xs
xsm
sm
md
lg

จะประกอบอาชีพอะไรดี ถ้าใช้ชีวีในยุทธภพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คอลัมน์ : บู๊ลิ้ม
โดย : พชร สมุทวณิช

ผู้นิยมชมชอบในการอ่านนิยายจีนกำลังภายในอย่างผม หลังจากที่ได้รับรู้ชีวิตและเรื่องราวในยุทธภพจากหลายๆ เรื่อง แน่นอนว่า มีการพูดคุยกันในหมู่ผู้หลงใหลในนิยายจีนกำลังภายในกันถึงเรื่องที่ว่าใครชื่นชมและอยากจะเป็นตัวเอกคนไหน ในเรื่องอะไร หรือถ้าอยากฝึกวิทยายุทธอยากจะเรียนคัมภีร์อะไร หรืออยากกราบคารวะใครเป็นซือแป๋ แม้กระทั่งอยากใช้อาวุธชนิดไหนเป็นคู่ประจำกาย กระบี่ ดาบ ทวน แส้ หรือจะแค่ฝ่ามือ

ผมเคยคิดเล่นๆ ว่าหากจะเรียนยอดวิชา ผมจะไม่ขอเข้าสำนักเสียวลิ้มยี่ เพราะคงต้องโกนหัวเป็นพระ และก็อดจีบสาว แม้แลกมาซึ่งสุดยอดวิทยายุทธเช่นคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น ก็คงไม่คุ้มค่ากัน

ส่วนในเรื่อง “อาวุธ” ผมถามเพื่อนหลายคน ส่วนใหญ่จะเลือกใช้ “กระบี่” เหตุเพราะกระบี่คือยอดศาสตราวุธ ใช้กระบี่ดูเท่ที่สุด ใช้งานได้คล่องแคล่วทั้ง ตบ ฟาด ปาด แทง อาวุธที่ไม่น่าใช้มากที่สุดจากการสำรวจน่าจะเป็นพวกค้อนดาวตก เพราะพกลำบากและหนักมาก

สำหรับผม ไม่อยากจะพกพาอาวุธใดๆ ทั้งสิ้น เพราะรู้สึกเกะกะ อยากเรียนรู้แค่เพลงหมัดเพลงฝ่ามือ หรือดรรชนีจี้จุดน่าจะสะดวกกว่า ถ้าให้ดี ควรมีวิชาตัวเบาเยี่ยมๆ สักแขนง เอาไว้พลิ้วหลบหลีกนางมารร้ายที่บ้าน (พูดเล่น อิอิ)

อย่างไรก็ดี จากประสบการณ์การอ่านนิยายจีนกำลังภายใน ผมรู้สึกว่า จอมยุทธหลายคนมีสตางค์ใช้แบบไม่มีเหตุผลสักเท่าไร ไม่รู้พกตั๋วแลกเงินเป็นปึกๆ อย่างไม่มีที่มา โดยไม่รู้ว่าประกอบอาชีพอะไร ผมคิดเล่นๆ ว่าหากบังเอิญหลงเข้าไปใช้ชีวิตในยุทธภพ จะประกอบอาชีพอะไรจึงจะดี เพราะคงไม่เดินไปเจอขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ในถ้ำหรือในเหวลึกง่ายๆ (ส่วนใหญ่ต้องตกเหวก่อนถึงจะเจอ)

ผมมีอาชีพเป็น “นักข่าว” ในยุทธจักรบู๊ลิ้มก็มีนักข่าว อย่างในเรื่อง “ดาวเดี่ยวไม่เดียวดาย” มีชาวยุทธจักรที่อาศัยการขายข่าวเลี้ยงชีพ มีชื่อว่า “ฮวยเง็ก” มีฉายาว่า “ไขว่ซิ่ง” แปลว่า “ข่าวฉับไว” คนผู้นี้โลดแล่นอยู่ในยุทธจักร คอยสืบข่าวต่างๆ การสืบข่าวในยุทธภพก็ย่อมหาข่าวที่ลับไปขายให้ผู้อยากรู้ ข่าวสำคัญอาจขายได้เป็นร้อยตำลึง

อย่างไรก็ดี ผู้หากินเป็นนักข่าวในยุทธภพมักมีฝีมือพื้นเพธรรมดา มิฉะนั้นคงไม่หากินด้วยอาชีพนี้ ไปเป็นจอมยุทธมีชื่อเสียดีกว่า ดังนั้น นักข่าวในยุทธภพมักลงเอยไม่ค่อยดี เพราะทำงานด้วยความเสี่ยงสูงในการสืบความลับ เรื่องลับๆ ส่วนใหญ่มักต้องไปเสี่ยงภัยได้มาจากสถานการณ์เลวร้าย โดนจับได้ก็ยากที่จะรอดยาก นอกจากนี้เวลายุ่งเกี่ยวกับเรื่องลับ แม้จะไปขายให้กับผู้อื่นแล้ว ผู้นั้นก็ย่อมอยากจะให้เรื่องลับมันคงลับไม่มีผู้อื่นล่วงรู้ แม้แต่ตัวนักข่าวเองก็ไม่อยากจะให้ยังคงรู้ เรื่องลับจะคงลับดำมืดต่อไปก็ต้องจัดการให้นักข่าวหายไปจากโลก อาชีพนี้จึงไม่ค่อยมีตอนจบสวยงามสักเท่าไร

แต่ก็มี “นักข่าวบู๊ลิ้ม” ที่ประสบความสำเร็จ อย่างเช่น “เกาเอี่ยน” จากเรื่อง “จอมคนแผ่นดินเดือด” ของ “หวงอี้”

บุคลิกของ “เกาเอี่ยน” นั้น “ทัวปาอี้” กล่าวเอาไว้ว่า “เกาเอี่ยนมีพรสวรรค์พิเศษ ไม่เพียงสมองปราดเปรียว ล่วงรู้วิธีการสอดแนมข่าว ทั้งยังมีความทรงจำอันแม่นยำ สิ่งที่ผ่านตาไม่ลืมเลือน หลังจากนั้นสามารถเขียนออกมา ความสามารถพิเศษด้านนี้ไม่มีผู้ใดเทียบได้ ที่สร้างความไว้วางใจแก่ผู้คนคือ มันมีของวิเศษรอบตัว และทำสถิติที่ไม่เคยมีผู้ใดกวดไล่ตามมันทันในพื้นที่เขตแดนร้าง...”

พูดง่ายๆ ก็คือ “เกาเอี่ยน” เปี่ยมล้นด้วยคุณสมบัตินักข่าวที่สามารถ ที่นอกจากจะจำได้เขียนดี ยังสามารถหลบฉากได้อย่างรวดเร็วอีกต่างหาก

ในยุคศึกสงคราม การข่าวเป็นเรื่องสำคัญ การข่าวจึงขายได้ ด้วยความสามารถของ “เกาเอี่ยน” คนผู้นี้จึงสามารถสร้าง “สำนักข่าว” และหากินกับการขายข่าวสารได้อย่างเป็นเรื่องราว “เกาเอี่ยน” ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการช่วงชิงชัยชนะในศึกสงคราม

อย่างไรก็ดี นักข่าวอย่างผม ก็ไม่อยากหากินกับการเป็น “นักข่าวบู๊ลิ้ม” เพราะอาชีพนี้ในยุทธภพนั้น ถือว่างานหนักและเสี่ยงเกินไป และงานชนิดนี้ก็น่าจะหากินได้แต่ในเฉพาะนิยายจีนกำลังภายในของ “หวงอี้” ขณะที่อาชีพเช่นนี้ หากไปหากินในนิยายจีนกำลังภายในสไตล์ “โกวเล้ง” หรือ “กิมย้ง” คงจะยากกว่า

จะว่าไป นักข่าวก็คือ อาชีพค้นคว้าหาข้อมูลมาแถลงขาน มีอาชีพที่คล้ายคลึงกันก็คือ “นักจัดเรตติ้งวิทยายุทธ” ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะเปิด “บริษัทจัดอันดับเรตติ้งวิทยายุทธ” มากกว่า นักอ่านนิยายจีนกำลังภายในน่าจะเคยได้ยินชื่อนักจัดอันดับอาวุธอย่าง “แป๊ะเฮี่ยวเซ็ง” จากซีรีส์นิยายจีนกำลังภายใน “ลี้คิมฮวงและพวกพ้อง”

การเป็นนักจัดอันดับอาวุธนี้มีทั้งข้อดีข้อเสีย ข้อดีก็คือ เป็นผู้รอบรู้ที่คนในยุทธจักรนับถือและกล่าวขวัญอยู่เสมอไม่แพ้จอมยุทธยิ่งใหญ่ แต่ในอีกด้านหนึ่ง ผู้ที่ถูกจัดอันดับไว้ต่ำ หรือไม่ติดอันดับ ก็คงจะไม่ถูกใจกับ “นักจัดเรตติ้งอาวุธ” สักเท่าไร

และ “แป๊ะฮวยเซ็ง” ที่เป็นหนึ่งในคนเข้าข่าย “วิญญูชนจอมปลอม” นี้ก็จบชีวิตไม่สวย ด้วย “มีดสั้น” ของ “ลี้น้อย” ที่เขาจัดเอาไว้ในลำดับสาม

มาถึงตอนนี้ หากจะถามผมว่า แล้วจะประกอบอาชีพอะไรดีในยุทธภพ ผมมีไอเดีย “สามอาชีพในยุทธภพที่น่าประกอบกิจการ” กับ “สามอาชีพในยุทธภพที่ไม่น่าประกอบกิจการ”

ว่ากันที่ “สามอาชีพในยุทธภพที่น่าประกอบกิจการ” กันก่อนดีกว่า

ธุรกิจแรกในความเห็นของผมคือ “เถ้าแก่เหลาสุรา” เพราะจอมยุทธทั้งชั้นสูงและระดับกลางไปถึงระดับล่างล้วนชมชอบในการขึ้นเหลาสุราไปร่ำสุราด้วยกันทั้งสิ้น แถมว่าเวลาจะนัดกันต่อสู้หรือมีเรื่องราวสำคัญใดๆ ล้วนแต่มานัดเจอกันที่เหลาสุรา ดังนั้น การประกอบธุรกิจนี้ไม่ว่าจะในนิยายจีนกำลังภายในเรื่องไหน ล้วนแต่จะมีรายได้ดีแทบทั้งสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไปประกอบอาชีพ “เถ้าแก่เหลาสุรา” ในนิยายจีนกำลังภายในของ “โกวเล้ง” รับรองมีแต่รวยกับรวย

ธุรกิจที่สองที่ผมมีความเห็นว่า น่าลงทุนพอๆ กับกิจการ “เหลาสุรา” ก็คือ “ร้านรับแลกเงิน” จะเห็นได้ว่า ไม่ว่านิยายจีนกำลังภายในเรื่องไหนๆ ก็ล้วนแล้วแต่มีเรื่องราวของกิจการร้านรับแลกเงิน ทั้งนี้ก็เพราะเงินทองในยุทธจักรนั้น มันทั้งใหญ่และหนัก เป็นเครื่องถ่วงสำหรับจอมยุทธที่จะใช้วิชาตัวเบา หรือจะร่ายรำกระบี่ต่อสู้ เพราะบู๊ลิ้มไม่มีธนบัตรบางๆ หรือเหรียญอันเล็กๆ ให้พก มิต้องพูดถึงบัตรเครดิตเลยทีเดียว ไม่เคยเห็นโรงเตี๊ยมหรือเหลาสุราใดๆ ในยุทธภพ รับรูดบัตรวีซ่า มาสเตอร์ หรือแม้แต่บัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรสสีดำที่กล่าวขานว่าเป็นสุดยอดแห่งบัตรเครดิต

จอมยุทธที่มีชื่อเสียงทั้งหลายในยุทธภพล้วนพกตั๋วแลกเงิน ดังนั้น การเป็น “เถ้าแก่ร้านรับแลกเงิน” จึงเป็นทั้งธุรกิจที่ทำรายได้ดี และมีโอกาสกระทบไหล่จอมยุทธเซเลเบรตี้ทั้งหลาย วันนี้อาจจะมี “งักปุกคุ้ง” เดินเข้ามา วันพรุ่งนี้ก็อาจจะเจอ “เซียวฮื้อยี้” หรือ “ลี้คิมฮวง” ก็เป็นได้

ธุรกิจที่สามที่น่าจะมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ นั่นก็ได้แก่ “หน่วยงานล่าสังหาร” ประกอบธุรกิจนี้แทบไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย หาจอมยุทธฝีมือดีแต่ไร้สตางค์อย่าง “ซิมเซ่งอี” สักสามสี่คน ทำตัวเป็นนายหน้าคุมกิจการ รับบริการล่าสังหารชาวยุทธในบู๊ลิ้มที่มีผู้ต้องการให้ล้มหายตายจาก ส่งต่อไปให้ “ซิมเซ่งอี” แล้วก็ชักสักสิบเปอร์เซ็นต์ (ไม่ต้องถึงกับชักสามสิบเปอร์เซ็นต์เหมือนนักการเมือง) แค่นี้ก็รวยเหลือแหล่

ส่วนถ้าจะพูดถึงอาชีพอะไรที่ไม่น่าทำที่สุดหากเผลอหลุดเข้าไปใช้ชีวิตในยุทธจักรบู๊ลิ้ม อาชีพแรกเลยใน “สามอาชีพในยุทธภพที่น่าประกอบกิจการ” ก็ได้แก่ “พนักงานแบกเกี้ยว” อาชีพที่ว่านี้ทั้งเหนื่อยและหนัก แถมรายได้ต่ำอีกต่างหาก อาชีพนี้ต้องแบกผู้คนเดินทางไปไหนมาไหน และไม่ว่านิยายจีนกำลังภายในเรื่องไหนๆ แม้ว่าจะโชคดีได้เจอได้แบกจอมยุทธเซเลบฯ บ่อยๆ แต่ก็มักจะต้องแบกไปในสถานที่ลึกลับเปลี่ยวร้าง และส่วนใหญ่มักจะมีการลอบสังหารกันระหว่างทางแบกเกี้ยวนั่นแหละ ส่วนใหญ่ “พนักงานแบกเกี้ยว” จะตายก่อนจอมยุทธ หรือแม้จอมยุทธจะโดนฆ่าก่อน แต่สุดท้าย “พนักงานแบกเกี้ยว” ก็ไม่ค่อยรอดอยู่ดี

อาชีพไม่น่าทำต่อมาก็คือ “นักบู๊เฝ้าประตูสำนักโคมเขียว” อาชีพนี้มักถูกประณามว่าชั้นต่ำ รายได้ก็ต่ำ แถมยังโดนดูถูกจากเหล่าจอมยุทธที่มาเที่ยวซ่องอีกต่างหาก และไอ้พวกจอมยุทธเวรเหล่านั้น ก็มักจะมีเรื่องกันหน้าสำนักโคมเขียว บรรดา “นักบู๊เฝ้าประตู” ก็ต้องคอยห้ามทั้งๆ ที่รู้ตัวว่า ไอ้พวกที่หาเรื่องมันวิทยายุทธเหนือกว่า (ถ้าตรูเยี่ยมวรยุทธกว่าพวกเอ็ง คงไปเป็นจอมยุทธแล้ว ไม่มาเป็น “นักบู๊เฝ้าประตู”) แล้ว “นักบู๊เฝ้าประตู” ก็เจ็บตัวกันไป ทุกราย

อาชีพสุดท้ายที่ไม่น่าลงทุนประกอบกิจการ ก็คือ “สำนักคุ้มกันภัย” แม้ว่าภาพลักษณ์ของธุรกิจนี้จะดูว่ามีโอกาสสร้างรายได้ที่ดี ในบู๊ลิ้มยุทธภพนั้น “สำนักคุ้มกันภัย” ต่างๆ ล้วนแต่มีชื่อเสียง “นักบู๊คุ้มกันภัย” ก็ต่างมีวรยุทธพอตัว ไม่งั้นคงประกอบอาชีพนี้ไม่ได้ ส่วน “เจ้าสำนักคุ้มกันภัย” หลายคนก็มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วยุทธจักร ถึงกับมีนิยายจีนกำลังภายในหลายเรื่องที่เป็นเรื่องราวของ “สำนักคุ้มกันภัย” คงคุ้นเคยกันดีกับเรื่อง “ขบวนการเปาเปียว”

อย่างไรก็ดี แม้จะดูโดยผิวเผิน “สำนักคุ้มกันภัย” มักจะเป็นธุรกิจที่น่าจะมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ และดูมีชื่อเสียงเกียรติยศระดับพอสมควร แต่ในยุทธภพนั้น ไอ้เรื่องยุ่งๆ มันมักจะเกิดกับ “สำนักคุ้มกันภัย” อยู่บ่อยครั้ง และไอ้พวกที่มาหาเรื่องมักจะเป็นจอมยุทธระดับสุดยอด หรือไม่ก็มารร้ายหัวแถวแทบทั้งนั้น เวลามีคนมาจ้างคุ้มครองสินค้าวอนหาเรื่องประมาณ “บัวหิมะ” หรือ “คางคกมรกต” จึงเป็นเรื่องที่รู้อยู่ว่าเรียกหาความวินาศฉิบหาย แต่ไอ้จะปฏิเสธไม่รับคุ้มกันภัยก็จะเสียฟอร์ม กิจการก็เสื่อมชื่อเสียง ดังนั้น การประกอบธุรกิจคุ้มกันภัยจึงมักจบลงด้วยศพไม่สวยกันหลายราย ถือเป็นอาชีพที่สุ่มเสี่ยงเกินไป ไม่ควรประกอบกิจการเป็นอย่างยิ่ง

ถึงบทสรุปสุดท้าย เอาเข้าจริงๆ จะประกอบอาชีพใดๆ ในยุทธจักรก็ล้วนแต่เป็นเรื่องไม่ง่าย หากคิดจะอยู่ดีมีสุขในยุทธจักร จงฝึกฝีมือจนเป็นจอมยุทธสุดยอดที่พกตั๋วแลกเงินเป็นปึกๆ โดยไม่รู้ว่ารวยมายังไง หรือไม่ก็จงเป็นคนชาวบ้านธรรมดาๆ ที่ขายหมี่น้ำในตรอกเล็กๆ อย่างเจียมเนื้อเจียมตัวจะดีกว่า


กำลังโหลดความคิดเห็น