xs
xsm
sm
md
lg

ทบทวนยุบรวมตำรวจภูธร 9-10 เคาะระเบียบศอ.บต.ให้อำนาจเลขาฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (19 ม.ค.) นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย พร้อมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้เดินทางมาเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอร่างระเบียบศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
นายถาวร เปิดเผยว่า ในร่างระเบียบของศอ.บต.มีรายละเอียดที่จะต้องจัดทำให้แล้วเสร็จ ประกอบด้วย1.โครงสร้างอัตรากำลังซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบ ในเรื่องของการดำเนินการโดยตรง 2. เรื่องตัวเลขาฯ และรองเลขาธิการ ศอ.บต. ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะต้องเฟ้นหาตัวบุคคล เพื่อนำทูลเกล้าฯ 3. เรื่องระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของศอ.บต.โดยตรง โดยในวันที่ 24 ม.ค. จะมีการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ของศอ.บต.ซึ่งจะต้องผ่านความเห็นชอบในตัวระเบียบ เช่น ระเบียบว่าด้วยการคัดเลือกกันเอง ของคณะกรรมการสภาที่ปรึกษาด้านการบริหารและการพัฒนา จำนวน 49 คน เป็นต้น

**“มาร์ค”ให้ทบทวนสูตรยุบตำรวจภูธร 9-10
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการแบ่งการทำงานของตำรวจภูธรภาค 9ภาค10 และในส่วนของประเด็นการพยามสร้างแรงจูงใจในการทำงานให้เจ้าหน้าที่โดยลักษณะในเรื่องของทวีคูณ เพราะต้องยอมรับว่ามีเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติจำวนมากที่ท้วงติงมาในลักษณะของการไม่สมเจตนารมณ์ ซึ่งขณะนี้กำลังดูในเชิงโครงสร้างอยู่
เมื่อถามถึงแนวความคิดของการยุบรวมระหว่างตำรวจภูธรภาค 9และ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในเรื่องของโครงสร้างกลังให้ดูกันอยู่
วันเดียวกันนี้ตนได้นำเสนอระเบียบว่า ด้วยการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ยึดโยงเอาการประชุมครม.มาเป็นแนวทาง เช่น เรื่องของการนำเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมที่รัฐมนตรีว่าการฯทุกกระทรวง สามารถนำเสนอได้ การลงมติ การปฏิบัติตามมติ เป็นต้น และยังมีระเบียบของการให้ค่าตอบแทนของสภาที่ปรึกษาโดยยึดจากค่าตอบแทนของคณะกรรมการท้องถิ่นเป็นหลัก
จากนั้นจะมีการจัดทำระเบียบด้านการเยียวยาของผู้ที่ได้รับผลกระทบ ปัจจุบันมีระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อศอ.บต.เป็นนิติบุคคลแล้ว สำนักนายกรัฐมนตรีจะต้องถ่ายโอนอำนาจดังกล่าวมาให้ศอ.บต. ซึ่งต้องมาดูในรายละเอียดว่าต้องมีการปรับปรุงแก้ไขอย่างไรหรือไม่
นอกจากนี้ยังมีระเบียบการให้ขั้นเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษ ในส่วนของข้าราชการที่ปฏิบัติงานหรือช่วยราชการในพื้นที่ ก็จะเป็นอำนาจของศอ.บต. และยังมีระเบียบการลงโทษข้าราชการ หรือ ช่วยราชการในพื้นที่แต่กลับไปสร้างความกระทบกระเทือนให้กับประชาชน หรือเป็นปฏิปักษ์ต่องานด้านความมั่นคง กฎหมายจะเปิดโอกาสให้เลขาธิการศอ.บต.พิจารณาให้ออกจากราชการ แต่ต้องมีระเบียบที่ชัดเจน มีการอุทธรณ์ การตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
นายถาวร กล่าวว่านายกรัฐมนตรีเห็นชอบในร่างระเบียบที่มีการนำเสนอ แต่ขอให้มีการไปปรับปรุงใน 2 ประเด็น คือเรื่องการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์กรณีที่เป็นเรื่องเร่งด่วน นายกรัฐมนตรีขอให้เพิ่มในเรื่องการเชิญประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนั้นๆไม่เช่นนั้นงานเร่งด่วนก็จะไม่สำเร็จทันความต้องการ
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังการปรับโครงสร้างใหม่และมีระเบียบต่างๆรองรับแล้ว คิดว่าจะช่วยแก้ปัญหาความไม่สงบได้อย่างไร รมช.มหาดไทย กล่าวว่า โครงสร้างใหม่จะมีภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ตั้งแต่คณะกรรมการยุทธศาสตร์ กรรมการสภาที่ปรึกษา ซึ่งสามารถเสนอเรื่องการให้ข้าราชการที่ปฏิบัติเสื่อมเสียออกจากพื้นที่ได้ และมีส่วนร่วมในการติดตามประเมินผลการทำงานตามนโยบายและแผนปฏิบัติการได้ สามารถเรียกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องซักถามเกี่ยวกับการปฏิบัติงานได้
“สำหรับ ตัวเลขาธิการศอ.บต.นั้น ขณะนี้เรามีผู้รักษาการอยู่ คือนายภาณุ อุทัยรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย แต่นายกรัฐมนตรีจะเลือกใครด้วยวิธีการอะไร ก็ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี ส่วนกระทรวงมหาดไทยจะเสนอใครหรือไม่ ต้องหารือกับรมว.มหาดไทยก่อน แต่คิดว่าควรจะต้องได้ตัวเลขาฯโดยเร็วที่สุด เพราะปัจจุบันผู้ขับเคลื่อนเป็นเพียงรักษาการเลขาธิการฯ” นายถาวรกล่าว
นายถาวร กล่าวว่า สำหรับจำนวนผู้ที่ต้องเยียวยาขณะนี้ยังไม่ชัดเจน เพราะแต่ละส่วนราชการยังไม่ส่งตัวเลขเข้ามา คาดว่าเป็นหลักร้อย แต่ถ้าเป็นผู้ที่ถูกเชิญตัวมาซักถามก็จะมีอยู่ประมาณ 3 พันกว่าคน ซึ่งจะต้องได้รับการดูแล
ผู้สื่อข่าวถามว่า การร้องเรียนกรณีเจ้าหน้าที่เป็นปฏิปักษ์ต่องานด้านความมั่นคง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ไม่ต้องการให้เหตุการณ์ไม่สงบ รมช.มหาดไทย กล่าวยอมรับว่า
“มีการข่าวอยู่บ้างที่มีการตั้งข้อสังเกตและติดตามพฤติกรรมอยู่ ซึ่งอำนาจของเลขาธิการ ศอ.บต. สามารถย้ายข้าราชการพลเรือนตั้งแต่ระดับ 10 ลงมา รวมถึงตำรวจแต่ไม่รวมถึงข้าราชการอัยการ ข้าราชการตุลาการ ข้าราชการทหารเนื่องจากทหารขึ้นอยู่กับ กอ.รมน.ที่มีระเบียบอยู่แล้ว”
ผู้สื่อข่าวถามถึงเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งเหมือนเป็นการท้าทายภาครัฐ ซึ่งเพิ่งยกเลิก พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน นายถาวร กล่าวว่า แม้จะมีอำนาจพิเศษก็ยังเกิดเหตุการณ์ ทั้งนี้การเกิดเหตุอาจเกิดจากประสิทธิภาพของการปฏิบัติงาน กับการดำรงความมุ่งหมายของผู้ก่อความไม่สงบ และในพื้นที่ที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 18 ม.ค. ยังเป็นพื้นที่มีการประกาศใช้พ.ร.ก.คือที่จ.ยะลา
วันเดียวกัน ที่ ห้องประชุมอโณทัย ค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เรียกประชุมเพื่อมอบนโยบายและแนวทางการปฎิบัติ ให้กับผู้บังคับหน่วย หน่วยเฉพาะกิจ หมายเลข 2 ตัว ที่ปฎิบัติหน้าที่ในการดูแลรักษาความสงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยมีฝ่ายปกครอง และตำรวจเข้าร่วมประชุมด้วย เพื่อติดตามผลการปฎิบัติงานของหน่วยในพื้นที่ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา หลังจากได้ประกาศยกเลิก พ.ร.ก ฉุกเฉินในเขตพื้นที่อำเภอแม่ลานเป็นอำเภอนำร่อง ในส่วนพื้นที่อื่นยังคงให้ใช้ พ.ร.ก ฉุกเฉินต่ออีก 3 เดือน พร้อมเน้นย้ำในด้านการรักษาความปลอดภัยครู โดยเข้มงวดทั้งการปรับเปลี่ยนกำลังหรือเสริมกำลังตามความจำเป็นที่เห็นว่า สามารถคุ้มครองและรักษาความปลอดภัยประชาชนและครูในพื้นที่ ซึ่งที่ประชุมไม่อนุญาติให้ผู้สื่อข่าวเข้าร่วมรับฟัง
จากนั้นเวลา 13.30 น.วันเดียวกัน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก และคณะ จะเดินทางไปที่ ม.2 บ้านจางา ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยหนักที่สุดในจังหวัดปัตตานี โดยมีน้ำท่วมอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือน โดยจะมอบถุงยังชีพพระราชทานให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
กำลังโหลดความคิดเห็น