“ประพันธ์” แฉ!! เงื่อนงำน้ำมันปาล์มพุ่ง เป็นวิธีหาเงินเตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง ปูดแผน รบ.ปกป้องเงินในกระเป๋าขึ้นขี่คอ สตง. พร้อมไล่ “มาร์ค” กลับไปอ่านหนังสือ “สร้างฝันวันฟ้าใหม่” หากยังคิดไม่ออกว่าทำอะไรผิด เผยผู้เสียหาย 7 คนไทยเตรียมฟ้องศาลฎีกาเอาผิด รบ.ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายประพันธ์ คูณมี”
วันที่ 26 ม.ค.2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของแนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายประพันธ์ คุณมี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีว่า ตนรู้ใจนายกฯ ยิ่งกว่านายศิริโชค รู้ว่าตอนนี้กำลังกินไม่ได้นอนก็ไม่หลับ เนื่องจากทำความผิดหลายเรื่องแต่ไม่ยอมรับเพราะกลัวเสียหน้า ที่สำคัญกว่านั้นยิ่งน่าเป็นห่วงเพราะทำผิดแล้วยังไม่รู้ตัวอีก ถึงขั้นให้ผู้ใหญ่ส่งข้อความมาถามตนว่า พูดไม่จริงหรือโกหกตรงไหน เมื่อป่านนี้แล้วคุณยังไม่รู้ตัว ว่างๆ ก็ลองกลับไปอ่านหนังสือที่คุณเขียนเรื่อง “ร้อยฝันวันฟ้าใหม่” อีกรอบแล้วจะได้รู้ว่าผิดตรงไหน ร้อยฝันวันฟ้าใหม่ทุกวันนี้กลายเป็นร้อยบรรลัยต้มประชาชนไปเรียบร้อยแล้ว เป็นเรื่องที่น่าเวทนาที่สุด เพราะเคยคาดหวังไว้ในตัวนายกฯ มากว่าจะมีภาวะผู้นำมากกว่าพวกเรา เมื่อไม่รู้ตัวแทนที่จะมารับฟังความเห็นของพี่น้องประชาชน กลับไปจ้างนักวิชาการมาช่วยเถียงพวกเราอีก เคยมีแนวคิดจะเชิญนายกฯ มาพูดแบบตัวต่อตัว ก็มีคนค้านว่าเสียเวลาเปล่า เพราะนายกฯ มีนิสัยเถียงจนกูอาย ก็จะบิดพลิ้วใช้วาทะเก่าๆ เหมือนเดิม ตนก็เลยหาทางออกกำลังทำวีทีอาร์ ให้เห็นว่า นายกฯ ในสมัยเป็นผ่ายค้านพูดอย่างนี้ แต่พอเป็นรัฐบาลแล้วพูดอย่างไร หรือจุดยืนการให้สัมภาษณ์ 7 คนไทยถูกเขมรจับช่วงแรกกับช่วงหลังต่างกันอย่างไร
“ตัวเองคนเดียวเถียงสู้ประพันธ์ เถียงสู้ปานเทพไม่ได้ เลยไปจ้างนักวิชาการ เตรียมตั้งทีมงานมาตอบโต้พี่น้องประชาชน ผมคิดว่าคุณเสียเวลาเปล่า สู้รับข้อเสนอพี่น้องประชาชน 3 ข้อก็จบเรื่อง พวกเรามาทำหน้าที่อะไรคุณน่าจะรู้ เคยมีพ่อค้านักธุรกิจถามว่าหากวันนี้ไม่เอาอภิสิทธ์ แล้วจะเอาใครเป็นนายกฯ ผมก็ตอบไปว่า หากประเทศนี้มีคนเดียวที่เป็นนายกฯ ได้ ผมขอหนีจากประเทศไทยไปเป็นพลเมืองเขมรดีกว่า กลับกัน เมื่อผมไปถามสื่อ คอลัมนิสต์ นักหนังสือพิมพ์ เขาก็บอกว่านายกฯ หมดสภาพความเป็นนักการเมืองตั้งนานแล้ว” นายประพันธ์กล่าว
นายประพันธ์กล่าวต่อว่า วันนี้เราได้นักเรียนนอกเป็นนายกฯ บุคคลซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์ชีวิต อยู่แต่ในหอคอยงาช้างไม่เคยยากลำบาก เมื่อเป็นอย่างนี้จะมาเข้าใจปัญหาของชาติมากกว่าประชาชนเป็นไปไม่ได้ เรียนนอกมีสองประเภท คือ พวกสู้ชีวิต ที่ดิ้นรนต่อสู้ด้วยลำแข้งของตัวเอง คนพวกนี้ใช้ได้ กับอีกพวก คนที่พ่อแม่ฟูมฟักอย่างดี เป็นพวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ คนพวกนี้เมื่อกลับมาจะเสียคนทั้งนั้นไม่ว่าไปอยู่ในอาชีพไหน บ้านเมืองมันถึงได้ฉิบหาย
“เปรียบเทียบทีมงานฝ่ายบริหารของไทย กับทีมงานฝ่ายฮุนเซน ต่อกรณีเขตแดนเขาพระวิหาร ฝ่ายเขมรเขาผ่านการต่อสู้มาอย่างเชี่ยวชาญ อ้าปากพูดที่เห็นเขี้ยวงอกยาว พอมองฝ่ายไทย อ้าปากพูดที เขมรก็พูดว่าฟันน้ำนมยังขึ้นไม่หมดเลย เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วจะไปสู้อะไร ผู้บริหารของเราแวดล้อมไปด้วยแก๊งไอติมทั้งนั้นเลย” นายประพันธ์กล่าว
นายประพันธ์กล่าวอีกว่า ไม่ว่าจะ เปลว สีเงิน, ลม เปลี่ยนทิศ หรือใครจะวิพากษ์วิจารณ์การชุมนุมของเราอย่างไร เราเคารพในความเห็นท่าน แต่วันนี้เรามาต่อสู้เพื่อแผ่นดิน ไม่ต้องการเปิดศึกกับสื่อมวลชน ข้อต่อสู้ของเราคือการบริหารงานของรัฐบาลเท่านั้น ถ้านายกฯ เห็นว่าข้อมูลที่เราพูดไม่จริง แล้วจะจัดตั้งทีมงานมาตอบโต้ก็เชิญหากจะพาท่านไปสู่สรวงสวรรค์ได้
รัฐบาลนี้ทำทุกวิธีทาง พยายามหาทางสลายการชุมนุม ซึ่งไม่ต่างจากรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ รัฐบาลนายสมัครที่พยายามหาเรื่องใส่ร้าย โดยอ้างว่าจะทำให้เกิดการปฏิวัติบ้าง ประชาชนเดือดร้อนบ้าง ประเด็นคือ 1.ที่เรามาชุมนุมเป็นการชุมนุมสาธารณะ เมื่อเป็นการชุมนุมสาธารณะจึงต้องประชุมในที่สาธารณะ 2.ถ้าไม่ได้รับความสะดวกในการจราจรก็ต้องขออภัยด้วย หากเสียเวลาการจราจรติดขัดไปบ้าง ก็ยังดีกว่าเสียชาติเสียแผ่นดิน มิใช่หรือ 3.มาชุมนุมครั้งนี้ไม่ได้แค่มาทำหน้าที่ ใช้หนี้แผ่นดิน และมาทำบุญเท่านั้น แต่มาทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 70 ดังนั้น รัฐบาลไม่มีสิทธิมาดำเนินการใดๆ ต่อพี่น้องประชาชน กลับกัน รัฐบาลต้องหันกลับไปดูกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 77 ที่ว่า “รัฐต้องพิทักษณ์รักษาไว้..เอกราชอธิปไตย..ผลประโยชน์ของชาติ..” คำถามก็คือ ที่คนไทยถูกจับ เขมรรุกราน คุณได้ทำหน้าที่ของคุณแล้วหรือไม่ หากไม่ทำประชาชนก็มีสิทธิถามแล้วให้คุณชี้แจง นี่คือสิทธิตามรัฐธรรมนูญ
อย่างไรก็ดี ส่วนเรื่องที่เราจะฟ้องดำเนินคดีต่อนายกฯ ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ยัดเยียดให้คนไทยติดคุก ไม่รักษาดินแดน ผู้เสียหายเขาหารือกันแล้วจะยื่นฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เรายืนอยู่บนความถูกต้อง เมื่อเห็นว่าคุณผิดเราก็ทำตามกฎหมาย ถ้าหากว่าคุณเห็นว่าเราผิดก็สามารถดำเนินตามกฎหมายได้ ดังนั้นจะเห็นว่าเราทำตามกฎหมายรัฐธรมนูญทุกประการ
“พฤติกรรมนายกฯ ถือว่าไม่ได้อยู่ในหลักในอุดมการณ์ที่เคยบอกประชาชน วันนี้เรียกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเข้ามาปรึกษาแผนการตรวจสอบได้อย่างไร ในเมื่อ สตง.เป็นหน่วยงานอิสระ มีหน้าที่ตรวจเงินแผ่นดินแทนพี่น้องประชาชน คือตรวจที่มาของเงินในคณะรัฐมนตรี เมื่อ สตง.นำแผนตรวจสอบปกป้องแผ่นดินมารายงานการเมือง เท่ากับชี้โพรงให้กระรอก ทั้งนี้หน้าที่ของ สตง.ไม่ใช่หน้าที่ไปสอพลอนักการเมือง หากย้อนมองยุคคุณหญิงจารุวรรณ รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณครอบครองไม่ได้ ทำให้ผลงานตรวจสอบมีให้เห็นเป็นลำดับ วันนี้ยุคนี้พอปลดคุณหญิงจารุวรรณได้แล้วก็คิดครอบงำ สตง. และขณะนี้ผู้ว่าฯ สตง.ก็เอาหัวไปซุกนักการเมืองเรียบร้อยแล้ว” นายประพันธ์กล่าว
นายประพันธ์กล่าวถึงคำพูดนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่บอกว่ารับไม่ได้กับ 3 ข้อเรียกร้องของพันธมิตรฯ และบอกว่าอย่ามาชุมนุมเลย ที่จริงตนไม่อยากพูดถึงนายคนนี้ ขนาดเรื่องป้ายบนเขาวิหารยังพูดเหมือนเป็นโฆษกปกป้องฮุนเซน ความต้องการของนายสุเทพอยากให้บ้านเมืองสงบโดยการร้องขอให้พันธมิตรฯ ปิดหูปิดตา เหมือนท่านไปพินอบพิเทากับฮุนเซน อย่างนั้นหรือ รัฐบาลนี้ใครๆ ก็บอกว่าเลวกว่ารัฐบาลที่แล้ว อย่างเรื่องน้ำมันปาล์ม ในประเทศเราใช้เดือนหนึ่งประมาณ 1 แสน 2 หมื่นตัน ต่อมาเมื่อเกิดน้ำท่วมทำให้น้ำมันขาดแคลนมาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มแพงขึ้น กระทรวงพาณิชย์ก็ไม่ทำอะไรเลย จนถึงเดือนพฤศจิกายน อนุญาตให้ผู้ค้าขึ้นรวดเดียว 9 บาท ประกอบกับเป็นช่วงน้ำมันปาล์มเถื่อนทะลักภาคใต้ ที่มันทะลักเข้ามาก็เข้าไปอยู่ในคลังน้ำมันเถื่อนแถวสุราษฎร์ธานี นำเข้าลิตรละ30 บาท ขายลิตรละ 47 บาท ตนไม่อยากคิดว่าน้ำมัน 1 แสน 2 หมื่นตันต่อเดือน เป็นราคาเท่าไร แล้วจะรู้ว่าภายในไม่กี่เดือนเขาสามารถหาเงินเพื่อเตรียมการเลือกตั้งได้เป็นหมื่นล้าน
“เรายืนหยัดต่อสู้วันนี้ สนใจอย่างเดียวว่า สิ่งที่พูด สิ่งที่ทำ เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ประโยชน์ของชาติบ้านเมือง ไม่ว่าสีใหนก็ตาม ที่เห็นว่าเราทำถูกต้องก็มาร่วมแสดงออกกับเรา หากสีไหนก็ตามเห็นว่ารัฐบาลทำถูกต้องก็ไปอยู่กับรัฐบาล ขอบอกอีกหน่อยว่า อีกไม่นานเมื่อห้างยักษ์จีนมาตั้งอยู่บางนา ผู้ค้าแถวประตูน้ำเตรียมตัวเจ๊งทั้งหมด” นายประพันธ์กล่าวทิ้งท้าย
