xs
xsm
sm
md
lg

สตง.ขยับเข้าทางเพื่อไทยตรวจสอบ “จุติ” อนุมัติ 3 G

เผยแพร่:   โดย: นกหวีด

จุติ ไกรฤกษ์
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังไม่อาจวางใจได้ว่าความสงบปกติสุขได้กลับคืนมาแล้ว เค้าลางร้ายยังปกคลุมอยู่และชี้ว่าเหตุการณ์อาจจะกลับมาร้อนระอุถึงจุดเดือดอีกในวันไหนก็ได้

แม้เสียงปืนสงบไปไม่มีเหตุการณ์ปะทะทางทหารเกิดขึ้นมากว่าหนึ่งสัปดาห์ก็จริง แต่ความเคลื่อนไหวทางทหารฝ่ายกัมพูชาน่าหวั่นใจอย่างยิ่ง เนื่องจากมีการเคลื่อนกำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าเสริมกำลังรบเต็มที่อย่างต่อเนื่อง เป็นสัญญาณบ่งบอกที่พร้อมจะเปิดสงครามรอบใหม่กับไทยได้ตลอดเวลา

ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาประกาศหลังการปะทะในศึกยุทธการภูมะเขือ ที่กัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มยิงเข้าใส่ฝั่งไทยก่อน ว่าการยิงปะทะกันระหว่างไทยกับกัมพูชาครั้งนี้ ไม่ใช่การปะทะ แต่เป็น “สงคราม”

เมื่อฮุนเซนยอมรับว่าเป็นสงคราม ซึ่งก็ย่อมตีความได้ว่าเขมรต้องการที่จะทำศึกสู้รบกับไทย เพื่อหวังยึดแผ่นดินไทย ประชาชนคนไทย รวมทั้งอธิปไตยของไทยด้วย เพราะสงครามเขาไม่ทำกันเล่นๆ โดยไม่มีเป้าหมายต้องการสิ่งตอบแทน

ดังนั้น เมื่อคิดการใหญ่เช่นนี้บวกกับความแค้นที่ฝ่ายเขมรพ่ายแพ้ที่ภูมะเขืออย่างราบคาบ มีทหารและพลเรือนตายนับร้อย บาดเจ็บอีกนับพัน อาวุธหนักเบาโดนยิงถล่มจนละลาย

จึงเชื่อว่า อีกไม่นานยุทธการเอาคืนของฝ่ายกัมพูชาจะต้องระเบิดขึ้นอีกแน่!!

ขณะที่ รัฐบาลไทย ยังไปไม่เป็น ไม่มีแนวทางใดในการที่จะรวบรวมความสามัคคีของคนในชาติเพื่อแสดงพลังออกมาต่อต้านการรุกรานของฮุนเซน เช่นกรณีที่คนออกมาชุมนุมประท้วงด้วยเจตนาที่ดีก็ใช้ตำรวจมาของพื้นที่คืน แทนที่ไปช่วยกันปกป้องเขตแดนไทย ยามนี้รัฐบาลต้องหยุดความขัดแย้งทุกเรื่องเพื่อทุ่มเทสติปัญญาไปคิดหาทางแก้ไขปัญหาที่เป็นภัยคุกคามประเทศ เป้าหมายเพื่อจัดการกับฮุนเซนให้หายซ่าไปเสียที แต่ก็ไม่มีอะไรขยับให้หวังได้เลย

สตง.ขยับเข้าทางเพื่อไทย

ตรวจสอบ “จุติ”อนุมัติ 3G

...เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ หลังเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่า พรรคเพื่อไทย กำลังเก็บข้อมูล เรื่องการประมูลเพื่อติดตั้งโครงข่าย 3 จี ของทั้ง ทีโอที และ กสท เพื่อนำไปใช้อภิปรายไม่ไว้วางใจ จุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)

ที่น่าสนใจ คือ การออกมาขยับเล่นเรื่องนี้ด้วยของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ในยุคที่มีผู้บริหารสูงสุดคือ พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รองผู้ว่าฯ สตง. และรักษาการผู้ว่าฯ สตง.

โดยมีคนคาบข่าวจากตึก สตง.ย่านซอยอารีย์มาบอกว่า ไม่นานมานี้ “พิศิษฐ์” เรียกผู้บริหารระดับสูงตั้งแต่ระดับรองผู้ว่าฯ-ผอ.สำนักต่างๆ มาประชุมแล้วบอกว่า นับแต่นี้ สตง.ต้องสลายขั้ว ไม่มีอีกแล้วเด็ก พิศิษฐ์-เด็กคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ขอให้ร่วมมือกันทำงานเพื่อสร้างชื่อเสียงให้ สตง.กลับมาระบือลือลั่นกันอีกครั้ง

ล่าสุด “พิศิษฐ์” ลงมาตรวจสอบเรื่อง 3 จีเช่นกันในส่วนของโครงการที่ บมจ.กสท โทรคมนาคม ได้ลงนามสัญญาความร่วมมือทางธุรกิจกับกลุ่มทรู เพื่อให้บริการ 3 G บนคลื่นเดิมของ กสท เมื่อ 27 ม.ค.2554 ที่ผ่านมา ด้วยการร่อนหนังสือในนาม สตง.ถึงนายกรัฐมนตรี-รมว.คลัง และ รมว.ไอซีที ให้แจงประเด็นข้อสงสัยของ สตง.14 ประเด็น

“พิศิษฐ์” ข้องใจว่า ที่มาที่ไปของโครงการนี้มันรวบรัดผิดปกติ แถมยังอาจผิดพรบ.ร่วมทุนระหว่างรัฐกับเอกชนเข้าอีก โดยให้เวลา 2 สัปดาห์ในการชี้แจงซึ่งหน่วยงานหลักที่จะต้องเคลียร์ทุกอย่างก็คือ ไอซีที นั่นเอง

การตรวจสอบของ สตง.ครั้งนี้ หลายคนก็บอกว่าดี เพื่อจะได้ให้ทุกอย่างหลายโปร่งใสหลังถูกวิจารณ์หนักถึงความรีบเร่งของโครงการดังกล่าว ก็ขนาดมีข่าวว่าคณะทำงานของสำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานะผู้ร่วมตรวจร่างสัญญาได้ทำหนังสือท้วงติง 4 ข้อโครงการนี้ถึง กสท-ไอซีที ให้พิจารณาให้รอบคอบก่อนหน้าวันทำสัญญาเพียงวันเดียว

วันนี้ เท่ากับมีทั้งอัยการ-สตง.แสดงความกังขาโครงการนี้แล้ว มันเลยเข้าทางฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทย ที่จะนำข้อกังขาดังกล่าวมาเพิ่มน้ำหนักการอภิปราย “จุติ” ให้มีน้ำหนักขึ้น

ทว่า ก็มีเสียงวิจารณ์ตามมาไม่น้อยว่า การออกมาของพิศิษฐ์-สตง.รอบนี้ มันเข้าทางพรรคเพื่อไทยแบบพอเหมาะพอดีเกินไปหรือเปล่า?

“กลุ่มเชิดชัย” ย้ายพรรค

“สุวัจน์-ห้อย” พลังดูดแรง

....แม้ความชัดเจนเรื่องยุบสภายังไม่ชัด แต่การเตรียมย้ายพรรคและวางแผนก่อการทางการเมืองของพรรคการเมืองต่างๆ เริ่มคึกคักตามลำดับ

ที่แน่ชัดระดับหนึ่งคือ “กลุ่มเชิดชัย” ในพรรคเพื่อไทย มีเค้าลางย้ายออกจากพรรคเพื่อไทยค่อนข้างแน่นอน แต่ไม่ได้ย้ายเข้าพรรคภูมิใจไทยอย่างที่หลายฝ่ายคาดการ แต่เป็นการไปอยู่กับ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ และ ไพโรจน์ สุวรรณฉวี ที่พรรคเพื่อแผ่นดิน

เห็นได้จากที่ อัสนี เชิดชัย ส.ส.นครราชสีมา และนายวราวุธ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ไปร่วมงานวันเกิดสุวัจน์ที่บ้านราชวิถีเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ทั้ง อัสนีและวราวุธ ก็มีการถ่ายทำขึ้นโปสเตอร์กับสุวัจน์ในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่โคราชมาแล้ว

แม้อัสนีจะแบ่งรับแบ่งสู้อยู่ก็ตาม แต่โอกาสไปค่อนข้างสูง

กระนั้น ทั้ง สุวัจน์ และไพโรจน์ ก็มี ส.ส.โคราชเลือดไหลออกเช่นกัน ที่เห็นแล้วตอนนี้ก็สองหน่อ คือ ประนอม โพธิ์คำ จากเพื่อแผ่นดินกับ สมชัย ฉัตรพัฒนศิริ ที่อยู่กับสุวัจน์มาสิบกว่าปีที่พรรคชาติพัฒนา

โดยทั้ง “ประนอม และสมชัย” ทั้งเปิดตัวและชัดเจนมานานแล้วว่าเข้าภูมิใจไทยแน่นอน

แต่เห็นได้อย่างหนึ่งว่า พรรคเพื่อไทยมีแต่ข่าวไหลออก ไฉนไม่มีไหลเข้าในพื้นที่โคราช อันนี้มันน่าแปลก?

กลัว “ปู่จิ้น” ถลอกหนักกว่านี้

“ภูมิใจไทย” มองหาหัวคนใหม่!?

...ปิดท้ายด้วยข่าวการเปลี่ยนหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ชวรัตน์ ชาญวีรกูล อาจถูกปลดระวางก่อนการเลือกตั้งครั้งใหม่ แม้ทางลูกชาย “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล จะออกมาปฏิเสธข่าวนี้ว่ายังไม่ถึงเวลาและไม่เป็นความจริง

กระนั้นลึกๆ ที่รู้มา “อนุทิน” เตรียมหาบันไดให้ “เตี่ยจิ้น” ลงจากหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยแล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่า

“กลัวเตี่ยวิ่งขึ้นศาลตอนแก่ แทนที่จะวิ่งเข้าทำเนียบ-กระทรวง”

เนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมาบนเก้าอี้ รมว.มหาดไทย แม้จะถือว่าคุ้มแสนคุ้มสำหรับตระกูลชาญวีรกูล ที่แยกตัวจากทักษิณ ชินวัตร มาจับมือเนวิน ชิดชอบ ตั้งภูมิใจไทย จนชวรัตน์ได้เป็น มท.1

แต่ทุกอย่างในโลกไม่มีของฟรี ชวรัตน์โดนอภิปรายไม่ไว้วางใจปีที่แล้วหนักหนาไม่ใช่เล่น ปีนี้ก็กำลังจะโดนอีกเป็นปีที่สอง

เพื่อไทยลับดาบรอเชือด กะเอาให้คางเหลือง

หลายเรื่องสุ่มเสี่ยงอาจโดนขยายความไปเป็นคดีความกันได้หากหลักฐานของฝ่ายค้านแน่นหนาจริง

ขณะเดียวกัน ซิโน-ไทย บริษัทของตระกูลชาญวีรกูล แม้จะได้งานประมูลของรัฐไปหลายโครงการในช่วงสองปีที่ผ่านมา แต่ก็ทำให้บริษัทตกเป็นเป้าการเมืองชนิดขยับอะไรก็ถูกมองว่า ได้งานเพราะมีอำนาจรัฐคอยเกื้อหนุนอย่างเช่นที่โดน เฉลิม อยู่บำรุง อภิปรายร่ายยาวเป็นชั่วโมงตอนซักฟอกเรื่องรถไฟฟ้าสายสีม่วง

เรื่องแบบนี้ ย่อมไม่เป็นผลดีในระยะยาว เพราะ “อนุทิน” อาจเห็นบทเรียนที่ทักษิณเจอมาแล้วกับกรณีชินคอร์ปที่ตอนมีอำนาจก็ดีไปหมด พอหมดอำนาจก็โดนตรวจสอบย้อนหลังได้ทุกเมื่อ

แถมการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน ขนาดเป็น มท.1 ใหญ่สุดในมหาดไทย ยังโดนระดับ ผอ.สำนักฯ ในกรมการปกครอง วิเชียร ชิตชนกนารถ ตามสอยไม่ลดละจนชวรัตน์โดนดีเอสไอสอบสวนเอาผิดคดีประมูลคอมพ์กรมการปกครอง จน ป.ป.ช.ตั้งอนุกรรมการไต่สวนอยู่เวลานี้

“อนุทิน” เลยคิดหาทางลงให้ชวรัตน์เพื่อเซฟพ่อตัวเองไว้ไม่ให้ถลอกไปมากกว่านี้ แต่อาจคิดดังไปหน่อย คนเลยรู้กันทั่ว

ข่าวเล่าต่อๆ กันมาว่า เนวินก็ไม่ขัดข้อง แต่ปัญหาคือแล้วใครจะมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่?

สูตรแรกคือไม่อยากได้นักธุรกิจ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้พรรคว่าไม่ใช่พรรคธุรกิจการเมือง แต่จะหาพวกคนมีสีอย่างอดีตบิ๊กทหารมานั่ง ก็ใช่ง่าย มีติดต่อไปบ้างแต่ไม่มีเสียงตอบรับ

วิเคราะห์กันในพรรค เหตุที่เงียบ เพราะอดีตบิ๊กทหารบางคนแม้อยากมาแต่ไม่อยากอยู่ใต้อาณัติ “เนวิน”
กำลังโหลดความคิดเห็น