xs
xsm
sm
md
lg

“อภิสิทธิ์” จ่อนัดพรรคร่วมถกเร็วขึ้นหากชงแก้ รธน.เข้าสภา 25 ม.ค.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
นายกฯ ชี้ หากชงแก้ รธน.เข้าสภา 25 ม.ค.อาจนัดคุยบิ๊กพรรคร่วมเร็วขึ้น ยันยังไม่ได้คุยกับใครใน ครม.แต่อาจเปลี่ยนวันประชุมเป็น 24 ม.ค.แทน เมินอาถรรพ์นายกฯ สมัยเดียวหากแก้สำเร็จ ชูหลายคนก็คัมแบ็ก ชี้ โครงสร้างชุด “สมบัติ” เป็นเรื่องระยะยาว โยนรัฐชุดหน้าพิจารณา


 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์  

วันนี้ (18 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการบรรจุญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่สภาในวาระ 2 ว่า หากบรรจุในวันที่ 25 ม.ค.อาจจะมีการปรับเวลาในการพบกันระหว่างแกนนำรัฐบาล ซึ่งจะปรับให้เร็วขึ้น เพราะน่าจะต้องคุยกันก่อน ตนยังไม่ทราบ เพราะวันนี้ยังไม่แน่ใจว่ากรรมาธิการทำงานเสร็จหรือไม่ และรู้สึกว่าจะไปทำการชี้แจงระหว่างผู้แปรญัตติในวันที่ 18 และไม่แน่ใจว่าจะมีในวันที่ 19 ม.ค.ด้วยหรือไม่

เมื่อถามว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีโอกาสคุยกับคนอื่นๆ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังครับ เรื่องนี้เราถือว่าเป็นเรื่องที่อยู่ในขั้นตอนของรัฐสภา เพียงแต่ตนแจ้งว่าถ้าสภานัดในวันที่ 25 ม.ค.ก็จะขอนัดประชุม ครม.ในวันที่ 24 เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา เมื่อถามว่า หลังจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว และหากแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จ คนที่เป็นนายกฯ จะสามารถเป็นได้เพียงแค่สมัยเดียว นายอภิสิทธิ์ ยิ้มพร้อมกับกล่าวว่า ตนไม่ทราบจะต้องย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์ก่อน และตนยังเห็นว่าหลายท่านกลับมา

เมื่อถามว่า หลังจากแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ววจะมีองค์ประกอบอะไรที่จะเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีอะไร ต้องดูว่าแต่ละพรรคการเมืองได้มีการกำหนดท่าทีกันอย่างไร เมื่อซักต่อว่า ข้อเสนอของ นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ประธานประธานพิจารณาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จะไม่ให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องในระยะยาว เป็นโครงสร้างใหญ่คงต้องใช้เวลาในการที่จะมาดูกันอีกที่ เพราในเบื้องต้นตนคิดว่า แก้เพื่อให้สามารถไปสู่การเลือกตั้งได้ก่อน และประเด็นที่ อาจารย์สมบัติ เสนอ อาจจะเป็นประเด็นที่แต่ละพรรคการเมือง ไปกำหนดท่าที่ในช่วงการเลือกตั้งก็ได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีทั้งข้อดีข้อเสีย ตนคิดว่า การขยับเข้าไปในลักษณะของระบบ ที่มีการแยกอำนาจ ดูผิวเผินเหมือนกับมีเสถียรภาพ แต่ในหลายประเทศ มีประสบการณ์ที่ทำให้การทำงานมีปัญหาอีกแบบ ซึ่งตัวปัญหาจะคนละแบบกัน โดยส่วนตัวตนยังชอบระบบรัฐสภามากว่า

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้คิดว่ามีความเหมาะสมแล้วหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เป็นการถ่วงดุลในระบบรัฐสภา เพราะฉะนั้นอย่างที่ตนมีความรู้สึกว่าสภาต้องเป็นไปตามเสียงข้างมาก แต่ความเป็นจริงแล้ว มีการถ่วงดุลตามธรรมชาติ ตามที่เราเห็นว่ามีน้อยครั้งที่สภา อยู่ครบวาระ ในขณะที่เราแย่งอำนาจการทำงานของฝ่ายบริหาร ก็จะยากขึ้น ถ้าไม่มีเสียงข้างมากในฝ่ายนิติบัญญัติ แต่ว่า เขาจะอยู่นาน 4 ปี หรือเป็นไปตามวาระ

เมื่อถามว่า ข้อเสนอที่มาจากที่คณะกรรมการที่ นายกฯ ตั้งขึ้น ดังนั้น การที่จะนำไปใช้ต่อ รัฐบาลจะมีเดินหน้าอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ตนมองกรอบเวลาคงไม่สามารถดำเนินการได้ในรัฐบาลนี้ หากเขาสรุปมา จะเป็นประเด็นที่นำไปสู่การเลือกตั้งได้ สำหรับพรรคการเมืองต่างๆ ที่จะกำหนดท่าที ขึ้นอยู่กับรัฐบาลชุดใหม่ว่าเขาจะเอาอย่างไร เมื่อซักต่อว่า จะเป็นกรอบบีบรัดว่านายกฯ จะต้องทำตามข้อเสนอระยะยาวนี้ด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ข้อเสนอระยะยาวตรงนี้ยังไม่ได้เสนอตนมาเป็นทางการ และคงจะต้องดูว่ามีรายละเอียดอย่างไร เพราะว่าตนเข้าใจว่าในตัวการศึกษาของเขาเอง จะไปหยิบเฉพาะประเด็นใดประเด็นหนึ่งไม่ได้ อาจจะมีความเกี่ยวข้องว่าในอนาคต ถ้าจะมีการปรับรื้อใหญ่ ควรจะมีกระบวนการแก้ไขอย่างไรด้วย

เมื่อถามว่า จะมีการกลับไปสู่คณะกรรมการชุด นพ.ประเวศ วะสี ประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ของ อาจารย์ประเวศ ยังไม่ได้ทำรายงานมา แต่ที่ตนติดตามอยู่จะเน้นในเรื่องการกระจายอำนาจมากกว่า เพราะของ อาจารย์ประเวศ แนวคิดหลักคือทำอย่างไรจะลดความสำคัญของการมีอำนาจในศูนย์กลาง เพราะฉะนั้นตรงนี้จะเป็นคนละส่วนกับที่ อาจารย์สมบัติ เสนอ เมื่อถามว่า ในกรณีที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเสนอการแก้ไขรัฐธรรมนูญในสูตร ที่ว่าด้วย 350+150 จะเป็นการเพิ่มข้อโต้แย้งมาขึ้นหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า วันนี้จะมีการแปรญัตติ ซึ่งจะต้องว่ากันต่อไป

ส่วนการหารือร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ยังมีความเห็นต่างกันในเรื่องที่มาของ ส.ส.นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากประธานสภาผู้แทนราษฎร บรรจุวาระการประชุมไว้ ในวันที่ 25 มกราคมนี้ อาจต้องมีการปรับเวลา ที่จะพบปะกันให้เร็วขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ นัดไว้วันที่ 26 มกราคม ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรีนั้น คงต้องเลื่อนจากปกติวันอังคาร มาเป็นวันจันทร์ที่ 24 มกราคม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการทำงาน
กำลังโหลดความคิดเห็น