ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ศชต.เรียกหัวหน้าหน่วยในพื้นที่ ประชุมติดตามสถานการณ์และมอบนโยบาย ขณะที่ ผบช.ศชต.ชี้ตรวจสอบแล้วยังไม่พบการเก็บเงินหัวคิวการเยียวยาเหตุการณ์ตากใบ
วันนี้ (21 ก.พ.) เวลา 08.30 น. ที่ห้องประชุมยะลารวมใจ ชั้น 2 อาคารศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) ถ.สุขยางค์ เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผบช.ศชต.) เป็นประธานในการประชุมบริหาร และมอบนโยบายแก่หัวหน้าหน่วยตำรวจในสังกัดศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์และเร่งรัดการปฏิบัติงานของหน่วยงานในพื้นที่
โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจในระดับรองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา รวมถึงหัวหน้าหน่วยตำรวจในพื้นที่ ตั้งแต่ระดับสถานีตำรวจขึ้นไป และหัวหน้าศูนย์ส่วนงานในสังกัด ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า จำนวน 159 นาย ทั้งนี้ เพื่อประเมินผลการปฏิบัติงานในรอบเดือนที่ผ่านมา วิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์ และความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ พร้อมมอบนโยบายการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผบช.ศชต.) กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้มุ่งเน้นติดตามสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีที่สำคัญๆ ผลการปฏิบัติงานของหน่วยต่างๆ ในรอบเดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ ได้กำชับ และเน้นย้ำให้แต่ละหน่วยเพิ่มความเข้มในการปฏิบัติ อย่าประมาทต่อสถานการณ์ และขอความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งเบาะแสความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้ายเพื่อนำไปสู่การจับกุม อันจะส่งผลต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สำหรับความคืบหน้ากรณีเหตุการณ์ 4 ศพที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี นั้น ตอนนี้ยังอยู่ในรูปของคณะกรรมการในการตรวจสอบ ในทางระเบียบก็มีฝ่ายอัยการเข้าร่วมในการตรวจสอบอยู่ด้วย ก็คงจะมีการเร่งรัดให้เร็วที่สุด จะเห็นได้ว่าทางคณะกรรมการตรวจสอบ ก็ได้นัดผู้ที่เกี่ยวข้องในด้านคดี มาสอบปากคำอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ส่วนผลของการตรวจอาวุธปืน ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการส่งให้ทางคณะกรรมการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว
ในเรื่องการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตนเองพูดในภาพรวมให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ว่าถึงแม้จะมีสถานการณ์ความหนักเบา ในแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน แต่การปฏิบัติงานในพื้นที่ จะต้องเหมือนกัน คือไม่ประมาทต่อสถานการณ์ ต้องมีการปฏิบัติการในเชิงรุกให้มากขึ้น ดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้ดี อย่าคิดว่าในพื้นที่มีความสงบแล้วจะปล่อยปละละเลย ต้องมีการปฏิบัติตามที่ตนเองมีการสั่งการไว้อย่างรัดกุมทุกขั้นตอน
ส่วนในเรื่องที่มีข่าวออกมาว่ามีผู้กว้างขวง และผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ไปแอบอ้างกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ตากใบ ว่าเป็นผู้ประสานให้ได้เงินเงินเยียวยา 7.5 ล้าน และไปเรียกเก็บเงินจากผู้ได้รับผลกระทบรายละ 1 ล้านบาทนั้น ตนเองก็เพิ่งทราบข่าวจากสื่อมวลชนในพื้นที่ ซึ่งในช่วงเช้าที่ผ่านมาตนเองก็ได้มีการพูดคุยกับผู้บังคับการตำรวจภูธรทั้ง 3 จังหวัด ทราบว่ายังไม่มีในพื้นที่
แต่มีข้อมูลในส่วนของผู้ที่ได้รับผลกระทบ และมีแนวโน้มว่าจะได้รับเงิน 7.5 ล้าน ในส่วนนี้ ตนเองได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่คอยดูแลแล้ว และก็ได้มีการประสานงานกันตลอดเวลา หากมีปัญหาอย่างไรสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตลอดเวลา ขณะนี้จากการตรวจสอบแล้วยังไม่มี กรณีดังกล่าว หากมีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นถือว่าเป็นความผิด ก็ต้องดำเนินการทางกฎหมายต่อไป