"ยิ่งลักษณ์" เผยรัฐบาลยังไม่คิดถึงขั้นให้ 3 จว.ใต้เป็นเขตปกครองพิเศษ อ้างประชาชนในพื้นที่อยากได้ความปลอดภัยก่อน ชี้ตั้ง ศบ.กช. เพื่อบูรณาการหาเจ้าภาพตัดสินใจแก้ปัญหา ด้านผบ.ทบ. ยันยุทธศาสตร์ที่ใช้ในช่วงที่ผ่านมาเป็นแนวทางดีที่สุด แนะปรับความรวดเร็วในการเบิกจ่ายงบฯ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงเพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีการเสนอให้มีการตั้งศูนย์บูรณาการแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศบ.กช.)ว่า เป็นการหารือถึงปัญหาที่เกิดขึ้นหลายๆ ครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า
สิ่งที่ได้คุยกันจากการทำงาน แม้มีศูนย์อำนวยการจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และในส่วนของพื้นที่ ซึ่งเป็นการทำงานคนละส่วนกัน ยังไม่มีการบุรณาการในการทำงานร่วมกันหรือมีเจ้าภาพรวม แม้การทำงานที่ผ่านมา จะทำงานประสานกัน แต่เรื่องของการบูรณาการในการตัดสินใจยังไม่มีเจ้าภาพที่ชัดเจน
ดังนั้นจึงได้มีการหารือที่จะจัดให้มีการประชุมเวิร์กชอปในการวางยุทธศาสตร์ใหญ่ ซึ่งทางกองทัพจะนำเสนอยุทธศาสตร์ และมีการหาผู้ที่จะทำงานบูรณาการร่วมกันอีกครั้ง โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และจะมีรมว.กลาโหม ผบ.ทบ. รวมเป็นคณะทำงาน ในส่วนของพื้นที่จะเป็นหน้าที่ของแม่ทัพภาคที่ 4 ในการเข้าไป เพื่อให้เกิดการบูรณาการ และเกิดความชัดเจนในการสั่งงาน เพื่อให้งานเป็นไปอย่างกระชับ และรวดเร็วขึ้น
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ศูนย์ ศบ.กช. จะมีการหารือในรายละเอียดร่วมกันทุกหน่วยงานทั้งหมด และจะมีการประกาศอย่างชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง ในส่วนของภาคใต้จะทำให้เกิดองคาพยพเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการที่จะมีผู้ที่รับผิดชอบดูแลเอาใจใส่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งหมดเป็นการให้ความรู้ ดูแลป้องกัน ในการดูแลประชาชนในพื้นที่ที่มีกว่า 2 ล้านคน
เมื่อถามว่าไม่อยากให้รัฐบาลตีปัญหาผิดทาง เพราะกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ก็พยายามแสดงศักยภาพ จากเหตุการณ์ล่าสุด ระเบิดคาร์บอมบ์ 3 จุด ไม่ใช่ปัญหายาเสพติดอย่างที่ตำรวจกล่าวอ้าง นายกฯกล่าวว่า ใช่คะ เราจะเน้นเรื่องการบูรณการ การพัฒนา เข้าถึง เข้าใจ พัฒนา ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เราจะไม่เน้นในเรื่องของการปราบปราม เราจะเน้นในเรื่องของการดูแลพื้นที่ ให้ความปลอดภัย ให้เป็นไปตามกฎหมาย และ คำนึงถึงหลักมนุษยธรรม
ส่วนทางทหารที่บอกว่ามีปัญหาในเรื่องของการเบิกจ่ายงบประมาณนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เราจะแก้ทั้งหมด รัฐบาลได้รับฟังปัญหาทั้งหมดแล้ว ก็ถือว่าเป็นโอกาสดีที่ได้มีการคุยกัน ขอเวลาทำงานนิดหนึ่ง กระทรวงกลาโหม จะนำรายละเอียดมาเสนอ เราจะทำเวิร์กชอปร่วมกันอีกครั้ง
เมื่อถามว่าที่ประชุมได้วิเคราะห์กันใหม่หรือไม่ว่า ปัญหาที่แท้จริง เกิดจากอะไร นายกฯ กล่าวว่า ส่วนของสาเหตุ ขอไม่นำมาชี้แจงตรงนี้ เพราะเป็นประเด็นที่อ่อนไหว ไม่อยากให้วิเคราะห์ถึงประเด็นนี้ แต่เชื่อว่าหลังจากประชุมแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น
ส่วนในการประชุมมีการระบุว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดอยู่แต่ในจวน ไม่ลงพื้นที่แก้ไขปัญหานั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ถ้าเรามีผู้รับผิดชอบในการติดตาม ก็จะเกิดความชัดเจน มีระบบติดตาม มีการคาดหวังต่างๆ มีกลไก ส่วนเรื่องของเขตปกครองพิเศษ เราคงยังไม่ไปถึงตรงนั้น จากที่ฟังจากประชาชนแล้วส่วนใหญ่อยากให้เกิดความปลอดภัย ต้องเข้าใจปัญหาอย่างจริงจังก่อน
**ผบ.ทบ.ขอให้เบิกจ่ายงบเร็ว
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.กล่าวถึงกรณี นายกรัฐมนตรี เชิญไปหารือเกี่ยวกับการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ได้แจงถึงแนวทางการปฏิบัติงานที่ผ่านมาของ กอ.รมน. และกองอำนวยการของกองทัพบก ให้ที่ประชุมทราบว่า การทำงานในภาคใต้ ไม่ได้ดำเนินการในการใช้กำลังแต่เพียงอย่างเดียว แต่มีการเนินการหลายมิติ การปฏิบัติงานในเชิงรุก โดยใช้กำลังทหารทหาร ตำรวจ ในเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย วิธีรับ การรักษาความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน คุณภาพชีวิต โดยเราได้ดำเนินการโดยใช้การวางแผนอย่างครบถ้วน โดยใช้ยุทธศาสตร์พระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ” เป็นหลักนำ และใช้ยุทธศาสตร์รองอีก 6 ยุทธศาสตร์ เพื่อครอบคลุมการดำเนินการทุกมิติ
ทั้งนี้ สถานการณ์มีแนวโน้มพัฒนาไปในทางที่ดี สิ่งที่ได้ดำเนินการมาทั้งหมด ทำให้ผู้ก่อเหตุพยายามใช้ความรุนแรงให้ประชาชนรู้สึกหวาดกลัว จนไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเราคงต้องแก้กันต่อไป
" สิ่งต่างๆที่ทำมาเป็นแนวทางที่ดีที่สุดในขณะนี้ คงไม่มีการคิดเป็นอย่างอื่น และที่ผ่านมาก็พยายามแก้ปัญหามาโดยตลอด โดยใช้กำลัง พลเรือน ตำรวจ ทหาร โดยประชาชนมีส่วนร่วม ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นเป็นตามลำดับ แต่สิ่งที่ต้องแก้คือการรักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน ว่าจะทำอย่างไร ทั้งด้านของ กฎหมายและความร่วมมือของประชาชน โดยเฉพาะขณะนี้เป็นช่วงที่จะต้องมีเทศกาลทางศาสนา ก็จะมีความรุนแรงทุกครั้ง"
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องปรับปรุงคือ เรื่องที่มีความล้าช้า เช่น งบประมาณ วิธีการบริหารจัดการ การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ต่างๆ ต้องปรับเล็กน้อยเพื่อให้รวดเร็ว รวมถึงการแก้ปัญหา
นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงการทำงานร่วมกันของ พลเรือน ตำรวจ ทหาร และศอ.บต. เราไม่มีความขัดแย้งกัน และที่ผ่านมาผู้ว่าราชการจังหวัดก็ให้ความร่วม มือเป็นอย่างดี ซึ่งอาจจะมีกระแสข่าวที่พูดกันออกไป โดยการใช้คำพูดที่ไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับการทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัดในอดีต ซึ่งในปัจจุบันผู้ว่าราชการจังหวัดใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทุกคนทำหน้าที่ และออกมาทำงาน เคียงคู่กับ พลเรือน ตำรวจ ทหาร มาโดยตลอด ตนขอยืนยัน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงเพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีการเสนอให้มีการตั้งศูนย์บูรณาการแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศบ.กช.)ว่า เป็นการหารือถึงปัญหาที่เกิดขึ้นหลายๆ ครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า
สิ่งที่ได้คุยกันจากการทำงาน แม้มีศูนย์อำนวยการจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และในส่วนของพื้นที่ ซึ่งเป็นการทำงานคนละส่วนกัน ยังไม่มีการบุรณาการในการทำงานร่วมกันหรือมีเจ้าภาพรวม แม้การทำงานที่ผ่านมา จะทำงานประสานกัน แต่เรื่องของการบูรณาการในการตัดสินใจยังไม่มีเจ้าภาพที่ชัดเจน
ดังนั้นจึงได้มีการหารือที่จะจัดให้มีการประชุมเวิร์กชอปในการวางยุทธศาสตร์ใหญ่ ซึ่งทางกองทัพจะนำเสนอยุทธศาสตร์ และมีการหาผู้ที่จะทำงานบูรณาการร่วมกันอีกครั้ง โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และจะมีรมว.กลาโหม ผบ.ทบ. รวมเป็นคณะทำงาน ในส่วนของพื้นที่จะเป็นหน้าที่ของแม่ทัพภาคที่ 4 ในการเข้าไป เพื่อให้เกิดการบูรณาการ และเกิดความชัดเจนในการสั่งงาน เพื่อให้งานเป็นไปอย่างกระชับ และรวดเร็วขึ้น
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ศูนย์ ศบ.กช. จะมีการหารือในรายละเอียดร่วมกันทุกหน่วยงานทั้งหมด และจะมีการประกาศอย่างชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง ในส่วนของภาคใต้จะทำให้เกิดองคาพยพเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการที่จะมีผู้ที่รับผิดชอบดูแลเอาใจใส่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งหมดเป็นการให้ความรู้ ดูแลป้องกัน ในการดูแลประชาชนในพื้นที่ที่มีกว่า 2 ล้านคน
เมื่อถามว่าไม่อยากให้รัฐบาลตีปัญหาผิดทาง เพราะกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ก็พยายามแสดงศักยภาพ จากเหตุการณ์ล่าสุด ระเบิดคาร์บอมบ์ 3 จุด ไม่ใช่ปัญหายาเสพติดอย่างที่ตำรวจกล่าวอ้าง นายกฯกล่าวว่า ใช่คะ เราจะเน้นเรื่องการบูรณการ การพัฒนา เข้าถึง เข้าใจ พัฒนา ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เราจะไม่เน้นในเรื่องของการปราบปราม เราจะเน้นในเรื่องของการดูแลพื้นที่ ให้ความปลอดภัย ให้เป็นไปตามกฎหมาย และ คำนึงถึงหลักมนุษยธรรม
ส่วนทางทหารที่บอกว่ามีปัญหาในเรื่องของการเบิกจ่ายงบประมาณนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เราจะแก้ทั้งหมด รัฐบาลได้รับฟังปัญหาทั้งหมดแล้ว ก็ถือว่าเป็นโอกาสดีที่ได้มีการคุยกัน ขอเวลาทำงานนิดหนึ่ง กระทรวงกลาโหม จะนำรายละเอียดมาเสนอ เราจะทำเวิร์กชอปร่วมกันอีกครั้ง
เมื่อถามว่าที่ประชุมได้วิเคราะห์กันใหม่หรือไม่ว่า ปัญหาที่แท้จริง เกิดจากอะไร นายกฯ กล่าวว่า ส่วนของสาเหตุ ขอไม่นำมาชี้แจงตรงนี้ เพราะเป็นประเด็นที่อ่อนไหว ไม่อยากให้วิเคราะห์ถึงประเด็นนี้ แต่เชื่อว่าหลังจากประชุมแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น
ส่วนในการประชุมมีการระบุว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดอยู่แต่ในจวน ไม่ลงพื้นที่แก้ไขปัญหานั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ถ้าเรามีผู้รับผิดชอบในการติดตาม ก็จะเกิดความชัดเจน มีระบบติดตาม มีการคาดหวังต่างๆ มีกลไก ส่วนเรื่องของเขตปกครองพิเศษ เราคงยังไม่ไปถึงตรงนั้น จากที่ฟังจากประชาชนแล้วส่วนใหญ่อยากให้เกิดความปลอดภัย ต้องเข้าใจปัญหาอย่างจริงจังก่อน
**ผบ.ทบ.ขอให้เบิกจ่ายงบเร็ว
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.กล่าวถึงกรณี นายกรัฐมนตรี เชิญไปหารือเกี่ยวกับการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ได้แจงถึงแนวทางการปฏิบัติงานที่ผ่านมาของ กอ.รมน. และกองอำนวยการของกองทัพบก ให้ที่ประชุมทราบว่า การทำงานในภาคใต้ ไม่ได้ดำเนินการในการใช้กำลังแต่เพียงอย่างเดียว แต่มีการเนินการหลายมิติ การปฏิบัติงานในเชิงรุก โดยใช้กำลังทหารทหาร ตำรวจ ในเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย วิธีรับ การรักษาความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน คุณภาพชีวิต โดยเราได้ดำเนินการโดยใช้การวางแผนอย่างครบถ้วน โดยใช้ยุทธศาสตร์พระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ” เป็นหลักนำ และใช้ยุทธศาสตร์รองอีก 6 ยุทธศาสตร์ เพื่อครอบคลุมการดำเนินการทุกมิติ
ทั้งนี้ สถานการณ์มีแนวโน้มพัฒนาไปในทางที่ดี สิ่งที่ได้ดำเนินการมาทั้งหมด ทำให้ผู้ก่อเหตุพยายามใช้ความรุนแรงให้ประชาชนรู้สึกหวาดกลัว จนไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเราคงต้องแก้กันต่อไป
" สิ่งต่างๆที่ทำมาเป็นแนวทางที่ดีที่สุดในขณะนี้ คงไม่มีการคิดเป็นอย่างอื่น และที่ผ่านมาก็พยายามแก้ปัญหามาโดยตลอด โดยใช้กำลัง พลเรือน ตำรวจ ทหาร โดยประชาชนมีส่วนร่วม ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นเป็นตามลำดับ แต่สิ่งที่ต้องแก้คือการรักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน ว่าจะทำอย่างไร ทั้งด้านของ กฎหมายและความร่วมมือของประชาชน โดยเฉพาะขณะนี้เป็นช่วงที่จะต้องมีเทศกาลทางศาสนา ก็จะมีความรุนแรงทุกครั้ง"
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องปรับปรุงคือ เรื่องที่มีความล้าช้า เช่น งบประมาณ วิธีการบริหารจัดการ การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ต่างๆ ต้องปรับเล็กน้อยเพื่อให้รวดเร็ว รวมถึงการแก้ปัญหา
นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงการทำงานร่วมกันของ พลเรือน ตำรวจ ทหาร และศอ.บต. เราไม่มีความขัดแย้งกัน และที่ผ่านมาผู้ว่าราชการจังหวัดก็ให้ความร่วม มือเป็นอย่างดี ซึ่งอาจจะมีกระแสข่าวที่พูดกันออกไป โดยการใช้คำพูดที่ไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับการทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัดในอดีต ซึ่งในปัจจุบันผู้ว่าราชการจังหวัดใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทุกคนทำหน้าที่ และออกมาทำงาน เคียงคู่กับ พลเรือน ตำรวจ ทหาร มาโดยตลอด ตนขอยืนยัน