญ่เร็วกว่าแผน
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (11 ม.ค.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบในการโอนงบประมาณศึกษาและออกแบบรายละเอียดโครงการรถไฟฟ้าสายวงแหวนรอบในตามแนวถนนรัชดาภิเษกจำนวน 400 ล้านบาท มาใช้ในการทบทวนความเหมาะสมศึกษาออกแบบรายละเอียดและจัดทำเอกสารประกวดราคารถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วง ตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี ระยะทาง 37.5 กม. วงเงิน 210 ล้านบาท และสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 19.8 กม. วงเงิน 140 ล้านบาท พร้อมทั้งรับทราบความก้าวหน้า ปัญหา อุปสรรคและแนวทางการแก้ไขปัญหาการดำเนินงานการดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนทางราง
ส่วนการบริหารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงส่วนต่อขยาย (หมอชิต-สะพานใหม่) ระหว่างกรุงเทพมหานคร (กทม.) กับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) นั้น หลังจากพิจารณาข้อมูลแล้วเห็นว่า ควรถอนเรื่องดังกล่าวออกมา เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ภาระของรัฐบาลที่ต้องตัดสินใจว่าใครจะเป็นผู้บริหารการเดินรถสายสีเขียว เพราะเป็นเรื่องที่สองหน่วยงานคือ รฟม.และกทม.ที่จะต้องเจรจากัน จึงไม่จำเป็นต้องเสนอครม. ซึ่งหลักการการบริหารเดินรถไฟฟ้าควรมีหน่วยงานที่เป็นเจ้าภาพ ซึ่งรฟม.เป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้นมาเพื่อบริหารรถไฟฟ้า จึงอยากเห็นการบริหารเป็นแบบครบวงจร ซึ่งขณะนี้ยึดมติครม.ที่ให้รฟม.รับผิดชอบการก่อสร้างงานโยธาทั้งหมด
“รฟม.กับกทม.ก็ต้องเจรจาเรื่องการเดินรถคู่ขนานไปกับการก่อสร้าง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานใดบริหาร กระทรวงคมนาคมไม่ขัดข้อง แต่ประชาชนจะต้องเป็นผู้ได้รับประโยชน์สูงสุด”นายโสภณกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า เดิมกระทรวงคมนาคมได้เตรียมเรื่องเสนอครม. เพื่อขอมติให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความในเรื่องของการบริหารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงส่วนต่อขยาย (หมอชิต-สะพานใหม่) ระหว่าง กทม.กับ รฟม. เพื่อให้ครม.ชี้ขาด เนื่องจากยังไม่สามารถตกลงกันได้ โดยกทม.อ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของโครงการ ตามมติครม.วันที่ 7 ก.ย.2547 ส่วนรฟม.อ้างมติครม.วันที่ 7 พ.ย. 2549
นายโสภณกล่าวภายหลังตรวจความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อว่า ขณะนี้มีความคืบหน้ากว่า 20% เร็วกว่าแผน 1-2% และจะแล้วเสร็จสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 2557 ทั้งนี้ นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการ จ.นนทบุรี ได้เสนอให้ รฟม.ต่อขยายจากปลายทางบางใหญ่ไปถึงไทรน้อย ระยะทาง 4 กม. เพื่อรองรับประชาชนที่เดินทางในบริเวณ จ.นนทบุรี และจ.สุพรรณบุรี ซึ่งได้ให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ประสานกับรฟม.เพื่อทำการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการรฟม.กล่าวว่า ปัญหาเรื่องการเดินรถสายสีเขียวส่วนต่อขยายนั้น ต้องมีการหารือกับกทม.ให้ชัดเจนก่อน ส่วนงานโยธานั้น ขณะนี้รฟม.มีความพร้อมในการประกวดราคาแล้ว โดยภายในเดือนก.พ.2554 จะประกาศประกวดราคาช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการก่อน ส่วนช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ นั้นยังอยู่ระหว่างการปรับแบบก่อสร้างและจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นเร็วๆ นี้ จากนั้นจึงประกาศประกวดราคาได้
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (11 ม.ค.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบในการโอนงบประมาณศึกษาและออกแบบรายละเอียดโครงการรถไฟฟ้าสายวงแหวนรอบในตามแนวถนนรัชดาภิเษกจำนวน 400 ล้านบาท มาใช้ในการทบทวนความเหมาะสมศึกษาออกแบบรายละเอียดและจัดทำเอกสารประกวดราคารถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วง ตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี ระยะทาง 37.5 กม. วงเงิน 210 ล้านบาท และสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 19.8 กม. วงเงิน 140 ล้านบาท พร้อมทั้งรับทราบความก้าวหน้า ปัญหา อุปสรรคและแนวทางการแก้ไขปัญหาการดำเนินงานการดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนทางราง
ส่วนการบริหารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงส่วนต่อขยาย (หมอชิต-สะพานใหม่) ระหว่างกรุงเทพมหานคร (กทม.) กับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) นั้น หลังจากพิจารณาข้อมูลแล้วเห็นว่า ควรถอนเรื่องดังกล่าวออกมา เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ภาระของรัฐบาลที่ต้องตัดสินใจว่าใครจะเป็นผู้บริหารการเดินรถสายสีเขียว เพราะเป็นเรื่องที่สองหน่วยงานคือ รฟม.และกทม.ที่จะต้องเจรจากัน จึงไม่จำเป็นต้องเสนอครม. ซึ่งหลักการการบริหารเดินรถไฟฟ้าควรมีหน่วยงานที่เป็นเจ้าภาพ ซึ่งรฟม.เป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้นมาเพื่อบริหารรถไฟฟ้า จึงอยากเห็นการบริหารเป็นแบบครบวงจร ซึ่งขณะนี้ยึดมติครม.ที่ให้รฟม.รับผิดชอบการก่อสร้างงานโยธาทั้งหมด
“รฟม.กับกทม.ก็ต้องเจรจาเรื่องการเดินรถคู่ขนานไปกับการก่อสร้าง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานใดบริหาร กระทรวงคมนาคมไม่ขัดข้อง แต่ประชาชนจะต้องเป็นผู้ได้รับประโยชน์สูงสุด”นายโสภณกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า เดิมกระทรวงคมนาคมได้เตรียมเรื่องเสนอครม. เพื่อขอมติให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความในเรื่องของการบริหารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงส่วนต่อขยาย (หมอชิต-สะพานใหม่) ระหว่าง กทม.กับ รฟม. เพื่อให้ครม.ชี้ขาด เนื่องจากยังไม่สามารถตกลงกันได้ โดยกทม.อ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของโครงการ ตามมติครม.วันที่ 7 ก.ย.2547 ส่วนรฟม.อ้างมติครม.วันที่ 7 พ.ย. 2549
นายโสภณกล่าวภายหลังตรวจความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อว่า ขณะนี้มีความคืบหน้ากว่า 20% เร็วกว่าแผน 1-2% และจะแล้วเสร็จสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 2557 ทั้งนี้ นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการ จ.นนทบุรี ได้เสนอให้ รฟม.ต่อขยายจากปลายทางบางใหญ่ไปถึงไทรน้อย ระยะทาง 4 กม. เพื่อรองรับประชาชนที่เดินทางในบริเวณ จ.นนทบุรี และจ.สุพรรณบุรี ซึ่งได้ให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ประสานกับรฟม.เพื่อทำการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการรฟม.กล่าวว่า ปัญหาเรื่องการเดินรถสายสีเขียวส่วนต่อขยายนั้น ต้องมีการหารือกับกทม.ให้ชัดเจนก่อน ส่วนงานโยธานั้น ขณะนี้รฟม.มีความพร้อมในการประกวดราคาแล้ว โดยภายในเดือนก.พ.2554 จะประกาศประกวดราคาช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการก่อน ส่วนช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ นั้นยังอยู่ระหว่างการปรับแบบก่อสร้างและจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นเร็วๆ นี้ จากนั้นจึงประกาศประกวดราคาได้