“มาร์ค” นั่งหัวโต๊ะ ครม.ถกประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯ หวังสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ส่วน “กลาโหม-บัวแก้ว” รายงานเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับเขมร พร้อมแนวทางการดำเนินการในอนาคต ด้าน “กรณ์” รีบแก้ปัญหาเกษตรกร หวั่นชุมนุมใหญ่ ชง ครม.แก้หนี้สิน
การประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (8 ก.พ.) ซึ่งมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม จะพิจารณาการใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ประกาศให้บริเวณทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภา เป็นพื้นที่ความมั่นคง ห้ามชุมนุมรอบบริเวณดังกล่าว หวังใช้อำนาจตามกฎหมายดำเนินการกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และกลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ ซึ่งชุมนุมอยู่รอบบริเวณทำเนียบรัฐบาล ขณะเดียวกันยังหวังสกัดไม่ให้กลุ่มพันธมิตรฯ ที่ประกาศเคลื่อนไหวใหญ่ในวันที่ 11 ก.พ. ไม่ให้ไปชุมนุมหน้ารัฐสภา ซึ่งจะมีการประชุมลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ตามที่ฝ่ายความมั่นคงประเมินไว้
นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานด้านความมั่นคงจะรายงานเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ใกล้พื้นที่ปราสาทพระวิหาร จ.ร้อยเอ็ด ให้ ครม.รับทราบ โดยจะรายงานถึงสถานการณ์ การคลี่คลายสถานการณ์ และแนวทางการดำเนินการในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นในพื้นที่สู้รบ การชี้แจงต่อองค์กรระหว่างประเทศ โดยเฉพาะองค์การสหประชาชาติ และการให้ข้อมูลข่าวสารต่อประชาชน และประชาคมโลกในข้อเท็จจริงเพื่อไม่ให้ประเทศไทยเสียประโยชน์
ขณะเดียวกัน ปัญหาของกลุ่มเกษตรกร โดยเฉพาะกลุ่มสภาเครือข่ายองค์กรเกษตรกรแห่งประเทศไทย ที่เข้ามาชุมนุมหน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลปลดหนี้ โดยในวันนี้ นายกรณ์ จติกวณิช รมว.คลังจะเสนอ ครม. แก้ไขมติ ครม.ปลดหนี้ให้เกษตรกรลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ที่เป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ ในกรณีเสียชีวิต และทุพพลภาพไม่สามารถประกอบอาชีพได้ โดยกระทรวงการคลังจะแต่งตั้งคณะทำงานมีรองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน และผู้แทนหน่วยงาน ผู้แทนเกษตรกรเป็นคณะทำงานเพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ และความเหมาะสมของข้อเสนอของแนวร่วมเกษตรกรไทย
สำหรับวาระที่น่าสนใจ กระทรวงศึกษาธิการจะเสนอเรื่องการปรับแผนดำเนินการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยจะเสนอของบฯ ประจำปีงบประมาณ 2555-2559 จำนวน 4,242 ล้านบาท เพื่อผลิตนักวิทยาศาสตร์และนักคณิตศาสตร์ ปีละ 180 คน รวม 5 ปี จำนวน 900 คน โดยจำแนกการให้ทุนแต่ละปี 180 ทุน
สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) เสนอรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่ชาวบ้าน จ.เลย ร้องทุกข์กรณีได้รับผลกระทบจากเหมืองแร่ทองคำ พร้อมทั้งเสนอให้กระทรวงอุตสาหกรรมชะลอการขยายพื้นที่ใหม่หรือการขอประทานบัตรไว้ก่อน เสนอให้หน่วยงานด้านสิ่งแวดร่วมมือกับทางจังหวัดลงพื้นที่ตรวจสอบและวิเคราะห์คุณภาพน้ำบริเวณเหมืองอย่างสม่ำเสมอและมีความถี่มากขึ้น ตรวจสอบกระบวนการทำเหมืองให้สอดคล้องตามเกณฑ์ มาตรฐานเพื่อป้องกันการซึมของสารไซยาไนด์
กระทรวงมหาดไทยจะเสนอเรื่อง โครงการเมืองต้นแบบอย่างยั่งยืนพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันตกของอ่าวไทย ชะอำ-หัวหิน เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธ.ค.2554 โดยจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการพัฒนาเมืองต้นแบบอย่างยั่งยืนฯ เพื่อทำหน้าที่กำหนดนโยบาย จัดทำแผนแม่บท กำกับดูแล ติดตามประเมินผล มีนายกฯ เป็นประธาน และนายดิสธร วัชโรทัย รองเลขาธิการสำนักพระราชวัง เป็นที่ปรึกษา รวมทั้งจะมีการเสนอร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษเพื่อบริหารงานในพื้นที่โครงการเมืองต้นแบบฯ ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
สำหรับระยะเวลาดำเนินการแบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะแรก (ธ.ค.2553 - ธ.ค.2554) จะบูรณาการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาเมืองต้นแบบการพัฒนาอย่างยั่งยืนฯ และเสนอร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ส่วนระยะที่ 2 (ม.ค.2555 - ม.ค.2560) ดำเนินการตามแผนแม่บทและแนวทางตามที่คณะกรรมการอำนวยการพัฒนาเมืองต้นแบบอย่างยั่งยืนฯ กำหนด สำหรับงบประมาณที่จะใช้ดำเนินการนั้นจะให้ใช้งบประมาณปกติของแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง งบสนับสนุนจากรัฐบาล และงบประมาณที่ได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน