xs
xsm
sm
md
lg

ดันแก้รธน.เข้าสภา25ม.ค. “มาร์ค”หวั่นสว.ออกกระทบองค์ประชุม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(18 ม.ค.)นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แลถงว่า นายอำพล กิตติอำพน เลขาธิการครม.ได้แจ้งที่ประชุมถึงการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญในวันที่ 21 ม.ค.54 และปิดประชุมวันที่ 25พ.ค.54 ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีการเปิดประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในวันที่ 25 ม.ค.นี้
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กำชับไปยังนายเทอดพงษ์ ไชยนันท์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ให้เร่งสรุปในขั้นตอนแปรญัตติให้แล้วเสร็จ เพื่อรีบนำเสนอต่อที่ประชุมสภา เนื่องจากเกรงว่าจะมีสมาชิกวุฒิสภาในระบบสรรหาลาออกก่อนครบวาระในเดือนก.พ.นี้ เพราะหากร่างแก่ไขรธน.ยืดเยื้อออกไป จะมีปัญหาต่อองค์ประชุมในการพิจารณาได้ เนื่องจากในการพิจารณาวาระสอง จะต้องทิ้งช่วงออกไปอีก 15 วัน เพื่อเข้าสู่การพิจารณาในวาระ3 ดังนั้น หากองค์ประชุมไม่ครบ ก็ต้องรอไปจนถึงเดือน พ.ค.

**หวั่นสว.สรรหาออกกระทบองค์ประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมครม.นายกรัฐมนตรีได้แจ้งว่า ถ้าสภาไม่ได้พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 25 ม.ค. แล้ววุฒิสภาบางส่วนมีการลาออกจริง จะทำให้การพิจารณาแม้จะแล้วเสร็จในวาระสอง แต่ก็จะพิจารณาไม่ทันในวาระสาม จะต้องลากยาวไปประชุมกันอีกครั้งในเดือนพ.ค.เลย เพราะตามข้อบังคับเมื่อพิจารณาวาระสองเสร็จจะต้องเว้นระยะเวลาไว้ 15 วัน ก่อนจะไปพิจารณาวาระสาม ซึ่งอยากให้เร่งพิจารณาให้เสร็จโดยเร็ว และได้ประสานแจ้งให้นายเทอดพงษ์ทราบแล้วว่า อยากให้ทางคณะกรรมาธิการพิจารณาแปรญัตติให้แล้วเสร็จเพื่อให้ผลักดันบรรจุ เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯในวันที่ 25 ม.ค.”นายกรัฐมนตรี กล่าว
ช่วงท้ายของการประชุมครม. เลขาธิการครม.ยังได้แจ้งว่า ในเบื้องต้นถ้าจะมีการประชุมสภาเพื่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนุญในวันที่ 25 ม.ค. ก็จะต้องเลื่อนการประชุมครม.จากเดิมในวันที่ 25 ม.ค. มาเป็นวันจันทร์ที่ 24 ม.ค. เวลา 09.00น. ซึ่งก็จะรอการประสานงานความชัดเจนจากสภาฯ และผลการประชุมจากทางคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2550 อีกครั้งว่าจะสามารถบรรจุระเบียบวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 25 ม.ค.ได้หรือไม่
รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 22 และ 23 ม.ค.คาดว่า แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์ จะมีการหารือนอกรอบ

**มาร์คเมินข้อเสนอนายกฯสมัยเดียว
ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า หากบรรจุ ในวันที่ 25 ม.ค. อาจจะมีการปรับเวลาในการพบกันระหว่างแกนนำรัฐบาล ซึ่งจะปรับให้เร็วขึ้น เพราะน่าจะต้องคุยกันก่อน ตนยังไม่ทราบ เพราะวันนี้ยังไม่แน่ใจว่ากรรมาธิการทำงานเสร็จหรือไม่ และรู้สึกว่าจะไปทำการชี้แจงระหว่างผู้แปรญัตติในวันที่ 18 ม.ค.และไม่แน่ใจว่าจะมีในวันที่ 19 ม.ค.ด้วยหรือไม่
เมื่อถามว่าในที่ประชุมครม.ได้มีโอกาสคุยกับแกนนำพรรคร่วมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังครับ เรื่องนี้เราถือว่าเป็นเรื่องที่อยู่ในขั้นตอนของรัฐสภา เพียงแต่ตนแจ้งว่าถ้าสภานัดในวันที่ 25 ม.ค. ก็จะขอนัด ประชุม ครม.ในวันที่ 24 เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา เมื่อถามว่าหลังจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว และหากแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จ คนที่เป็นนายกฯ จะสามารถเป็นได้เพียงแค่สมัยเดียว นายอภิสิทธิ์ ยิ้มพร้อมกับกล่าวว่า ตนไม่ทราบจะต้องย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์ก่อน และตนยังเห็นว่าหลายท่านกลับมา
เมื่อถามว่า หลังจากแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ววจะมีองค์ประกอบอะไรที่จะเปลี่ยนแปลงใน รัฐบาลหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีอะไร ต้องดูว่าแต่ละพรรคการเมืองได้มีการกำหนดท่าทีกันอย่างไร

**เมินตัด“อภิปรายไม่ไว้วางใจ”
เมื่อซักต่อว่าข้อเสนอของ นายสมบัติ ธำรงค์ธัญวงศ์ ประธานประธานพิจารณาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จะไม่ให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องในระยะยาว เป็นโครงสร้างใหญ่คงต้องใช้เวลาในการที่จะมาดูกันอีกที่ เพราในเบื้องต้นตนคิดว่า แก้เพื่อให้สามารถไปสู่การเลือกตั้งได้ก่อน และประเด็นที่ อาจารย์สมบัติ เสนอ อาจจะเป็นประเด็นที่แต่ละพรรคการเมือง ไปกำหนดท่าที่ในช่วงการเลือกตั้งก็ได้ ซึ่งเรื่อง ดังกล่าวมีทั้งข้อดีข้อเสีย ตนคิดว่าการขยับเข้าไปในลักษณะของระบบ ที่มีการแยกอำนาจ ดูผิวเผินเหมือนกับมีเสถียรภาพ แต่ในหลายประเทศ มีประสบการณ์ที่ทำให้การทำงานมีปัญหาอีกแบบ ซึ่งตัวปัญหาจะคนละแบบกัน โดยส่วนตัวตนยังชอบระบบรัฐสภามากว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้คิดว่ามีความเหมาะสมแล้วหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เป็นการถ่วงดุลในระบบรัฐสภา เพราะฉะนั้นบางทีตนมีความรู้สึกว่าสภา ต้องเป็นไปตามเสียงข้างมาก แต่ความเป็นจริงแล้ว มีการถ่วงดุลตามธรรมชาติ ตามที่เราเห็น ว่ามีน้อยครั้งที่สภา อยู่ครบวาระ ในขณะที่เราแย่งอำนาจการทำงานของฝ่ายบริหาร ก็จะยากขึ้น ถ้าไม่มีเสียงข้างมากในฝ่ายนิติบัญญัติ แต่ว่า เขาจะอยู่นาน 4 ปี หรือเป็นไปตามวาระ
เมื่อถามว่า ข้อเสนอที่มาจากที่ คณะกรรมการที่ นายกฯตั้งขึ้น ดังนั้นการที่จะนำไปใช้ต่อ รัฐบาลจะมีเดินหน้าอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ตนมองกรอบเวลาคงไม่สามารถดำเนินการได้ในรัฐบาลนี้ หากเขาสรุปมา จะเป็นประเด็นที่นำไปสู่การเลือกตั้งได้ สำหรับพรรคการเมืองต่างๆที่จะกำหนดท่าที ขึ้นอยู่กับรัฐบาลชุดใหม่ว่าเขาจะเอาอย่างไร ซักต่อว่า จะเป็นกรอบบีบรัดว่านายกฯ จะต้องทำตามข้อเสนอระยะยาวนี้ด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ข้อเสนอระยะยาวตรงนี้ยังไม่ได้เสนอตนมาเป็นทางการ และคงจะต้องดุว่ามีรายละเอียดอย่างไร เพราะว่า ตนเข้าใจว่าในตัวการศึกษาของเขาเอง จะไปหยิบเฉพาะประเด็นใดประเด็นหนึ่งไม่ได้ อาจจะมีความเกี่ยวข้องว่าในอนาคต ถ้าจะมีการปรับรื้อใหญ่ ควรจะมีกระบวนการแก้ไขอย่างไรด้วย
เมื่อถามว่าจะมีการกลับไปสู่คณะกรรมการชุด น.พ. ประเวศ วะสี ประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป หรือไม่ นายอภสิทธิ์ กล่าวว่า ของ อาจารย์ประเวศ ยังไม่ได้ทำรายงานมา แต่ที่ตนติดตามอยู่จะเน้นในเรื่องการกระจายอำนาจมากว่า เพราะของ อาจารย์ประเวศ แนวคิดหลักคือทำอย่างไรจะลดความสำคัญของการมีอำนาจในศูนย์กลาง เพราะฉะนั้นตรงนี้จะเป็นคนละส่วนกับที่ อาจารย์สมบัติเสนอ เมื่อถามว่า ในกรณีที่ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเสนอการแก้ไขรัฐธรรมนูญในสูตร ที่ว่าด้วย 350+150 จะเป็นการเพิ่มข้อโต้แย้งมาขึ้นหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า วันนี้จะมีการแปรญัตติ ซึ่งจะต้องว่ากันต่อไป

**โยนหินเสนอสูตร 400+125
วันเดียวกันที่ประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.)พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญได้มีการพิจารณาคำแปรญัตติมาตรา 93-98 เกี่ยวกับการเลือกตั้งส.ส.เขตเบอร์เดียว 375 คน และบัญชีรายชื่อ 125 คน ซึ่งในส่วนของพรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับมติของคณะกมธ.ขอสงวนคำแปรญัตติและขอใช้สิทธิ์อภิปรายในการประชุมรัฐสภาในวาระ 2 ทั้งนี้ในกมธ.ในส่วนพรรคภูมิใจไทย(ภท.)และพรรคเพื่อแผ่นดิน(พผ.)ได้ขอเสนอคำแปรญัตติใหม่ด้วยการแก้ไขจำนวนส.ส.ให้เป็นระบบเขตเดียวเบอร์เดียว 400 คนและบัญชีรายชื่อ 125 คน
นายมานิต นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี พรรคภูมิใจไทย ในฐานะกมธ.กล่าวว่า ตอนนี้เกิดปัญหาในเรื่องจำนวนส.ส.อย่างมากเพราะหลังจากที่กมธ.มีการลงมติไปแล้วได้เกิดความเห็นออกเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจนระหว่างกลุ่มสนับสนุนสูตร 375+125 และกลุ่มสนับสนุน 400+100 คน ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้ต่อไปเชื่อว่ากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไม่สามารถเดินหน้าไปได้ ซึ่งคิดว่าการเสนอแนวทางนี้จะเป็นการทำให้เกิดความเห็นร่วมกันได้
“กลุ่มสนับสนุน 375+125 มาจากฝ่ายวิชาการที่เห็นว่าพรรคการเมืองที่เข้มแข็งต้องมีส.ส.บัญชีรายชื่อจำนวนมากเพื่อความหลากหลายและเปิดทางให้นักวิชาการเข้ามาเป็นส.ส.ได้มากขึ้น ขณะที่กลุ่มที่สนับสนุน 400+100 ก็เพื่อต้องการส.ส.เขตลงไปดูแลประชาชนในพื้นที่ ดังนั้น จึงเห็นว่าทางนี้น่าจะช่วยลดความขัดแย้งได้ ซึ่งภายในพรรคภูมิใจไทยและกมธ.สัดส่วนพรรคเพื่อแผ่นดินได้มีการพูดคุยกันแล้วและก็เห็นด้วยกับแนวทางนี้ โดยพรรคภูมิใจไทยจะนำเรื่องนี้กันในที่ประชุมแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลต่อไป" นายมานิต กล่าว
จากนั้น นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ใช้สิทธิ์ส.ส.เพื่อขอเสนอคำแปรญัตติว่าเห็นด้วยกับการมติของที่ประชุมกมธ.ไม่ได้ติดใจอะไร
นายเทอดพงษ์ ไชยนันท์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานกมธ. กล่าวว่า การประชุมกมธ.ในวันที่ 19 ม.ค.จะเริ่มตั้งแต่ 9.30น.เพื่อให้ส.ว.มาเสนอคำแปรญัตติจากนั้นในช่วงบ่ายจะให้เจ้าหน้าที่ชรวบรวมข้อมูลเพื่อเขียนรายงานส่งให้นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาต่อไป ส่วนจะทันเพื่อให้สามารถบรรจุระเบียบวาระในสัปดาห์หรือไม่อยู่ที่ประธานรัฐสภา สำหรับการเสนอคำแปรญัตติเข้ามาใหม่เป็น400+125 เป็นสิทธิ์ที่ทำได้แต่ทั้งขึ้นอยู่กับการหารือของพรรคร่วมรัฐบาลและที่ประชุมรัฐสภาว่าจะเห็นด้วยกับแนวทางนี้หรือไม่ โดยในส่วนของงพรรคประชาธิปัตย์ยังยืนยันตามตัวเลข 375+125 เพราะเป็นมติที่รัฐบาลเสนอเข้ามา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมกมธ.ในวันนี้มีกำหนดการประชุมตั้งแต่เวลา 13.30.แต่เมื่อถึงเวลาไม่สามารถเปิดประชุมได้ตามกำหนดเนื่องจากองค์ประชุมกมธ.ไม่ถึงครึ่งหนึ่งจำนวน 23 คน โดยเป็นที่น่าสังเกตุว่าส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลเกือบทั้งหมดไม่ได้อยู่ในห้องประชุมแต่อย่างใดจะมีเพียงนายภารดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคชาติไทยพัฒนา และนายมานิต นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี พรรคภูมิใจไทย ที่เข้ามาร่วมประชุม ทำให้กว่าที่องค์ประชุมจะครบต้องรอจนถึงเวลา 14.00น.ถึงจะสามารถเปิดประชุมได้

**ตู่แขวะแค่มวยล้มกลับใช้สูตร400+80
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แถลงว่า จากการติดตามประเมินสถานการณ์ พบว่าการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้จะเข้าข่ายมวยล้มต้มคนดู เพราะแท้ที่จริงแล้วพรรคประชาธิปัตย์ต้องการระบบเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเรียงเบอร์ และ ส.ส.สัดส่วน 8 กลุ่ม 80 คน ตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไปร้องขอต่อ กมธ.ยกร่างชุดที่มี น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ เป็นประธาน แต่ด้วยการที่ไปรับปากพรรคร่วมรัฐบาลไว้ว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงเสนอแนวคิด 375 ต่อ 125 ขึ้นมาเพื่อให้พรรคร่วมรับไม่ได้ และนำไปสู่การล้มกระดานแก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วกลับไปใช้สูตร 400 ต่อ 80 ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ได้ประโยชน์มากที่สุด
“เรื่องนี้คือการเล่นละครตบตาพรรคร่วมรัฐบาลและคนไทยทั้งชาติ ผมเคยบอกแล้วว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่ผลีผลามเล่นไปตามเกมของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะพรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะลงสนามเลือกตั้งทุกกติกา ทุกแนวทางอยู่แล้ว” นายจตุพรกล่าว

** “เนวิน” หนุนสูตรใหม่ 400+125
ที่พรรคภูมิใจไทย นางศุภมาส อิศรภักดี รองโฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงภายหลังการประชุมพรรคว่า พรรคจะไม่มีมติในการโหวตร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญพรรคจะให้เป็นฟรีโหวต เพราะถือเป็นเอกสิทธิ์ของส.ส.ที่เพราะพรรคภูมิใจไทยรับได้ทั้งหมด เนื่องจากเราต่อสู้จนได้ส.ส.แบบเขตเดียวเบอร์เดียวแล้ว ส่วนใครสูตร 400 + 100 ก็ถือเป็นเอกสิทธิ์ของส.ส. เพราะพรรคไม่ได้มีมติ ดังนั้นควรจะไปรอดูการโหวตในสภา แล้วประชาชนจะสนับสนุนสูตรไหนมากกว่ากัน
ด้านนายประจักษ์ กล่าวว่า พรรคยังยืนยันจะเสนอที่มาของ ส.ส. 400 + 100 แน่นอน ซึ่งในวันที่25 ม.ค.เชื่อว่าระดับแกนนำพรรคคงจะไปคุยกัน เพื่อยืนยันจุดยืนของพรรค และมั่นใจว่าผู้ใหญ่จะเคลียร์ในประเด็นความเห็นต่างเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญได้ ไม่น่ามีปัญหาอะไร ส่วนที่มีกระแสข่าวพรรคประชาธิปัตย์จะมีการยุบสภา ตนก็เห็นว่าเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีที่จะสามารถทำได้
ขณะที่นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับผม แต่ก็เห็นว่าอะไรที่จะปรองดองสมานฉันท์กันได้ก็ควรจะทำจะเป็นสูตรไหนก็ได้ หรือจะเป็นสูตร 400+125 พบกันครึ่งทางก็ว่ากันไปจะได้จบๆ”
นายเนวิน กล่าวถึงกระแสข่าวนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะไม่นั่งเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นนั้นว่าตนขอยืนยันว่า หัวหน้าพรรคยังชื่อนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หรือหลังเลือกตั้งหัวหน้าพรรคก็ยังใช่นายชวรัตน์ตามเดิม
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล บุตรชายนายชวรัตน์ กล่าวว่า การที่ตนออกมาพูดเรื่องที่ก่อนเลือกตั้งหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยไม่ใช่ชื่อนายชวรัตน์นั้น ต้องยอมรับว่า เป็นความคลาดเคลื่อนที่สื่อเอามาลงไม่หมด อย่างไรก็ตามตนยอมรับว่าพูดในฐานะลูกชายที่มีความเป็นห่วงพ่อ ท่านอายุมากแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น