xs
xsm
sm
md
lg

คลังค้ำเงินกู้แอร์พอร์ตลิงก์ 400 ล.กู้วิกฤตสภาพคล่อง-แนะปรับแผนเดินรถใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“คลัง-ร.ฟ.ท.” หาทางออกแก้ปัญหาแอร์พอร์ตลิงก์ ไฟเขียวค้ำเงินกู้ปีแรก 400 ล้านบาท เสริมสภาพคล่อง ขีดเส้นจัดทำแผนบริหารงานและจัดหารายได้ที่เป็นรูปธรรมเสนอบอร์ดบริหารหนี้ชุดใหม่ แนะปรับเวลาเดินรถ City Line และ Express Line ให้มากขึ้นกระตุ้นยอดผู้โดยสารลดการขาดทุน พร้อมหาแหล่งเงินกู้ซื้อขบวนใหม่รองรับปริมาณผู้โดยสารเต็มขีดความสามารถอีก 3 พันล้านบาท ภายใน 3 ปีข้างหน้า

นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นายภากรณ์ ตั้งเจตสกาว รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ในฐานะรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด ผู้บริหารโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง หรือแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ได้เข้ามาร่วมหารือถึงแนวทางการแก้ปัญหาสภาพคล่องของแอร์พอร์ต ลิงก์

โดยทางผู้บริหารได้นำแผนการหารายได้ และปริมาณผู้โดยสารมาเสนอ ซึ่งมองว่า ยังเป็นแผนที่ไม่ชัดเจนโดยเฉพาะการปรับปรุงการให้บริการเพื่อหารายได้เพิ่ม จึงขอให้ทางบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด ไปทำแผนให้ชัดเจนขึ้น เพื่อแลกกับการค้ำประกันเงินกู้ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยนำมาใช้เสริมสภาพคล่องให้แอร์พอร์ต ลิงก์ ในช่วง 1 ปีนี้ จำนวน 400 ล้านบาท ส่วนเงินกู้ที่เหลือในปีถัดๆ ไปค่อยมาพิจารณาในภายหลัง

ทั้งนี้ จากข้อมูลที่ทางรถไฟนำมาเสนอ พบว่า ปัจจุบันรถไฟฟ้าสายเอ็กซ์เพรส ไลน์ หรือรถด่วน มีจำนวนรถทั้งหมด 4 ขบวน เปิดวิ่งให้บริการ 3 ขบวน และสำรองไว้กรณีฉุกเฉิน 1 ขบวน มีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 2 พันคน ขณะที่สาย ซิตี้ ไลน์ ซึ่งเป็นรถธรรมดา มีวิ่งเพียง 4 ขบวน จากทั้งหมด 5 ขบวน มีผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 3-4 หมื่นคน ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

ดังนั้น ทาง สบน.จึงเสนอแนะให้มีการปรับการเดินรถระหว่างรถไฟฟ้า 2 ขบวน ให้มีความสอดคล้องกัน เพราะปัจจุบันสายด่วนจะวิ่งทิ้งห่างกันถึง 40 นาที จากเดิมที่เคยวิ่งทุก 20 นาที เพื่อต้องการลดต้นทุนการเดินรถ ทำให้ยิ่งมีปริมาณผู้โดยสารลดลงจนบางเที่ยวแทบจะวิ่งรถเปล่า โดยอยากให้ปรับเวลาห่างกันเหลือ 15 นาที เพื่อให้มีระยะห่างกับสายธรรมดาที่วิ่งทุก 30 นาทีไม่มากนัก เพื่อดึงให้ผู้โดยสารกลับมาใช้บริการให้มากขึ้น

“แผนหารายได้ที่รถไฟเสนอมานั้นยังไม่มีความชัดเจน เช่น การหารายได้จากค่าเช่าพื้นที่ โดยเฉพาะสถานีมักกะสันที่ลงทุนไป 4 พันล้านบาท แต่ผลตอบแทนเชิงพาณิชย์ที่ได้กลับคืนมาน้อยมาก แม้แต่สายการบินต่างๆ ก็ถอนตัวออกไปหมด เพราะมีผู้มาใช้บริการเช็กอินแค่วันละ 20 คนเท่านั้น จึงขอให้ไปปรับปรุงพื้นทีในส่วนนี้ใหม่ ส่วนการปรับปรุงการเชื่อมโยงระบบการเดินรถของสายธรรมดากับสายด่วนนั้น อาจต้องลงทุนด้านซอฟต์แวร์เพิ่มทาง สบน.พร้อมจะหาเงินทุนใหม่อยู่แล้ว แต่ทางรถไฟชี้แจงว่า เป็นเรื่องของนโยบายที่ให้มีสายด่วนกับสายธรรมดาแยกกันวิ่งจึงต้องขอนำไปหารือกับรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงก่อน” นายจักรกฤศฏิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม สบน.พร้อมจะทำตามมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ระบุให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ให้การรถไฟฯ เพื่อปล่อยกู้ต่อเสริมสภาพคล่องให้แอร์พอร์ตลิงก์ในช่วงดำเนินงานระยะแรกที่จะประสบปัญหาขาดทุน แต่ทางแอร์พอร์ตลิงก์ก็ต้องมีแผนหารายได้และลดการขาดทุนที่ชัดเจนด้วย ซึ่งยังไม่รวมแผนการลงทุนและจัดซื้อขบวนรถไฟเพิ่ม ซึ่งส่วนนั้นต้องใช้เงินอีก 2-3 พันล้านบาท หากมีความจำเป็นและมีแผนงานที่ชัดเจนทาง สบน.ก็พร้อมจะจัดหาเงินกู้เพิ่มเติมให้

“แผนการต่างๆ ที่เราให้บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.ทบทวนมาใหม่ ทั้งในเรื่องของแผนการจัดการองค์การ แผนการหารายได้ รวมทั้งการลงทุนเพิ่มเติมในอนาคตเพื่อเชื่อมต่อกับท่าอากาศยานดอนเมืองทั้งหมดนั้นให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นเพื่อเสนอเข้าที่ประชุมใหญ่ของคณะกรรมการบริหารหนี้สาธารณะที่จะมีขึ้นหลังจากที่มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เพื่อให้การดำเนินงานของบริษัทรถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.มีประสิทธิภาพมากที่สุด” นายจักรกฤศฏิ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น