ASTVผู้จัดการรายวัน - บสส.ปลื้มผลงาน 10 ปีนำส่งเงินคืนกองทุนฟื้นฟูแล้ว 1.4 แสนล้าน สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ พร้อมวาดแผนซื้อหนี้-ทรัพย์เพิ่มอีกแสนล้าน
นางน้ำผึ้ง วงศ์สมิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.)เปิดเผยว่า ปี 2553 เป็นอีกปีหนึ่งที่บสส. มีผลการดำเนินงานดีเยี่ยม สามารถเรียกเก็บเงินสดนำส่งคืนกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ได้เกินกว่าเป้าหมายที่กำหนด นับเป็นปีที่ 5 ติดต่อกันมาตั้งแต่ปี 2549 และตลอด 10 ปี ของการดำเนินงาน บสส. นำส่งเงินคืนกองทุนแล้วประมาณ 140,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ลูกหนี้ที่รับโอนมาจาก ธ.กรุงไทย เมื่อปี 2543 บสส.สามารถปรับปรุงโครงสร้างหนี้ได้แล้วกว่า ร้อยละ 99 ได้รับชำระเงินแล้วกว่า 77,000 ล้านบาท คงเหลือลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างปฏิบัติตามสัญญา หรืออยู่ในชั้นบังคับคดีซึ่งมีโอกาสรับชำระเงินได้อีกกว่า 16,000 ล้านบาท
สำหรับในปี 2554 บสส.เตรียมแผนรองรับการดำเนินกิจการในระยะยาว โดยเน้นการปรับปรุงการบริหารจัดการภายใน หลายด้าน เช่น จัดโครงสร้างองค์กรใหม่ เปลี่ยนวิธีการบริหารจัดการลูกหนี้ให้เหมาะสมกับหนี้แต่ละประเภท เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพลูกหนี้ที่เหลืออยู่ และรองรับสินทรัพย์ใหม่ๆ ที่จะทยอยเข้ามาอีกประมาณ 100,000 ล้านบาท
นางน้ำผึ้งกล่าวอีกว่า ในเดือน มิ.ย. 2554 ซึ่งบริษัทบริหารสินทรัพย์ไทย(บสท.)จะปิดตัวลง บสส.เตรียมแผนที่จะซื้อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) และ สินทรัพย์รอการขาย(NPA)จากบสท. กลับคืน โดยใช้เงินทุนจากตั๋วสัญญาใช้เงินที่ บสท. ยังคงค้างกับ บสส. อีกประมาณ 33,000 ล้านบาท ซึ่งในหลักการดังกล่าวนี้ บอร์ดได้ให้ความเห็นชอบแล้ว และบสส. ประเมินว่า ปีนี้ สถาบันการเงินต่างๆ จะนำ NPL และ NPA ออกมาขายอีกประมาณ 30,000 - 50,000 ล้านบาท ซึ่ง บสส. ยังคงให้ความสนใจที่จะลงทุนในธุรกิจนี้อย่างต่อเนื่อง โดยจะสำรองกระแสเงินสดจำนวนหนึ่งไว้ลงทุนด้วย หากเป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้ ภายในสิ้นปี 2554 บสส. จะมีสินทรัพย์ NPL และ NPA เพิ่มขึ้นเป็น 300,000 ล้านบาท
นางน้ำผึ้ง วงศ์สมิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.)เปิดเผยว่า ปี 2553 เป็นอีกปีหนึ่งที่บสส. มีผลการดำเนินงานดีเยี่ยม สามารถเรียกเก็บเงินสดนำส่งคืนกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ได้เกินกว่าเป้าหมายที่กำหนด นับเป็นปีที่ 5 ติดต่อกันมาตั้งแต่ปี 2549 และตลอด 10 ปี ของการดำเนินงาน บสส. นำส่งเงินคืนกองทุนแล้วประมาณ 140,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ลูกหนี้ที่รับโอนมาจาก ธ.กรุงไทย เมื่อปี 2543 บสส.สามารถปรับปรุงโครงสร้างหนี้ได้แล้วกว่า ร้อยละ 99 ได้รับชำระเงินแล้วกว่า 77,000 ล้านบาท คงเหลือลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างปฏิบัติตามสัญญา หรืออยู่ในชั้นบังคับคดีซึ่งมีโอกาสรับชำระเงินได้อีกกว่า 16,000 ล้านบาท
สำหรับในปี 2554 บสส.เตรียมแผนรองรับการดำเนินกิจการในระยะยาว โดยเน้นการปรับปรุงการบริหารจัดการภายใน หลายด้าน เช่น จัดโครงสร้างองค์กรใหม่ เปลี่ยนวิธีการบริหารจัดการลูกหนี้ให้เหมาะสมกับหนี้แต่ละประเภท เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพลูกหนี้ที่เหลืออยู่ และรองรับสินทรัพย์ใหม่ๆ ที่จะทยอยเข้ามาอีกประมาณ 100,000 ล้านบาท
นางน้ำผึ้งกล่าวอีกว่า ในเดือน มิ.ย. 2554 ซึ่งบริษัทบริหารสินทรัพย์ไทย(บสท.)จะปิดตัวลง บสส.เตรียมแผนที่จะซื้อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) และ สินทรัพย์รอการขาย(NPA)จากบสท. กลับคืน โดยใช้เงินทุนจากตั๋วสัญญาใช้เงินที่ บสท. ยังคงค้างกับ บสส. อีกประมาณ 33,000 ล้านบาท ซึ่งในหลักการดังกล่าวนี้ บอร์ดได้ให้ความเห็นชอบแล้ว และบสส. ประเมินว่า ปีนี้ สถาบันการเงินต่างๆ จะนำ NPL และ NPA ออกมาขายอีกประมาณ 30,000 - 50,000 ล้านบาท ซึ่ง บสส. ยังคงให้ความสนใจที่จะลงทุนในธุรกิจนี้อย่างต่อเนื่อง โดยจะสำรองกระแสเงินสดจำนวนหนึ่งไว้ลงทุนด้วย หากเป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้ ภายในสิ้นปี 2554 บสส. จะมีสินทรัพย์ NPL และ NPA เพิ่มขึ้นเป็น 300,000 ล้านบาท