รองนายกฯ ย้ำ ใช้การเมืองนำการทหารดับไฟใต้ เปิดทางตั้งเขตปกครองพิเศษให้คนใต้ดูแลกันเอง ขณะเดียวกัน เตรียมเปิดโอกาสให้แกนนำโจรผู้ก่อความไม่สงบ เข้าร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐตามแผนของ กอ.รมน.
วันนี้ (5 มี.ค.) พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง เปิดเผยภายหลังการประชุมเชิงปฏิบัติการตามประเด็นยุทธศาสตร์สำคัญของรัฐบาล ว่า ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงในการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ที่สำคัญ คือ ตั้งแต่เดือน เม.ย.เป็นต้นไป จะมีการประชุมหารือเพื่อกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เบื้องต้นรัฐบาลมีแนวนโยบายการเมืองนำการทหาร โดยจะให้มีการศึกษา ว่า ในอนาคตอาจจะเปิดโอกาสให้พี่น้องในพื้นที่ดูแลตัวเองผ่านระบบเขตปกครองพิเศษ ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลาในการศึกษา
พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ในการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) นำเสนอเพิ่มเติม เมื่อครั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปตรวจเยี่ยมราชการ นอกเหนือจากการนำแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ประกอบด้วย 6 ด้านสำคัญ อาทิ การเสริมสร้างความเข้าใจ การแก้ไขปัญหาแทรกซ้อนโดยเฉพาะปัญหายาเสพติดที่นับเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญในการก่อเหตุการณ์ส่งเสริมสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชน โดยทั้งหมดจะมีหน่วยงานด้านความมั่นคงที่สำคัญเป็นฝ่ายดำเนินการ คือ กอ.รมน.และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) โดยจะต้องไม่ทำงานซ้ำซ้อนกัน
พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวยอมรับว่า ที่ผ่านมา ทั้ง 2 หน่วยงานทำงานซ้ำซ้อนกันบ้าง แต่ในอนาคตการทำงานระหว่าง 2 หน่วยงานดังกล่าวจะมุ่งเน้นการแบ่งแยกการทำงานกันอย่างชัดเจน กล่าวคือ กอ.รมน.ในฐานะดูแลกำลังพลเน้นการดูแลความปลอดภัยพี่น้องประชาชน ในขณะที่ ศอ.บต.เน้นการพัฒนาโดยทั้งสองหน่วยงานจะยึดนโยบายการเมืองนำการทหารเป็นสำคัญในการทำงาน เช่น ปัญหาซ้ำซ้อนด้านการพัฒนาบุคคลผู้หลงผิด ต่อไปเป็นหน้าที่ของ ศอ.บต.ที่จะรับผิดชอบดูแลการพัฒนาบุคคล ด้านการศึกษา และอาชีพ เป็นต้น
รองนายกฯ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้สถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ยังทวีความรุนแรงอยู่ โดยผู้ก่อความไม่สงบพยายามจะใช้วิธีการที่รุนแรงต่อประชาชน เพื่อให้เห็นว่าสถานการณ์ยังรุนแรงอยู่ ซึ่งเป็นการดำเนินการเพื่อสร้างภาพ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เรารู้ว่ามีหลายคนที่ไม่ต้องการจะสร้างความรุนแรง โดยเฉพาะคนที่เป็นหัวหน้าทีม หัวหน้าหน่วยต่างๆ ที่เขาต้องการจะเข้ามาร่วมงานกับรัฐบาล แต่ติดตรงที่มันไม่มีวิธีการ ซึ่งตอนนี้ กอ.รมน.มีวิธีการแล้ว และเขาจะมาเข้าร่วมได้อย่างภาคภูมิ
อีกทั้ง ศอ.บต.เองก็จะต้องช่วยกันในการพัฒนาบุคคลเหล่านี้ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการทำงาน เราจะต้องบูรณาการทุกหน่วยงานให้ร่วมกันเป็นหนึ่งให้ได้ ถึงเวลาแล้วที่จะต้องทำ นอกจากนี้ เรายังได้หารือกันว่าหากพื้นที่ใดมีความสงบเรียบร้อยดี ก็จะยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ลดลงมาทีละขั้น ซึ่งตอนนี้เรามีพื้นที่ที่ใกล้จะยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้ว