ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการ ศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา ได้แถลงผลการดำเนินงานในรอบ 3 ปี (2551-2553) สรุปว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานี้ มีเรื่องร้องเรียนมายังคณะกรรมาธิการฯ 279 เรื่อง รับไว้พิจารณา 189 เรื่อง แบ่งเป็น 6 กลุ่มปัญหา คือ
1. การจัดซื้อจัดจ้าง 2 .ใช้งบประมาณไม่โปร่งใส 3.ใช้กฎหมายไม่เป็นธรรม 4. เพิกเฉยต่อการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน 5. การออกเอกสารสิทธิ์บุกรุกที่ดิน และ 6. การประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ
อย่างไรก็ตาม กรรมาธิการฯ ยอมรับว่า แม้จะรับเรื่องมาตรวจสอบ แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้ เพราะรัฐบาลไม่ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
เพราะต้นตอของการทุจริต คอร์รัปชันนั้น เกิดจาก 3 ประสาน คือ นักการเมืองชั่ว ข้าราชการเลว และพ่อค้านักธุรกิจโกง ร่วมมือกันหาประโยชน์
ทุกรัฐบาลที่ผ่านมา มีการทุจริตไม่ต่างกัน รัฐบาลนี้ก็เช่นกัน โดยบุคลากรที่กระทำเป็นกลุ่มเดียวกัน มีการทุจริตเกือบทั้งครม. โดยเฉพาะ กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงมหาดไทย ที่มีเรื่องร้องเรียนในลำดับต้นๆ
น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. ได้ยกข้อมูลมาชี้ให้เห็นชัดๆว่า ประเทศไทยถูกจัดอันดับเรื่องความโปร่งใสอยู่ในเกณฑ์ต่ำมาก คือ แต่ปี 2538 ถึงปัจจุบัน ประเทศไทยถูกจัดอันดับความโปร่งใส สูงสุดอยู่ที่ 3.8 ต่ำสุดอยู่ที่ 2 .7 คือสอบตกมาตลอด
ที่น่าตกใจคือ คนในแวดวงธุรกิจคำนวณมูลค่าการทุจริตในแต่ละปี อยู่ที่ 2 แสนล้านบาท บางโครงการยังคอร์รัปชันกันมโหฬาร ในระดับ 70-100 %
มีข้อเสนอหลากหลาย ในการต่อสู้กับกลุ่ม 3 ประสานจอมงาบ อาทิ การจัดทำแฟ้มประวัติ บรรดาผู้แทนปวงชนชาวไทย ฐานข้อมูลทรัพย์สิน และผลการทำงานของนักการเมือง รวมถึงการทำงานขององค์กรอิสระ ที่มีหน้าที่ตรวจสอบการทุจริต โดยนำมาเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ เพื่อให้ประชาชนได้เข้ามาร่วมตรวจสอบ
การแก้ไขกฎหมาย ไม่ให้คดีที่เกี่ยวกับการทุจริต คอร์รัปชัน มีการหมดอายุความ เพราะกฎหมายที่มีมากมายในขณะนี้ ไม่สามารถนำมาใช้ในทางปฏิบัติได้ ทำให้บรรดาแก๊งงาบ เกิดความย่ามใจ ยิ่งโกงหนักข้อขึ้นทุกวัน
ถึงเวลาแล้วที่ องค์กรภาครัฐ ที่มีหน้าที่ตรวจสอบการทุจริต ภาคประชาชน และสื่อมวลชน ต้องผนึกกำลัง 3 ประสาน ทำหน้าที่ให้แข็งขัน ช่วยกันปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ขจัดคอร์รัปชันให้สิ้น
