เมื่อเวลา 08.00 น. วานนี้ ที่ท่าเรือจุกเสม็ด ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีต้อนรับเรือหลวงสิมิลัน เรือหลวงปัตตานี พร้อมกำลังพลของหมู่เรือปราบปรามโจรสลัด ที่เดินทางกลับจากปฏิบัติภารกิจในพื้นที่อ่าวเอเดน และชายฝั่งโซมาเลีย เมืองซาลาล่าห์ รัฐสุลต่านโอมาน
พล.ร.อ.กำธร กล่าวกับกำลังพลว่ารู้สึกชื่นชมและโล่งใจที่ทุกคนสามารถปฏิบัติภารกิจเสร็จสิ้นและกลับมาอย่างปลอดภัย นับเป็นการพลิกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่กองทัพเรือได้ส่งเรือหลวงพร้อมกำลังพลออกไปปฏิบัติการร่วมทางเรือกับมิตรประเทศ ตั้งแต่เดือนก.ย.53 และได้แสดงให้นานาชาติประจักษ์ถึงศักยภาพทหารเรือไทย และมีส่วนส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศชาติในการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาโจรสลัด
การปฏิบัติงานที่ผ่านมาของหมู่เรือปราบโจรสลัด มีผลงานเป็นที่ยอมรับ และไว้วางใจจากรัฐบาลและเอกชน อีกทั้งยังเป็นที่กล่าวขาน และชื่นชมจากประชาชนคนไทย และนานาประเทศ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญและเสนอคณะรัฐมนตรี ขออนุมัติให้กองทัพเรือขยายระยะเวลาในการปฏิบัติภารกิจออกไป จนปฏิบัติภารกิจสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่าที่ผ่านมา ต้องขอบคุณรัฐบาลที่สนับสนุนกองทัพเรือ ส่งหมู่เรือปราบปรามโจรสลัดไปปฏิบัติหน้าที่ เป็นเวลา 132 วัน โดยใช้งบประมาณจำนวน 308 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามีความคุ้มค่ามาก เพราะเป็นการแสดงให้นานาประเทศเห็นว่า ประเทศไทยมีส่วนในการแก้ไขปัญหาของส่วนรวม และแสดงให้เห็นถึงเกียรติศักดิ์ ศักดิ์ศรีของประเทศชาติ รวมถึงมีผลดีด้านความมั่นคงทางทะเล
"เราคุ้มกันเรือมาแล้ว 1,000 ลำ และที่ผ่านมา ที่คุ้มกันแบบประกบติด 64 ลำ สินค้าที่อยู่ข้างใน 3 ล้านกว่าตัน ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นเรือขนส่งยุทโธปกรณ์ของกองกำลังไทยดาร์ฟู ที่ส่งไปซูดานด้วย
สิ่งที่เราภูมิใจมาก คือ ลูกเรือประมงที่ถูกโจรสลัดคุกคาม จนต้องลอยคอกัน 23 คน คิดว่าครอบครัวคงจะดีใจ ที่เราสามารถช่วยเหลือได้ และมีอยู่ 3 ครั้ง ที่เราสามารถสกัดกั้นเรือโจรสลัด ที่พยายามจะเข้ามาปล้นเรือไทย และต่างประเทศ โดยภาพรวมถือว่า มีความพอใจ ส่วนงบประมาณที่ดูแม้จะมาก แต่เมื่อเทียบกับสินค้าที่มีมูลค่านับพันล้าน และในปีหนึ่งมีสินค้าที่ผ่านเข้าออกประเทศไทยถึง 2 ล้านล้านบาท จึงคิดว่า คุ้มค่ามากกับเสี้ยวหนึ่งที่เราลงทุนลงแรงไป แต่ที่ผ่านมา ก็มีอุปสรรคบ้าง เช่น ตัวประกันที่ถูกยึดไปและถูกคุกคามเอาชีวิต ที่บางครั้งเราปฏิบัติงานโดยใช้ ความรุนแรงไม่ได้ และจากแนวทางของ 25 ชาติ ที่ไปปฏิบัติงานร่วมกัน แนวทางปฏิบัติต่อเรือที่ถูกโจรสลัดยึด ไม่มีประเทศใดใช้กำลังขึ้นไปยื้อแย่งตัวประกัน เพราะทุกชาติคิดเหมือนเรา คือ ให้ความสำคัญชีวิตคนในชาติมากที่สุด สำหรับเรือที่ถูกยึดไป เราก็พาเขาไปจนมีความปลอดภัย และขณะนี้สุขภาพดี แต่มีปัญหาด้านจิตใจนิดหน่อย ที่ถูกกักในพื้นที่จำกัด แต่บริษัททางเรือ ก็ยังมีการเจรจาต่อไป คิดว่าคงไม่เหลือบ่ากว่าแรงที่จะทำให้คนไทยเหล่านี้ได้กลับบ้าน" พล.ร.อ.กำธร กล่าว
พล.ร.อ.กำธร กล่าวกับกำลังพลว่ารู้สึกชื่นชมและโล่งใจที่ทุกคนสามารถปฏิบัติภารกิจเสร็จสิ้นและกลับมาอย่างปลอดภัย นับเป็นการพลิกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่กองทัพเรือได้ส่งเรือหลวงพร้อมกำลังพลออกไปปฏิบัติการร่วมทางเรือกับมิตรประเทศ ตั้งแต่เดือนก.ย.53 และได้แสดงให้นานาชาติประจักษ์ถึงศักยภาพทหารเรือไทย และมีส่วนส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศชาติในการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาโจรสลัด
การปฏิบัติงานที่ผ่านมาของหมู่เรือปราบโจรสลัด มีผลงานเป็นที่ยอมรับ และไว้วางใจจากรัฐบาลและเอกชน อีกทั้งยังเป็นที่กล่าวขาน และชื่นชมจากประชาชนคนไทย และนานาประเทศ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญและเสนอคณะรัฐมนตรี ขออนุมัติให้กองทัพเรือขยายระยะเวลาในการปฏิบัติภารกิจออกไป จนปฏิบัติภารกิจสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่าที่ผ่านมา ต้องขอบคุณรัฐบาลที่สนับสนุนกองทัพเรือ ส่งหมู่เรือปราบปรามโจรสลัดไปปฏิบัติหน้าที่ เป็นเวลา 132 วัน โดยใช้งบประมาณจำนวน 308 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามีความคุ้มค่ามาก เพราะเป็นการแสดงให้นานาประเทศเห็นว่า ประเทศไทยมีส่วนในการแก้ไขปัญหาของส่วนรวม และแสดงให้เห็นถึงเกียรติศักดิ์ ศักดิ์ศรีของประเทศชาติ รวมถึงมีผลดีด้านความมั่นคงทางทะเล
"เราคุ้มกันเรือมาแล้ว 1,000 ลำ และที่ผ่านมา ที่คุ้มกันแบบประกบติด 64 ลำ สินค้าที่อยู่ข้างใน 3 ล้านกว่าตัน ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นเรือขนส่งยุทโธปกรณ์ของกองกำลังไทยดาร์ฟู ที่ส่งไปซูดานด้วย
สิ่งที่เราภูมิใจมาก คือ ลูกเรือประมงที่ถูกโจรสลัดคุกคาม จนต้องลอยคอกัน 23 คน คิดว่าครอบครัวคงจะดีใจ ที่เราสามารถช่วยเหลือได้ และมีอยู่ 3 ครั้ง ที่เราสามารถสกัดกั้นเรือโจรสลัด ที่พยายามจะเข้ามาปล้นเรือไทย และต่างประเทศ โดยภาพรวมถือว่า มีความพอใจ ส่วนงบประมาณที่ดูแม้จะมาก แต่เมื่อเทียบกับสินค้าที่มีมูลค่านับพันล้าน และในปีหนึ่งมีสินค้าที่ผ่านเข้าออกประเทศไทยถึง 2 ล้านล้านบาท จึงคิดว่า คุ้มค่ามากกับเสี้ยวหนึ่งที่เราลงทุนลงแรงไป แต่ที่ผ่านมา ก็มีอุปสรรคบ้าง เช่น ตัวประกันที่ถูกยึดไปและถูกคุกคามเอาชีวิต ที่บางครั้งเราปฏิบัติงานโดยใช้ ความรุนแรงไม่ได้ และจากแนวทางของ 25 ชาติ ที่ไปปฏิบัติงานร่วมกัน แนวทางปฏิบัติต่อเรือที่ถูกโจรสลัดยึด ไม่มีประเทศใดใช้กำลังขึ้นไปยื้อแย่งตัวประกัน เพราะทุกชาติคิดเหมือนเรา คือ ให้ความสำคัญชีวิตคนในชาติมากที่สุด สำหรับเรือที่ถูกยึดไป เราก็พาเขาไปจนมีความปลอดภัย และขณะนี้สุขภาพดี แต่มีปัญหาด้านจิตใจนิดหน่อย ที่ถูกกักในพื้นที่จำกัด แต่บริษัททางเรือ ก็ยังมีการเจรจาต่อไป คิดว่าคงไม่เหลือบ่ากว่าแรงที่จะทำให้คนไทยเหล่านี้ได้กลับบ้าน" พล.ร.อ.กำธร กล่าว