xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.คึกจัดแผนเลือกตั้ง คุยกวาดที่นั่งเพิ่ม70เก้าอี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงจำนวนสัดส่วนของ ส.ส.ตามสูตร 375+125 ว่า เป็นเรื่องธรรมดาไม่ถือว่าจะนำความแตกแยกมาสู่พรรค อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงจำนวน เปลี่ยนแปลงเขต ก็จะมีปัญหาเป็นเรื่องปกติ เป็นปัญหานักการเมือง เรื่องนี้พรรคการเมืองจะต้องแก้กันเอง
ทั้งนี้ พรรคจะยึดหลักความเหมาะสม ถ้าจำเป็นต้องลดไป 1 คน อีก 1 คน จะทำอย่างไร ส่วนที่มีการวิเคราะห์ว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะได้เปรียบจากการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนดังกล่าวนั้น ตนไม่เข้าใจว่าไปวิเคราะห์อย่างนั้นเพราะอะไร ในเมื่อหลายฝ่าย รวมทั้งพรรคเพื่อไทยเอง ก็เรียกร้องให้เป็นเขตเล็ก ส่วนบัญชีรายชื่อ ทั้งพรรคเพื่อไทย หรือเดิมพรรคพลังประชาชน กับพรรคประชาธิปัตย์ ในเขตเลือกตั้ง ก็ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบกัน ขึ้นอยู่กับความนิยมของประชาชน
เมื่อถามว่านายกฯ พร้อมที่จะมีการเลือกตั้งแล้วใช่หรือไม่ จะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นระหว่างการเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สถานการณ์โดยรวมคิดว่าทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้นไปสู่การเลือกตั้ง เราเพิ่งยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไปไม่นาน แต่มีสถานการณ์ใหม่มีกลุ่มผู้ชุมนุมมากขึ้น คิดว่าเดือนหน้าสถานการณ์ จะชัดเจนมากขึ้น
เมื่อถามว่าหมายความว่านายกฯ จะสามารถเดินทางลงพื้นที่เพื่อหาเสียงเลือกตั้งตามจังหวัดต่างๆได้อย่างปลอดภัย ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตามที่ตนลงพื้นที่จังหวัดต่างๆ ก็ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมบ้าง แต่ยังไม่ถึงขั้นที่ว่าเป็นปัญหาความรุนแรง จึงอยากเรียกร้องว่า ถ้าใช้จิตใจของความเป็นประชาธิปไตย ก็ไม่ควรขัดขวางกัน ไม่ว่าจะกรณีใดๆ

**"เสธ.หนั่น"ยันใช้สูตร400+100
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสตร์ รองนายกรัฐมนตรี ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ตนยังยืนยันจุดเดิม ที่จะยกมือสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นสัดส่วนส.ส. ตามสูตร 400+100 ในวาระที่ 3 เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะมีการเปลี่ยนแปลงตัวเลขสัดส่วนส.ส.เพราะการเลือกตั้งที่ผ่านมา 2-3 ครั้ง ก็ยังใช้อยู่ที่ตัวเลข 400+100 เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งครั้งใหม่ หากจะมีการเปลี่ยนแปลงตัวเลข ตนก็ไม่เห็นว่ามีเหตุผลพอที่จะให้ยอมรับ
ส่วนการที่ตนยกมือโหวตสวนมติคณะกรรมาธิการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีมติเห็นชอบสัดส่วนส.ส. 375+125 ตนคงไม่ต้องมาอธิบายอะไร เพราะเหตุผลมันก็เห็นๆ กันอยู่แล้ว ส่วนเรื่องของแผนปรองดอง ตนก็จะยังเดินหน้าต่อ เพียงแต่รอให้เรื่องยุ่งๆ ในสภาจบก่อน

**"เทือก" คุยแก้รธน.ไม่สะดุด
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกระแสข่าวที่นายกรัฐมนตรี จะประกาศยุบสภาในเดือนเม.ย. หลังจากที่งบประมาณผ่านว่า การยุบสภาต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไข 3 ประการ คือ 1. เศรษฐกิจที่เรียบร้อยแล้ว 2. การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่กำลังจะเรียบร้อย และ 3. บ้านเมืองไม่วุ่นวาย ไม่มีใครลุกมาอาละวาดก่อเหตุร้าย ท่านนายกฯ ก็จะสามารถประกาศยุบสภาได้
เมื่อถามว่า เหตุผลในการยุบสภาเร็ว ไม่ใช่เพราะต้องการหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ใช่ เพราะตนชอบการอภิปราย การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นโอกาสดีที่รัฐบาล จะได้ชี้แจงทุกเรื่องทุกประเด็น
"ผมยืนยันได้ว่านายอภิสิทธิ์ ท่านสะอาด ท่านบริสุทธิ์ ท่านสามารถพิสูจน์ความจริงใจ ความบริสุทธิ์ ของท่านต่อพี่น้องประชาชนได้ ยืนยันว่าเหตุผลในการยุบสภา จะไม่ได้เป็นการหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผมชอบ ผมยิ่งได้คะแนน" นายสุเทพ กล่าว พร้อมยืนยันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องผ่านไปได้เรียบร้อย และไม่เป็นประเด็นที่จะสร้างปัญหาให้บ้านเมือง แม้พล.ต.สนั่น จะยืนยันว่าไม่เอาสูตร 375+125
** ปชป.เตรียมจัดทัพรับศึกเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ว่า ทางพรรคมั่นใจว่า ร่างแกไขรัฐธรรมนูญ จะผ่านวาระที่ 3 ตามสูตร 375+125 จึงได้สั่งให้ทางพรรคทำการแบ่งเขตเลือกตั้งอย่างคร่าวๆจากเดิม 400 เขต เป็น 375 เขต ซึ่งจะมีส.ส.เขตลดลง 25 คน ใน 24 จังหวัด คือ 1. กรุงเทพฯ จาก 36 คน เหลือ 34 คน 2. กระบี่ จาก 3 คน เหลือ 2 คน 3. กำแพงเพชร จาก 5 คน เหลือ 4 คน 4.ขอนแก่น 11 คน เหลือ 10 คน 5. เชียงราย จาก 8 คน เหลือ 7 คน 6.นครนายก จาก 2 คน เหลือ 1 คน 7.นครราชสีมา จาก 16 คน เหลือ 15 คน 8.นครศรีธรรมราช จาก 10 คน เหลือ 9 คน 9.นครสวรรค์ 7 คน เหลือ 6 คน 10.นราธิวาส จาก 5 คน เหลือ 4 คน 11.บุรีรัมย์ จาก 10 คน เหลือ 9 คน และ 12.พังงา จาก 2 คน เหลือ 1 คน
13. พัทลุง จาก 4 คน เหลือ 3 คน 14. พิจิตร จาก 4 คน เหลือ 3 คน 15. มหาสารคาม จาก 6 คน เหลือ 5 คน 16. แม่ฮ่องสอน จาก 2 คน เหลือ 1 คน 17. ยโสธร จาก 4 คน เหลือ 3 คน 18.ลพบุรี จาก 5 คน เหลือ 4 คน 19. ลำปาง ลดลง จาก 5 คน เหลือ 4 คน 20. ลำพูน จาก 3 คน เหลือ 2 คน 21.ศรีสะเกษ จาก 9 คน เหลือ 8 คน 22. สุรินทร์ ?จาก 9 คน เหลือ 8 คน 23 .หนองคาย จาก 6 คน เหลือ 5 คน และ 24. อุดรราชธานี จาก 10 คน เหลือ 9 คน จึงทำให้ส.ส.ในจังหวัดที่ต้องลดจำนวนที่นั่งส.ส. ต่างเร่งคำนวณสูตรพื้นที่ เพื่อดูประกอบกับการแบ่งพื้นที่ จาก กกต. โดยใช้หลัก ส.ส. 1 คน ต่อประชากร 1.7 แสนคน

** ตั้งเป้ากวาดส.ส.เพิ่ม 68-70 ที่นั่ง
นอกจากนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยให้นโยบายเร่งทำแกนนำในพื้นกับ ส.ส. คือ 1 ส.ส. ต่อแกนนำ 3,000 คน ได้กำชับให้พรรคตั้งโครงการแผนการสร้างเครือข่ายพรรคประชาธิปัตย์ โดยการตั้งหลักสูตรผู้ปฏิบัติการทางการเมือง และตั้งเป้าหมายว่าจะกลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้ง โดยตั้งพื้นที่เป้าหมายที่พรรคต้องการ ส.ส.เพิ่มอีก 68-70 ที่นั่ง จากที่มีอยู่เดิม 172 คน โดยแจ้ง ส.ส.พรรคว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องการให้ ส.ส.เขตทุกคนต้องเร่งสร้างเครือข่ายในแต่ละเขตเลือกตั้ง โดย ส.ส. 1 คน จะสร้างแกนนำระดับยอด 10 คน กระจายในแต่ละอำเภอของเขตเลือกตั้ง และแกนนำก็จะไปสร้างแกนนำต่อในทีมอีกชุดละ 10 คน เพื่อไปสร้างเครือข่ายต่อยอดอีกคนละ 200 คน ซึ่งโครงการดังกล่าวได้จัดงบประมาณให้ ส.ส.ใช้จ่ายในการจัดอบรม ครั้งละ 3 หมื่นบาท โดยเร่งรัดให้เสร็จภายใน 1-2 เดือน

** กกต.หวั่นถูกร้องจัดเลือกตั้งขัดกม.

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้ด้านบริหารงานเลือกตั้งไปศึกษากรณีที่นายกรัฐมนตรี จะยุบสภาแล้วมีการเลือกตั้งใหม่ และให้กกต. ออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการในการเลือกตั้งส.ส. โดยไม่ต้องรอให้ร่างแก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว.ผ่านการพิจารณาว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน เพราะต้องเข้าใจว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องใหม่ ไม่เคยมีมาก่อน อีกทั้งประกาศฯ ที่จะให้กกต.ออกนั้น มีลำดับชั้นของกฎหมายต่ำกว่า พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญมาก จึงเกรงว่าอาจจะมีปัญหา กกต.ถูกร้องว่า กระทำการไม่ชอบด้วยกฎหมายในเวลาต่อมาได้
" ตอนนี้ก็พูดคุยกันกับฝ่ายปฏิบัติ ว่าจะทำได้มากน้อยแค่ไหน จริงอยู่ที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ บัญญัติให้ กกต.ออกประกาศฯได้ในกรณีที่หากแก้ไขร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. พิจารณาไม่แล้วเสร็จ แต่เมื่อไม่แล้วเสร็จ มันก็ต้องถือว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และส.ว. ฉบับปัจจุบัน ยังมีผลบังคับใช้อยู่ แล้วเกิดกกต.ไปออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการในการเลือกตั้ง ส.ส. ที่มีเนื้อหาขั้นตอน วิธีการเลือกตั้ง เช่นส.ส.เป็นแบบเขตเดียวเบอร์เดียว และแบบบัญชีรายชื่อ วิธีการคำนวนส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ที่ไม่เหมือนกับ ส.ส.แบบสัดส่วน เกิดมีคนร้องเรียนหลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้นว่า กกต.ทำขัดกฎหมายเพราะไปยึดตามประกาศฯ ไม่ยึดตาม พ.ร.ป. ซึ่งเป็นลำดับชั้นกฎหมายที่สูงกว่า กกต.ไม่แย่หรือ ดังนั้นจึงต้องดูให้รอบคอบ ซึ่งทางที่ดีที่สุดที่เรามองก็คือ หากวันที่ 11 ก.พ.นี้ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ผ่านการพิจารณาของส.ว. แล้วรัฐสภาเร่งพิจารณาร่างแก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. ที่กกต.ยกร่างไว้ 25 มาตรา เกี่ยวข้องกับวิธีการเลือกตั้งต่างๆ ให้แล้วเสร็จ น่าจะปลอดภัยกับกกต.มากกว่า เพราะถ้านายกฯ บอกว่าจะยุบสภาช่วงเม.ย. หลังจาก 11 ก.พ.- เม.ย. ถ้าเร่งพิจารณาร่างแก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.รับรองว่า เสร็จทัน"

** แฉมีการล็อบบี้โหวแก้ไขรธน.
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธาน ส.ส.ภาค กทม.ของพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการโหวต ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวาระ 2 เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น ตนรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล ในการโหวตเพื่อสนับสนุนแนวคิดของพรรคประชาธิปัตย์ เสมือนมีการล็อบบี้ พรรคร่วมรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นการจัดเลี้ยง หรือการจัดทำงบประมาณกลางปี เกิดขึ้น โดยทางระดับผู้ใหญ่ของพรรคเพื่อไทย อักษรย่อ ป. และ ก. ได้รับการติดต่อจากส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา เพื่อให้ลงมติ ให้สนับสนุนมติสัดส่วน ส.ส. 400+100 ซึ่งได้เสนอข้อแลกเปลี่ยนทางผลประโยชน์เกี่ยวกับการเงินเอาไว้ด้วย และเมื่อถึงเวลาในช่วงเย็น กลับติดต่อกลับมา เพื่อบอกว่าไม่สามารถรับเงื่อนไขอย่างที่เคยพูดเอาไว้ได้ ตนเห็นว่าเป็นการถูกกดดันอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย ได้ทำการท้วงติงไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีการชี้แจง และ พรรคเพื่อไทย ก็ยังได้ทำการยื่นหนังสือต่อ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งก็ได้มีการลงรับเรื่องเอาไว้แล้ว แต็ไม่มีการดำเนินการใดๆ เกิดขึ้น เพราะฉะนั้น นายชัย จะต้องตอบคำถามดังกล่าว ก่อนวันที่ 11 ก.พ. ก่อนการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 จะเริ่มขึ้น

**ปชป.ปัดล็อบบี้ด้วยเลข 7 หลัก
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีเพื่อไทยออกมาพูดถึงการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวาระที่ 2 ที่สมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่ให้การสนับสนุน และมีการอ้างว่าได้มีการคนในรัฐบาลโทรศัพท์ไปล็อบบี้ส.ส.อาวุโสในพรรคเพื่อไทย เป็นอักษรย่อ ป. และ ก. ถ้าเป็นจริงก็อยากให้เปิดเผยบุคคลที่ล็อบบี้ เพราะอักษรย่อในที่พรรคเพื่อไทยเปิดเผยออกมา ไม่ได้รับความเสียหาย หากจริงก็เปิดเผยชื่อคนเกี่ยวข้องมาให้คนที่ถูกพาดพิงได้ชี้แจง หรือเป็นเพียงการพูดคุยเล่น แต่พรรคเพื่อไทยเอามาเป็นสาระ และอ้างเรื่องดังกล่าวมาเป็นเหตุวิจารณ์ การพยายามปูดว่ามีการล็อบบี้ โดยใช้เงิน และผลประโยชน์เป็นเครื่องต่อรอง โดยเฉพาะการอ้างถึงตัวเลข 7 หลักนั้น ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยพยายามใส่ร้ายเพื่อนสมาชิก โดยเฉพาะ ส.ว.ที่สนับสนุนร่างดังกล่าวถึง 36 คน แต่ถือว่าไม่ผิดปกติ เพราะวาระที่ 1 มี ส.ว.สนับสนุนถึง 76 คน ต่อมาวาระที่ 2 สนับสนุน 36 คน ดังนั้น ถือว่าไม่แปลก แต่การที่พรรคเพื่อไทยอ้างถึง เป็นการพูดเพื่อตีปลาหน้าไช และโยงไปถึงการลงมติวาระที่ 3 ในวันที่ 11 ก.พ. และเชื่อว่าจะมีข่าวลือมากกว่าวาระที่ 2 แน่นอน

** ส.ว.ภาคเหนือค้านสูตร 375+125
ด้านตัวแทน ส.ว.ภาคเหนือ 8 จังหวัด นำโดย นางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ นายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร นายบุญส่ง โควาวิสารัช ส.ว.แม่ฮ่องสอน พล.ท.พงศ์เอก อภิรักษ์โยธิน ส.ว.พะเยา ร่วมกันแถลงผลกระทบ หากรัฐสภามีมติเห็นชอบในวาระ 3 วันที่ 11 ก.พ. กรณีสูตรเลือกตั้ง ส.ส.เขตเดียวเบอร์เดียว 375+125 คน
นางนฤมล กล่าวว่าหากสูตร 375+125 ผ่านการเห็นชอบจากรัฐสภา จะทำให้ที่นั่งส.ส.ภาคเหนือ ถูกตัดไป 8 ที่นั่ง จาก 8 จังหวัดได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง กำแพงเพชร นครสวรรค์ และพิจิตร ซึ่งจะทำให้ขาดการพัฒนา เพราะไม่มีส.ส.พอที่จะเชื่อมโยงจากรัฐถึงประชาชน ฉะนั้นขอให้ประชาชนภาคเหนือ ช่วยกันตรวจสอบเขตเลือกตั้งที่จะเปลี่ยนไป และไปกดดันกับส.ส.ในพื้นที่ของตนเองว่าจะให้โหวตอย่างไร หรือเสนอความเห็นมาทาง ส.ว.ก็ได้ ทั้งนี้ส.ว.อีสาน ก็ฝากความห่วงใยมา เพราะหลายจังหวัดในอีสาน จะมีที่นั่งส.ส.ลดลงเช่นกัน
"ในวาระ 3 คาดว่า ส.ว.จะมีความเห็นหลากหลาย เพราะเป็นการโหวตแข่งกัน ระหว่างสูตร 375+125 หรือกลับมาใช้ สูตรปัจจุบันของคมช. คือ เขตใหญ่เรียงเบอร์ 400 + 80 คน ซึ่งก็อาจมีบางส่วนงดออกเสียง ส.ว.ก็ต้องไปคิดทางที่ดีที่สุด แต่เชื่อว่ารัฐบาลคุมกลไกได้หมดแล้ว โอกาสพลิกคว่ำ มีน้อย ยิ่งใกล้จะมีการสรรหา ส.ว.สรรหาใหม่ จุดนี้มีช่องใช้เป็นเครื่องมือช่วย ซึ่งดิฉันเห็นว่า แก้ออกมาแล้ว กติกาไม่เป็นธรรม คนก็ไม่ยอมรับ เพราะเห็นอยู่ว่า พรรคใดได้เปรียบตามสูตรนี้" นางนฤมล กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น