**สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่อาจวางใจได้ว่าความสงบปกติสุขได้กลับคืนมาแล้ว เค้าลางร้ายยังปกคลุมอยู่ และชี้ว่าเหตุการณ์อาจจะกลับมาร้อนระอุถึงจุดเดือดอีกในวันไหนก็ได้
แม้เสียงปืนสงบไป ไม่มีเหตุการณ์ปะทะทางทหารเกิดขึ้นมากว่าหนึ่งสัปดาห์ก็จริง แต่ความเคลื่อนไหวทางทหารฝ่ายกัมพูชาน่าหวั่นใจอย่างยิ่ง เนื่องจากมีการเคลื่อนกำลังพล และอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าเสริมกำลังรบเต็มที่อย่างต่อเนื่อง เป็นสัญญาณบ่งบอกที่พร้อมจะเปิดสงครามรอบใหม่กับไทยได้ตลอดเวลา
ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศหลังการปะทะในศึกยุทธการภูมะเขือ ที่กัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มยิงเข้าใส่ฝั่งไทยก่อนว่า การยิงปะทะกันระหว่างไทยกับกัมพูชาครั้งนี้ ไม่ใช่การปะทะ แต่เป็น “สงคราม”
เมื่อฮุน เซน ยอมรับว่าเป็นสงคราม ซึ่งก็ย่อมตีความได้ว่าเขมรต้องการที่จะทำศึกสู้รบกับไทย เพื่อหวังยึดแผ่นดินไทย ประชาชนคนไทย รวมทั้งอธิปไตยของไทยด้วย เพราะสงครามเขาไม่ทำกันเล่นๆ โดยไม่มีเป้าหมายต้องการสิ่งตอบแทน
ดังนั้นเมื่อคิดการใหญ่เช่นนี้ บวกกับความแค้นที่ฝ่ายเขมรพ่ายแพ้ที่ภูมะเขืออย่างราบคาบ มีทหารและพลเรือนตายนับร้อย บาดเจ็บอีกนับพัน อาวุธหนักเบาโดนยิงถล่มจนละลาย
**จึงเชื่อว่า อีกไม่นาน ยุทธการเอาคืนของฝ่ายกัมพูชา จะต้องระเบิดขึ้นอีกแน่!!
ขณะที่รัฐบาลไทยยังไปไม่เป็น ไม่มีแนวทางใดในการที่จะรวบรวมความสามัคคีของคนในชาติ เพื่อแสดงพลังออกมาต่อต้านการรุกรานของฮุน เซน เช่น กรณีที่คนออกมาชุมนุมประท้วงด้วยเจตนาที่ดี ก็ใช้ตำรวจมาของพื้นที่คืน แทนที่ไปช่วยกันปกป้องเขตแดนไทย ยามนี้รัฐบาลต้องหยุดความขัดแย้งทุกเรื่อง เพื่อทุ่มเทสติปัญญาไปคิดหาทางแก้ไขปัญหาที่เป็นภัยคุกคามประเทศ เป้าหมายเพื่อจัดการกับฮุน เซน ให้หายซ่าไปเสียที แต่ก็ไม่มีอะไรขยับให้หวังได้เลย
** สตง.ขยับเข้าทางเพื่อไทย
**ตรวจสอบ “จุติ”อนุมัติ 3 G
.....เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ หลังเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่า พรรคเพื่อไทย กำลังเก็บข้อมูล เรื่องการประมูลเพื่อติดตั้งโครงข่าย 3 จี ของทั้งทีโอที และกสท. เพื่อนำไปใช้อภิปรายไม่ไว้วางใจ จุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที)
ที่น่าสนใจคือ การออกมาขยับเล่นเรื่องนี้ด้วย ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ในยุคที่มีผู้บริหารสูงสุดคือ พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รองผู้ว่าฯสตง. และรักษาการผู้ว่าฯ สตง.
โดยมีคนคาบข่าวจากตึกสตง.ย่านซอยอารีย์ มาบอกว่า ไม่นานมานี้ “พิศิษฐ์” เรียกผู้บริหารระดับสูงตั้งแต่ระดับรองผู้ว่าฯ-ผอ.สำนักต่างๆ มาประชุม แล้วบอกว่า นับแต่นี้ สตง. ต้องสลายขั้ว ไม่มีอีกแล้ว เด็กพิศิษฐ์-เด็กคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ขอให้ร่วมมือกันทำงานเพื่อสร้างชื่อเสียงให้สตง. กลับมาระบือลือลั่นกันอีกครั้ง
ล่าสุด “พิศิษฐ์” ลงมาตรวจสอบเรื่อง 3 จี เช่นกัน ในส่วนของโครงการที่ บมจ.กสท โทรคมนาคม ได้ลงนามสัญญาความร่วมมือทางธุรกิจกับกลุ่มทรู เพื่อให้บริการ 3G บนคลื่นเดิมของ กสทฯ เมื่อ 27 ม.ค. 54 ที่ผ่านมา ด้วยการร่อนหนังสือในนามสตง. ถึงนายกรัฐมนตรี-รมว.คลัง และรมว.ไอซีที ให้ชี้แจงประเด็นข้อสงสัย ของ สตง.14 ประเด็น
**“พิศิษฐ์”ข้องใจว่า ที่มาที่ไปของโครงการนี้มันรวบรัดผิดปกติ แถมยังอาจผิดพ.ร.บ.ร่วมทุน ระหว่างรัฐกับเอกชนเข้าอีก โดยให้เวลา 2 สัปดาห์ ในการชี้แจงซึ่งหน่วยงานหลักที่จะต้องเคลียร์ทุกอย่างก็คือไอซีที นั่นเอง
การตรวจสอบของ สตง. ครั้งนี้ หลายคนก็บอกว่าดี เพื่อจะได้ให้ทุกอย่างหลายโปร่งใสหลังถูกวิจารณ์หนักถึงความรีบเร่งของโครงการดังกล่าว ก็ขนาดมีข่าวว่า คณะทำงานของสำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานะผู้ร่วมตรวจร่างสัญญาได้ทำหนังสือท้วงติง 4 ข้อ โครงการนี้ถึงกสท.-ไอซีทีให้พิจารณาให้รอบคอบก่อนหน้าวันทำสัญญาเพียงวันเดียว
วันนี้ เท่ากับมีทั้งอัยการ-สตง. แสดงความกังขาโครงการนี้แล้ว มันเลยเข้าทางฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทย ที่จะนำข้อกังขาดังกล่าวมาเพิ่มน้ำหนักการอภิปราย “จุติ” ให้มีน้ำหนักขึ้น
**ทว่าก็มีเสียงวิจารณ์ตามมาไม่น้อยว่า การออกมาของ พิศิษฐ์-สตง. รอบนี้ มันเข้าทางพรรคเพื่อไทยแบบพอเหมาะพอดีเกินไปหรือเปล่า ?
** “กลุ่มเชิดชัย”ย้ายพรรค
“สุวัจน์-ห้อย”พลังดูดแรง
....แม้ความชัดเจนเรื่องยุบสภายังไม่ชัด แต่การเตรียมย้ายพรรค และวางแผนก่อการทางการเมืองของพรรคการเมืองต่างๆ เริ่มคึกคักตามลำดับ
ที่แน่ชัดระดับหนึ่งคือ “กลุ่มเชิดชัย” ในพรรคเพื่อไทย มีเค้าลางย้ายออกจากพรรคเพื่อไทย ค่อนข้างแน่นอน แต่ไม่ได้ย้ายเข้าพรรคภูมิใจไทย อย่างที่หลายฝ่ายคาดการ แต่เป็นการไปอยู่กับ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ และไพโรจน์ สุวรรณฉวี ที่พรรคเพื่อแผ่นดิน
เห็นได้จากที่ อัสนี เชิดชัย ส.ส.นครราชสีมา และนายวราวุธ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ไปร่วมงานวันเกิด สุวัจน์ ที่บ้านราชวิถี เมื่อ 9 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ทั้ง อัสนีและวราวุธ ก็มีการถ่ายทำ ขึ้นโปสเตอร์กับสุวัจน์ ในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่โคราชมาแล้ว
**แม้อัสนีจะแบ่งรับแบ่งสู้อยู่ ก็ตาม แต่โอกาสไปค่อนข้างสูง
กระนั้นทั้ง สุวัจน์และไพโรจน์ ก็มีส.ส.โคราชเลือดไหลออกเช่นกัน ที่เห็นแล้วตอนนี้ก็สองหน่อ คือ ประนอม โพธิ์คำ จากเพื่อแผ่นดิน กับ สมชัย ฉัตรพัฒนศิริ ที่อยู่กับ สุวัจน์มาสิบกว่าปี ที่พรรคชาติพัฒนา
**โดยทั้ง “ประนอมและสมชัย” ทั้งเปิดตัว และชัดเจนมานานแล้วว่า เข้าภูมิใจไทยแน่นอน
แต่เห็นได้อย่างหนึ่งว่า พรรคเพื่อไทย มีแต่ข่าวไหลออก ไฉนไม่มีไหลเข้าในพื้นที่โคราช อันนี้มันน่าแปลก?
**กลัว “ปู่จิ้น”ถลอกหนักกว่านี้
**“ภูมิใจไทย”มองหาหัวคนใหม่!?
...ปิดท้ายด้วยข่าวการเปลี่ยนหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ชวรัตน์ ชาญวีรกูล อาจถูกปลดระวางก่อนการเลือกตั้งครั้งใหม่ แม้ทางลูกชาย “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล จะออกมาปฏิเสธข่าวนี้ว่ายังไม่ถึงเวลา และไม่เป็นความจริง
กระนั้นลึกๆ ที่รู้มา “อนุทิน” เตรียมหาบันไดให้ “เตี่ยจิ้น” ลงจากหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยแล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่า
**“ กลัวเตี่ยวิ่งขึ้นศาลตอนแก่ แทนที่จะวิ่งเข้าทำเนียบฯ-กระทรวง”
เนื่องจากสองปีที่ผ่านมา บนเก้าอี้รมว.มหาดไทย แม้จะถือว่าคุ้มแสนคุ้ม สำหรับตระกูลชาญวีรกูล ที่แยกตัวจากทักษิณ ชินวัตร มาจับมือ เนวิน ชิดชอบ ตั้งภูมิใจไทย จน ชวรัตน์ได้เป็น มท.1
แต่ทุกอย่างในโลกไม่มีของฟรี ชวรัตน์ โดนอภิปรายไม่ไว้วางใจปีที่แล้วหนักหนาไม่ใช่เล่น ปีนี้ก็กำลังจะโดนอีกเป็นปีที่สอง
**เพื่อไทยลับดาบ รอเชือด กะเอาให้คางเหลือง
หลายเรื่องสุ่มเสี่ยงอาจโดนขยายความไปเป็นคดีความกันได้หากหลักฐานของฝ่ายค้านแน่นหนาจริง
ขณะเดียวกัน ซิโน-ไทย บริษัทของตระกูลชาญวีรกูล แม้จะได้งานประมูลของรัฐไปหลายโครงการในช่วงสองปีที่ผ่านมา แต่ก็ทำให้บริษัทตกเป็นเป้าการเมืองชนิดขยับอะไรก็ถูกมองว่า ได้งานเพราะมีอำนาจรัฐคอยเกื้อหนุน อย่างเช่นที่โดน เฉลิม อยู่บำรุง อภิปรายร่ายยาวเป็นชั่วโมงตอนซักฟอกเรื่องรถไฟฟ้าสายสีม่วง
เรื่องแบบนี้ย่อมไม่เป็นผลดีในระยะยาว เพราะ “อนุทิน” อาจเห็นบทเรียนที่ทักษิณเจอมาแล้วกับกรณีชินคอร์ป ที่ตอนมีอำนาจก็ดีไปหมด พอหมดอำนาจก็โดนตรวจสอบย้อนหลังได้ทุกเมื่อ
แถมการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน ขนาดเป็น มท.1 ใหญ่สุดในมหาดไทย ยังโดนระดับผอ.สำนักฯในกรมการปกครอง วิเชียร ชิตชนกนารถ ตามสอยไม่ลดละ จน ชวรัตน์ โดนดีเอสไอสอบสวนเอาผิด คดีประมูลคอมพ์กรมการปกครอง จนป.ป.ช. ตั้งอนุกรรมการไต่สวนอยู่เวลานี้
“อนุทิน” เลยคิดหาทางลงให้ ชวรัตน์ เพื่อเซฟพ่อตัวเองไว้ ไม่ให้ถลอกไปมากกว่านี้ แต่อาจคิดดังไปหน่อย คนเลยรู้กันทั่ว
**ข่าวเล่าต่อๆ กันมาว่า เนวิน ก็ไม่ขัดข้อง แต่ปัญหาคือ แล้วใครจะมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ?
สูตรแรก คือไม่อยากได้นักธุรกิจ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้พรรคว่าไม่ใช่พรรคธุรกิจการเมือง แต่จะหาพวกคนมีสี อย่างอดีตบิ๊กทหาร มานั่ง ก็ใช่ง่าย มีติดต่อไปบ้าง แต่ไม่มีเสียงตอบรับ
**วิเคราะห์กันในพรรค เหตุที่เงียบ เพราะอดีตบิ๊กทหารบางคนแม้อยากมา แต่ไม่อยากอยู่ใต้อาณัติ “เนวิน”
แม้เสียงปืนสงบไป ไม่มีเหตุการณ์ปะทะทางทหารเกิดขึ้นมากว่าหนึ่งสัปดาห์ก็จริง แต่ความเคลื่อนไหวทางทหารฝ่ายกัมพูชาน่าหวั่นใจอย่างยิ่ง เนื่องจากมีการเคลื่อนกำลังพล และอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าเสริมกำลังรบเต็มที่อย่างต่อเนื่อง เป็นสัญญาณบ่งบอกที่พร้อมจะเปิดสงครามรอบใหม่กับไทยได้ตลอดเวลา
ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศหลังการปะทะในศึกยุทธการภูมะเขือ ที่กัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มยิงเข้าใส่ฝั่งไทยก่อนว่า การยิงปะทะกันระหว่างไทยกับกัมพูชาครั้งนี้ ไม่ใช่การปะทะ แต่เป็น “สงคราม”
เมื่อฮุน เซน ยอมรับว่าเป็นสงคราม ซึ่งก็ย่อมตีความได้ว่าเขมรต้องการที่จะทำศึกสู้รบกับไทย เพื่อหวังยึดแผ่นดินไทย ประชาชนคนไทย รวมทั้งอธิปไตยของไทยด้วย เพราะสงครามเขาไม่ทำกันเล่นๆ โดยไม่มีเป้าหมายต้องการสิ่งตอบแทน
ดังนั้นเมื่อคิดการใหญ่เช่นนี้ บวกกับความแค้นที่ฝ่ายเขมรพ่ายแพ้ที่ภูมะเขืออย่างราบคาบ มีทหารและพลเรือนตายนับร้อย บาดเจ็บอีกนับพัน อาวุธหนักเบาโดนยิงถล่มจนละลาย
**จึงเชื่อว่า อีกไม่นาน ยุทธการเอาคืนของฝ่ายกัมพูชา จะต้องระเบิดขึ้นอีกแน่!!
ขณะที่รัฐบาลไทยยังไปไม่เป็น ไม่มีแนวทางใดในการที่จะรวบรวมความสามัคคีของคนในชาติ เพื่อแสดงพลังออกมาต่อต้านการรุกรานของฮุน เซน เช่น กรณีที่คนออกมาชุมนุมประท้วงด้วยเจตนาที่ดี ก็ใช้ตำรวจมาของพื้นที่คืน แทนที่ไปช่วยกันปกป้องเขตแดนไทย ยามนี้รัฐบาลต้องหยุดความขัดแย้งทุกเรื่อง เพื่อทุ่มเทสติปัญญาไปคิดหาทางแก้ไขปัญหาที่เป็นภัยคุกคามประเทศ เป้าหมายเพื่อจัดการกับฮุน เซน ให้หายซ่าไปเสียที แต่ก็ไม่มีอะไรขยับให้หวังได้เลย
** สตง.ขยับเข้าทางเพื่อไทย
**ตรวจสอบ “จุติ”อนุมัติ 3 G
.....เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ หลังเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่า พรรคเพื่อไทย กำลังเก็บข้อมูล เรื่องการประมูลเพื่อติดตั้งโครงข่าย 3 จี ของทั้งทีโอที และกสท. เพื่อนำไปใช้อภิปรายไม่ไว้วางใจ จุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที)
ที่น่าสนใจคือ การออกมาขยับเล่นเรื่องนี้ด้วย ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ในยุคที่มีผู้บริหารสูงสุดคือ พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รองผู้ว่าฯสตง. และรักษาการผู้ว่าฯ สตง.
โดยมีคนคาบข่าวจากตึกสตง.ย่านซอยอารีย์ มาบอกว่า ไม่นานมานี้ “พิศิษฐ์” เรียกผู้บริหารระดับสูงตั้งแต่ระดับรองผู้ว่าฯ-ผอ.สำนักต่างๆ มาประชุม แล้วบอกว่า นับแต่นี้ สตง. ต้องสลายขั้ว ไม่มีอีกแล้ว เด็กพิศิษฐ์-เด็กคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ขอให้ร่วมมือกันทำงานเพื่อสร้างชื่อเสียงให้สตง. กลับมาระบือลือลั่นกันอีกครั้ง
ล่าสุด “พิศิษฐ์” ลงมาตรวจสอบเรื่อง 3 จี เช่นกัน ในส่วนของโครงการที่ บมจ.กสท โทรคมนาคม ได้ลงนามสัญญาความร่วมมือทางธุรกิจกับกลุ่มทรู เพื่อให้บริการ 3G บนคลื่นเดิมของ กสทฯ เมื่อ 27 ม.ค. 54 ที่ผ่านมา ด้วยการร่อนหนังสือในนามสตง. ถึงนายกรัฐมนตรี-รมว.คลัง และรมว.ไอซีที ให้ชี้แจงประเด็นข้อสงสัย ของ สตง.14 ประเด็น
**“พิศิษฐ์”ข้องใจว่า ที่มาที่ไปของโครงการนี้มันรวบรัดผิดปกติ แถมยังอาจผิดพ.ร.บ.ร่วมทุน ระหว่างรัฐกับเอกชนเข้าอีก โดยให้เวลา 2 สัปดาห์ ในการชี้แจงซึ่งหน่วยงานหลักที่จะต้องเคลียร์ทุกอย่างก็คือไอซีที นั่นเอง
การตรวจสอบของ สตง. ครั้งนี้ หลายคนก็บอกว่าดี เพื่อจะได้ให้ทุกอย่างหลายโปร่งใสหลังถูกวิจารณ์หนักถึงความรีบเร่งของโครงการดังกล่าว ก็ขนาดมีข่าวว่า คณะทำงานของสำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานะผู้ร่วมตรวจร่างสัญญาได้ทำหนังสือท้วงติง 4 ข้อ โครงการนี้ถึงกสท.-ไอซีทีให้พิจารณาให้รอบคอบก่อนหน้าวันทำสัญญาเพียงวันเดียว
วันนี้ เท่ากับมีทั้งอัยการ-สตง. แสดงความกังขาโครงการนี้แล้ว มันเลยเข้าทางฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทย ที่จะนำข้อกังขาดังกล่าวมาเพิ่มน้ำหนักการอภิปราย “จุติ” ให้มีน้ำหนักขึ้น
**ทว่าก็มีเสียงวิจารณ์ตามมาไม่น้อยว่า การออกมาของ พิศิษฐ์-สตง. รอบนี้ มันเข้าทางพรรคเพื่อไทยแบบพอเหมาะพอดีเกินไปหรือเปล่า ?
** “กลุ่มเชิดชัย”ย้ายพรรค
“สุวัจน์-ห้อย”พลังดูดแรง
....แม้ความชัดเจนเรื่องยุบสภายังไม่ชัด แต่การเตรียมย้ายพรรค และวางแผนก่อการทางการเมืองของพรรคการเมืองต่างๆ เริ่มคึกคักตามลำดับ
ที่แน่ชัดระดับหนึ่งคือ “กลุ่มเชิดชัย” ในพรรคเพื่อไทย มีเค้าลางย้ายออกจากพรรคเพื่อไทย ค่อนข้างแน่นอน แต่ไม่ได้ย้ายเข้าพรรคภูมิใจไทย อย่างที่หลายฝ่ายคาดการ แต่เป็นการไปอยู่กับ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ และไพโรจน์ สุวรรณฉวี ที่พรรคเพื่อแผ่นดิน
เห็นได้จากที่ อัสนี เชิดชัย ส.ส.นครราชสีมา และนายวราวุธ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ไปร่วมงานวันเกิด สุวัจน์ ที่บ้านราชวิถี เมื่อ 9 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ทั้ง อัสนีและวราวุธ ก็มีการถ่ายทำ ขึ้นโปสเตอร์กับสุวัจน์ ในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่โคราชมาแล้ว
**แม้อัสนีจะแบ่งรับแบ่งสู้อยู่ ก็ตาม แต่โอกาสไปค่อนข้างสูง
กระนั้นทั้ง สุวัจน์และไพโรจน์ ก็มีส.ส.โคราชเลือดไหลออกเช่นกัน ที่เห็นแล้วตอนนี้ก็สองหน่อ คือ ประนอม โพธิ์คำ จากเพื่อแผ่นดิน กับ สมชัย ฉัตรพัฒนศิริ ที่อยู่กับ สุวัจน์มาสิบกว่าปี ที่พรรคชาติพัฒนา
**โดยทั้ง “ประนอมและสมชัย” ทั้งเปิดตัว และชัดเจนมานานแล้วว่า เข้าภูมิใจไทยแน่นอน
แต่เห็นได้อย่างหนึ่งว่า พรรคเพื่อไทย มีแต่ข่าวไหลออก ไฉนไม่มีไหลเข้าในพื้นที่โคราช อันนี้มันน่าแปลก?
**กลัว “ปู่จิ้น”ถลอกหนักกว่านี้
**“ภูมิใจไทย”มองหาหัวคนใหม่!?
...ปิดท้ายด้วยข่าวการเปลี่ยนหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ชวรัตน์ ชาญวีรกูล อาจถูกปลดระวางก่อนการเลือกตั้งครั้งใหม่ แม้ทางลูกชาย “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล จะออกมาปฏิเสธข่าวนี้ว่ายังไม่ถึงเวลา และไม่เป็นความจริง
กระนั้นลึกๆ ที่รู้มา “อนุทิน” เตรียมหาบันไดให้ “เตี่ยจิ้น” ลงจากหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยแล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่า
**“ กลัวเตี่ยวิ่งขึ้นศาลตอนแก่ แทนที่จะวิ่งเข้าทำเนียบฯ-กระทรวง”
เนื่องจากสองปีที่ผ่านมา บนเก้าอี้รมว.มหาดไทย แม้จะถือว่าคุ้มแสนคุ้ม สำหรับตระกูลชาญวีรกูล ที่แยกตัวจากทักษิณ ชินวัตร มาจับมือ เนวิน ชิดชอบ ตั้งภูมิใจไทย จน ชวรัตน์ได้เป็น มท.1
แต่ทุกอย่างในโลกไม่มีของฟรี ชวรัตน์ โดนอภิปรายไม่ไว้วางใจปีที่แล้วหนักหนาไม่ใช่เล่น ปีนี้ก็กำลังจะโดนอีกเป็นปีที่สอง
**เพื่อไทยลับดาบ รอเชือด กะเอาให้คางเหลือง
หลายเรื่องสุ่มเสี่ยงอาจโดนขยายความไปเป็นคดีความกันได้หากหลักฐานของฝ่ายค้านแน่นหนาจริง
ขณะเดียวกัน ซิโน-ไทย บริษัทของตระกูลชาญวีรกูล แม้จะได้งานประมูลของรัฐไปหลายโครงการในช่วงสองปีที่ผ่านมา แต่ก็ทำให้บริษัทตกเป็นเป้าการเมืองชนิดขยับอะไรก็ถูกมองว่า ได้งานเพราะมีอำนาจรัฐคอยเกื้อหนุน อย่างเช่นที่โดน เฉลิม อยู่บำรุง อภิปรายร่ายยาวเป็นชั่วโมงตอนซักฟอกเรื่องรถไฟฟ้าสายสีม่วง
เรื่องแบบนี้ย่อมไม่เป็นผลดีในระยะยาว เพราะ “อนุทิน” อาจเห็นบทเรียนที่ทักษิณเจอมาแล้วกับกรณีชินคอร์ป ที่ตอนมีอำนาจก็ดีไปหมด พอหมดอำนาจก็โดนตรวจสอบย้อนหลังได้ทุกเมื่อ
แถมการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน ขนาดเป็น มท.1 ใหญ่สุดในมหาดไทย ยังโดนระดับผอ.สำนักฯในกรมการปกครอง วิเชียร ชิตชนกนารถ ตามสอยไม่ลดละ จน ชวรัตน์ โดนดีเอสไอสอบสวนเอาผิด คดีประมูลคอมพ์กรมการปกครอง จนป.ป.ช. ตั้งอนุกรรมการไต่สวนอยู่เวลานี้
“อนุทิน” เลยคิดหาทางลงให้ ชวรัตน์ เพื่อเซฟพ่อตัวเองไว้ ไม่ให้ถลอกไปมากกว่านี้ แต่อาจคิดดังไปหน่อย คนเลยรู้กันทั่ว
**ข่าวเล่าต่อๆ กันมาว่า เนวิน ก็ไม่ขัดข้อง แต่ปัญหาคือ แล้วใครจะมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ?
สูตรแรก คือไม่อยากได้นักธุรกิจ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้พรรคว่าไม่ใช่พรรคธุรกิจการเมือง แต่จะหาพวกคนมีสี อย่างอดีตบิ๊กทหาร มานั่ง ก็ใช่ง่าย มีติดต่อไปบ้าง แต่ไม่มีเสียงตอบรับ
**วิเคราะห์กันในพรรค เหตุที่เงียบ เพราะอดีตบิ๊กทหารบางคนแม้อยากมา แต่ไม่อยากอยู่ใต้อาณัติ “เนวิน”