รมว.กลาโหมคนใหม่ ลั่นสานต่อแนวทางดับไฟใต้ ปัดไม่รู้รายละเอียดปัตตานีมหานคร

ยะลา - พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม คนใหม่ ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมน้อมรับพระราชเสาวนีย์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน

เวลา 12.20 น.วันนี้ (18 ส.ค.) ที่ห้องรับรอง ชั้น 2 อาคารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนหลังเข้าร่วมการประชุมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคภาคที่ 4 นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา สตูล และ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ หมายเลข 1 ตัว และ 2 ตัว เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และ ข้าราชการฝ่ายพลเรือน ที่มี่สวนเกี่ยวข้องในเรื่องการแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

โดย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม กล่าวว่า ตนเองทราบว่า ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก จะเดินทางลงมาปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงได้ติดตามลงมาด้วย เพื่อต้องการติดตามการแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งในครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรก ที่ตนลงมาในพื้นที่ หลังจากตนได้รับตำแหน่ง รมว.กลาโหม ในห้องประชุมตนได้รับฟังการชี้แจงการบรรยายสรุปทั้งหมดจากการดำเนินการทางยุทธศาสตร์อย่างเป็นขั้นเป็นตอนของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าที่ได้มีการจัดในเรื่องของยุทธศาสตร์ใหม่ขึ้นมา และยังมีการวางขั้นตอนในการดำเนินงานตามแนวพระราชดำริ ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา มีการใช้รูปแบบของเศรษฐกิจพอเพียง

การใช้ยุทธศาสตร์ขั้นตอนทั้ง 6 เรื่อง ที่ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้มีการดำเนินการอยู่ รวมทั้งศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เข้าไปมีบทบาทในด้านการพัฒนา ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงเป็นการปิดช่องว่าง สามารถที่จะแก้ไขปัญหา ที่ยังเป็นจุดบกพร่องได้มาก สำหรับการประเมินผลการปฏิบัติงานในพื้นที่ ตนเองมองเห็นถึงความสำเร็จ อย่างน้อยก็ประสบผลสำเร็จถึง 80% มีปัญหาที่เหลือไม่ถึงอีก 20% ที่ยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร

นอกจากนี้ ตนยังได้อัญเชิญพระราชเสาวนีย์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงห่วงใยเรื่องการแก้ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้และปัญหายาเสพติด มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่อีกด้วย

สำหรับโนบายของพรรคเพื่อไทยที่จะมีการจัดตั้งปัตตานีมหานครนั้น ตนเองไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจน เพราะตนดูในส่วนงานด้านความมั่นคง ซึ่งตนได้พูดคุยกับผู้บัญชาการทหารบก แม่ทัพภาคภาคที่ 4 เลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ในเรื่องดังกล่าวแล้ว

ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนได้ออกมาวิเคราะห์ วิจัย พร้อมทั้งได้ให้ข้อคิดเห็นในด้านต่างๆ เสียก่อน ก่อนที่จะมีการตัดสินใจ เพราะในแนวความคิดต่างๆ มีความหลากหลาย ความคิดของทางพรรคการเมืองก็อีกอย่างหนึ่ง ส่วนความคิดของผู้ปฏิบัติก็อีกอย่างหนึ่ง เพราะฉะนั้นก็อยากให้เกิดความคิดร่วมกัน และอาจจะต้องนำความคิดนี้มาวิเคราะห์ และ มาเวิร์กชอป (workshop) อีกครั้งหนึ่ง ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ แต่ก็ยังไม่ได้ตกลงใจว่าจะให้เป็นแบบนั้น เพราะถ้าหากว่ายังไม่ได้มีการตกลงใจ จะนำมาเป็นนโยบายของรัฐบาลไม่ได้

“สำหรับการแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยกล่าวว่าหากสามารถจัดตั้งรัฐบาลเข้ามาดูแลปกครองประเทศจะทำให้เกิดความสงบสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในระยะเวลา 4 ปีนั้น ผมเองก็คิดว่าในขณะนี้นายกรัฐมนตรีก็ได้เข้ามารับผิดชอบหน้าที่เต็มตัวแล้ว ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรและผู้บัญชาการทหารบก ก็มีตำแหน่งเป็นรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ผมคิดว่า ทั้ง 2 ท่านจะร่วมมือกันทำงาน และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ เพราะมีความรู้ ความสามารถ และ รู้สาเหตุ รู้ต้นเหตุ และรู้วีถีในการแก้ไขอยู่แล้ว ก็คงจะมีการร่วมมือกันทำงานต่อไป เพื่อให้เกิดความสงบสุขเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และในประเทศไทย”