xs
xsm
sm
md
lg

จี้สรรพากรรับมือAECดึงทุนนอก-เอกชนลงทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ปลัดคลังมอบนโยบายสรรพากร เร่งทำงานเชิงรุกพร้อมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เชื่อมโยงหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลังอำนวยความสะดวกและดึงดูดเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าประเทศมากขึ้น เตรียมใช้เครื่องมือด้านภาษีผลักดันงบประมาณให้สมดุลใน 5 ปีกระตุ้นภาคเอกชนลงทุนทดแทนรัฐบาล

วานนี้ (8 ก.พ.) นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลังและคณะผู้บริหารกระทรวงฯ เดินทางมาตรวจเยี่ยมพร้อมรับฟังแผนการปฏิบัติงานของกรมสรรพากร เพื่อถ่ายทอดยุทธศาสตร์กระทรวงฯ เชื่อมโยงกรอบการพัฒนา และมอบนโยบายด้านการปฏิบัติราชการที่สำคัญที่ต้องดำเนินการผ่านกลไกของกรมสรรพากร โดยมีนายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูงให้การต้อนรับ และสรุปความคืบหน้าในการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติงานสำหรับปี พ.ศ. 2554 ถึง 2558

นายอารีพงศ์กล่าวว่า ประเด็นสำคัญที่ฝากให้กรมสรรพากรดำเนินการคือการที่ประเทศไทยจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ในปี 2558 ที่จะส่งผลต่อการค้าขายในภูมิภาคที่จะเกิดขึ้นอย่างเสรี โดยกรมสรรพากรที่เป็นหน่วยงานจัดเก็บรายได้หลักจะทำหน้าที่อย่างไรเพื่อขยายฐานการค้าการลงทุนในประเทศให้สามารถแข่งขันกับประเทศสมาชิกAECได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แต่นอกจากการทำหน้าที่ของกรมสรรพากรแล้วประเด็นของโครงสร้างภาษีทั้งระบบจะต้องมีการเชื่อมโยงกันทุกส่วนทั้งพิธีการด้านศุลกากรเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการทั้งด้านนำเข้าและส่งอออกให้เกิดความคล่องตัวมากที่สุด ซึ่งปัจจุบันสภาพแวดล้อมทางการแข่งขันของการค้าระหว่างประเทศได้เปลี่ยนแปลงไปมากจึงต้องปรับตัวให้สามารถรองรับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้

“แม้ว่าอัตราภาษีของมาเลเซียและสิงคโปร์จะต่ำกว่าไทยคือที่ 20 และ 18% ตามลำดับแต่ภาษีไม่ใช่ประเด็นเดียวที่นักลงทุนจะตัดสินในเข้ามาลงทุนตอนนี้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษียังสามารถใช้ตามเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือ BOI ได้ แต่ที่สำคัญคือภาพรวมของประเทศที่ไทยถือว่าเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค มีต้นทุนทางด้านวัตถุดิบที่ถูกมีการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคให้ทัดเทียมกับเพื่อนบ้านและต้องสร้างจุดแข็งอื่นๆ มารองรับเพิ่มขึ้น” นายอารีพงศ์กล่าว

ในส่วนของการดำเนินการเพื่อเข้าสู่การจัดทำงบประมาณสมดุลภายใน 5 ปีกรมสรรพากรถือเป็นหน่วยงานหลักในการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลที่มีเครื่องมือบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งประเด็นหลัก 3 อย่างประกอบด้วย การบริหารค่าใช้จ่าย การลงทุนของรัฐบาล และการจัดเก็บรายได้ ซึ่งหากรับบาลไม่สามารถลดค่าใช้จ่ายหรือเพิ่มรายได้ก็จะไปกระทบกับงบลงทุนส่งผลให้เศรษฐกิจไม่เติบโตตามสมมติฐาน 4.5% ได้

แต่สิ่งที่จะสามารถชดเชยงบลงทุนของรัฐบาลเพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าได้ตามเป้าและเข้าสู่งบประมาณสมดุลคือ การลงทุนโดยภาคเอกชนที่กรมสรรพากรมีเครื่องมือทางด้านภาษีมากระตุ้นในส่วนนี้ได้ทั้งภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีอื่นๆ จะประสานให้ทุกอย่างเป็นไปได้ตามเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้ชดเชยสิ่งที่รัฐบาลไม่สามารถทำได้เอง

“การทำงานของสรรพากรต้องทำเป็นภาพใหญ่มองข้ามปีไม่ใช่มองปีต่อปีเพราะนโยบายการคลังไม่สามารถส่งผลสำเร็จได้ทันทีต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ดังนั้นกรมสรรพากรต้องขยายฐานการจัดเก็บเพิ่มขึ้น ลดการรั่วไหล และดึงผู้เสียภาษีเข้าสู่ระบบอย่างถูกต้อง” นายอารีพงศ์กล่าว

นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า การเดินทางมาตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการปฏิบัติราชการแก่กรมสรรพากรโดยผู้บริหารกระทรวงการคลังในครั้งนี้ เป็นการเข้ามารับทราบ ให้คำแนะนำ และประสานทิศทางการปฏิบัติงานของกรมฯ ให้มีทิศทางที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์กระทรวงชัดเจนขึ้น จากความไว้วางใจและเชื่อมั่นของกระทรวงฯ ถึงกลไกการทำงานของกรมสรรพากรต่อจากนี้ ทำให้กรมฯ จะต้องพัฒนาศักยภาพของบุคลากร ปรับบทบาทการบริหารราชการ และสร้างประสิทธิภาพของระบบการทำงานด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ในครั้งนี้ กระทรวงฯ ได้รับทราบข้อมูลและพร้อมสนับสนุนปัจจัยที่กรมฯ ต้องการในด้านต่างๆ เพื่อดูแลให้กระบวนการจัดเก็บภาษีของกรมฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพด้วยความเป็นธรรม.
กำลังโหลดความคิดเห็น