วานนี้(8 ก.พ.)นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ( ครม. ) มีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอเรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร ซึ่งได้เสนอเป็น วาระจร โดยที่ประชุม ครม. อนุมัติผ่อนเกณฑ์แก้หนี้ให้กับเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูเกษตรกร ที่มีสถานะเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือ เอ็นพีแอล ก่อนวันที่ 31 ธ.ค.ปี 2552 ซึ่งมีจำนวนประมาณ 8 หมื่นราย สามารถเข้าโครงการปรับโครงสร้างหนี้ได้ โดยไม่ต้องผ่านการกลั่นกรองจากหน่วยงานราชการอีกขั้นตอนหนึ่ง
ครม. อนุมัติให้ยกหนี้ให้กับเกษตรกรที่เป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ และเกษตรกรลูกหนี้ ธ.ก.ส. กรณีที่ลูกหนี้เสียชีวิตไปแล้วก่อนสิ้นปี 2552 หรือพิการ ทุพพลภาพ ไม่สามารถทำงานได้ จะได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพราะรัฐบาลไม่ต้องการให้หนี้สินต้องเป็นภาระกับลูกหลานของเกษตรกรต่อไป โดยจะให้ ธ.ก.ส. จำหน่ายหนี้เงินกู้ออกจากบัญชีเป็นหนี้สูญทั้งเงวินต้นและดอกเบี้ยและให้แยกออกเป็นบัญชีพิเศษเพื่อให้รัฐบาลตั้งงบประมาณชดเชยต่อไป
"มติครม.วันนี้เป็นการยกเลิกมติครม.สัปดาห์ก่อนเพื่อความสบายของเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูที่ไม่ต้องถูกกลั่นกรองเกณฑ์การเข้าโครงการจากหน่วยงานราชการหรือ ธ.ก.ส. ก่อน" นายกรณ์กล่าว
สำหรับกรณีของลูกหนี้เกษตรกรที่เป็นหนี้กับธนาคารกรุงไทย ซึ่งมีจำนวนไม่มากนัก ได้มอบหมายให้ ธ.ก.ส. ไปศึกษาเรื่องการโอนย้ายลูกหนี้ดังกล่าวเข้ามาอยู่ในความดูแลของ ธ.ก.ส. เนื่องจากเกรงว่าทาง ธนาคารกรุงไทย จะติดขัดเรื่องข้อกฎหมายในการยกหนี้ 50 % แรกไว้ก่อนได้
นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มติครม.วันนี้เป็นผลสืบเนื่องจากมติครม. เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2553 และหลังจากนี้ 1 สัปดาห์ให้กระทรวงการคลัง , ธ.ก.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาเรื่องมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีปัญหาหนี้เสียแต่ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูอีก 3.5 แสนคนเพิ่มเติม และให้ธ.ก.ส. ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลมาเสนอให้ ครม. พิจารณาต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อหน้านี้แนวร่วมเกษตรไทย เรียกร้องให้ คณะรัฐมนตรีแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีในวันที่ 1 ก.พ 2554 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อเสนอ ธกส. ในข้อ 3.3.1 ของหนังสือกระทรวงการคลังที่ กค. 1006/1904 ลงวันที่ 31 มกราคม ๒๕๕๔ โดยสำนักงาน กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.)ไม่จำเป็นต้องหารือกับสถาบันการเงิน เจ้าหนี้ในการแก้ไขลูกหนี้ของลูกหนี้ เพื่อให้มีการกลั่นกรองความเหมาะสม ของเกษตรกรที่สมควรที่ได้รับการแก้ไขตาม พระราชบัญญัติ กฟก. พ.ศ. 2542
ปลดหนี้เกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. ที่เป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูเกษตรกร ในกรณีเสียชีวิต หรือพิการ ทุพพลภาพ ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ธ.ก.ส. มีหนังสือแจ้งให้สำนักงาน ธ.ก.ส. จังหวัด ระงับการทำสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ สำหรับสมาชิกของกองทุนฟื้นฟู ที่ได้ขึ้นทะเบียนหนี้ ตามสถานะหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของ ธ.ก.ส. ณ วันที่ 31 ธันวาค 2552 ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 7 เมษายน 2553
กระทรวงการคลังจะแต่งตั้งคณะทำงานโดยมีรองปลัดกระทรวงการคลัง (นายสมชาย พูลสวัสดิ์ ) เป็นประธาน และมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้แทนเกษตรกรร่วมเป็นคณะทำงาน เพื่อพิจารณาความเป็นไปได้และความเหมาะสมของข้อเสนอของแนวร่วมเกษตรไทย
ครม. อนุมัติให้ยกหนี้ให้กับเกษตรกรที่เป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ และเกษตรกรลูกหนี้ ธ.ก.ส. กรณีที่ลูกหนี้เสียชีวิตไปแล้วก่อนสิ้นปี 2552 หรือพิการ ทุพพลภาพ ไม่สามารถทำงานได้ จะได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพราะรัฐบาลไม่ต้องการให้หนี้สินต้องเป็นภาระกับลูกหลานของเกษตรกรต่อไป โดยจะให้ ธ.ก.ส. จำหน่ายหนี้เงินกู้ออกจากบัญชีเป็นหนี้สูญทั้งเงวินต้นและดอกเบี้ยและให้แยกออกเป็นบัญชีพิเศษเพื่อให้รัฐบาลตั้งงบประมาณชดเชยต่อไป
"มติครม.วันนี้เป็นการยกเลิกมติครม.สัปดาห์ก่อนเพื่อความสบายของเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูที่ไม่ต้องถูกกลั่นกรองเกณฑ์การเข้าโครงการจากหน่วยงานราชการหรือ ธ.ก.ส. ก่อน" นายกรณ์กล่าว
สำหรับกรณีของลูกหนี้เกษตรกรที่เป็นหนี้กับธนาคารกรุงไทย ซึ่งมีจำนวนไม่มากนัก ได้มอบหมายให้ ธ.ก.ส. ไปศึกษาเรื่องการโอนย้ายลูกหนี้ดังกล่าวเข้ามาอยู่ในความดูแลของ ธ.ก.ส. เนื่องจากเกรงว่าทาง ธนาคารกรุงไทย จะติดขัดเรื่องข้อกฎหมายในการยกหนี้ 50 % แรกไว้ก่อนได้
นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มติครม.วันนี้เป็นผลสืบเนื่องจากมติครม. เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2553 และหลังจากนี้ 1 สัปดาห์ให้กระทรวงการคลัง , ธ.ก.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาเรื่องมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีปัญหาหนี้เสียแต่ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูอีก 3.5 แสนคนเพิ่มเติม และให้ธ.ก.ส. ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลมาเสนอให้ ครม. พิจารณาต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อหน้านี้แนวร่วมเกษตรไทย เรียกร้องให้ คณะรัฐมนตรีแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีในวันที่ 1 ก.พ 2554 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อเสนอ ธกส. ในข้อ 3.3.1 ของหนังสือกระทรวงการคลังที่ กค. 1006/1904 ลงวันที่ 31 มกราคม ๒๕๕๔ โดยสำนักงาน กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.)ไม่จำเป็นต้องหารือกับสถาบันการเงิน เจ้าหนี้ในการแก้ไขลูกหนี้ของลูกหนี้ เพื่อให้มีการกลั่นกรองความเหมาะสม ของเกษตรกรที่สมควรที่ได้รับการแก้ไขตาม พระราชบัญญัติ กฟก. พ.ศ. 2542
ปลดหนี้เกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. ที่เป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูเกษตรกร ในกรณีเสียชีวิต หรือพิการ ทุพพลภาพ ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ธ.ก.ส. มีหนังสือแจ้งให้สำนักงาน ธ.ก.ส. จังหวัด ระงับการทำสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ สำหรับสมาชิกของกองทุนฟื้นฟู ที่ได้ขึ้นทะเบียนหนี้ ตามสถานะหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของ ธ.ก.ส. ณ วันที่ 31 ธันวาค 2552 ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 7 เมษายน 2553
กระทรวงการคลังจะแต่งตั้งคณะทำงานโดยมีรองปลัดกระทรวงการคลัง (นายสมชาย พูลสวัสดิ์ ) เป็นประธาน และมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้แทนเกษตรกรร่วมเป็นคณะทำงาน เพื่อพิจารณาความเป็นไปได้และความเหมาะสมของข้อเสนอของแนวร่วมเกษตรไทย
