ที่พรรคเพื่อไทย วานนี้ (1 ส.ค.) นายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่าการรถไฟฟ้ามหานคร (รฟม.) ในฐานะคณะทำงานระบบราง พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงโครงการระบบขนส่งมวลชนทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสถานีรับ-ส่งผู้โดยสารท่าอากาศยานกรุงเทพมหานคร (แอร์พอร์ต เรลลิงก์) เกิดปัญหาการบริหารจัดการและความปลอดภัยของผู้โดยสาร ซึ่งหากไม่สามารถแก้ไขปัญหาภายใน 1-2 เดือนได้อาจต้องหยุดให้บริการ ว่า คิดว่าเป็นเรื่องของวิธีคิดในการทำงาน เพราะต้องไม่ลืมว่าแอร์พอร์ตลิงก์คือธุรกิจ แต่เมื่อนำไปผูกโยงกับการบริหารของรัฐวิสาหกิจอย่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ทำให้การบริหารไม่มีความคล่องตัว นอกจากนี้ การที่นำบุคลากรจาก ร.ฟ.ท.มาบริหารงานในระดับบริหาร ขณะที่ยังต้องปฏิบัติหน้าที่ที่ ร.ฟ.ท.อยู่ทำให้ความเอาใจใส่ในการดำเนินงานน้อยลง
นายประภัสร์กล่าวว่า ปัญหาที่แอร์พอร์ตลิงก์ประสบตอนนี้หลักๆ คือเรื่องงบประมาณที่จะต้องนำมาซื้ออะไหล่สำรอง ที่ดูคล้ายๆ กับว่ามีการอนุมัติแล้วแต่เงินทำไมไม่ได้ ซึ่งเราจะต้องดูในเรื่องนี้ รวมไปถึงการบริหารจัดการภายใน รวมไปถึงการปรับปรุงระบบความปลอดภัยและทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวหันมาใช้บริการในระบบมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะการบริหารจัดการไม่ดีหรือวางแผนไม่ดีตั้งแต่เริ่มโครงการในสมัยรัฐบาลไทยรักไทย นายประภัสร์กล่าวว่า ขณะนั้น ตนยังเป็นผู้ว่าการ รฟม.อยู่ ซึ่งยืนยันว่าหลายอย่างได้แนะนำไปให้มีการดำเนินการต่อเช่น การเชื่อมต่อสถานีแอร์พอร์ตลิงก์สถานีมักกะสันเข้ากับสถานีเอ็มอาร์ทีเพชรบุรี รวมไปถึงแผนพัฒนาเชิงพาณิชย์ต่างๆ ในบริเวณนั้นให้ไปสู่การดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่ปรากฏว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ หาก ร.ฟ.ท.ไม่มีศักยภาพตรงนี้ ก็ควรให้เอกชนเข้ามาทำ เพราะรัฐบาลลงทุนกับโครงการแอร์พอร์ตลิงก์ไปหลายหมื่นล้านบาท แต่เงินสร้างทางเชื่อมมายังเอ็มอาร์ทีไม่กี่ร้อยล้านบาทไม่สามารถทำได้ คำถามคือที่ได้เสนอแผนไปทำไมถึงไม่มีการดำเนินการ
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการประเมินว่าหากไม่มีการแก้ไขปัญหาอาจต้องปิดให้บริหารภายใน 1-2 เดือนนี้ นายประภัสร์กล่าวว่าเป็นสิ่งที่จะให้เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะแอร์พอร์ตลิงก์ถือเป็นหน้าตาของประเทศ ซึ่งรัฐบาลชุดใหม่จะเร่งเข้าไปแก้ไขปัญหา เพื่อให้การบริการเดินไปข้างหน้าและดีกว่าที่เป็นอยู่
**รฟท.ยันไม่ยกเลิกบริการแอร์พอร์ตลิงก์
นายภากรณ์ ตั้งเจตสกาว รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท.ในฐานะกรรมการผู้จัดการของบริษัทรถไฟฟ้า รฟท.จำกัด ซึ่งกำกับดูแลรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ กล่าวว่า ที่มีข่าวว่าการบริหารงานมีปัญหาจนอาจจะต้องยกเลิกบริการนั้นไม่จริง เพราะบริษัทเพิ่งจดทะเบียนเมื่อกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตอนนี้ถือเป็นช่วงเริ่มต้นที่อาจจะมีปัญหาเป็นปกติ แต่ไม่รุนแรงถึงต้องหยุดให้บริการ ทุกอย่างยังเป็นไปตามแผนธุรกิจ ช่วงเริ่มต้นจนถึง 5 ปีแรกจะยังขาดทุน จึงของบประมาณจากการรถไฟ 2,000 ล้านบาท และได้รับอนุมัติแล้ว 140 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะต้องขอกู้จากส่วนอื่นๆ มาใช้ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการเจรจากู้เงิน เช่นเดียวกับปัญหาอะไหล่สำรองซึ่งเป็นปัญหาอยู่บ้าง แต่ใช้วิธียืมจากขบวนรถสำรองมาใช้ไปก่อน ไม่มีปัญหากระทบต่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการแต่อย่างใด
นายภากรณ์ ยอมรับว่า ผู้ใช้บริการยังต่ำกว่าเป้าหมาย โดยเฉพาะรถด่วนเอ็กเพรสไลน์ ตั้งเป้าไว้ 2,200 คนต่อวัน แต่มีผู้ใช้บริการ 300-400 คนเท่านั้น จึงได้ขยายสถานีไปยังพญาไท ทำให้มียอดผู้ใช้บริการเพิ่มเป็นวันละ 2,300 คน ส่วนผู้ใช้บริการเช็คอินที่สถานีมักกะสันก็ยังต่ำกว่าเป้า แต่กำลังประชาสัมพันธ์ให้กรุ๊ปทัวร์จากโรงแรมใกล้เคียงมาใช้บริการมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
นายประภัสร์กล่าวว่า ปัญหาที่แอร์พอร์ตลิงก์ประสบตอนนี้หลักๆ คือเรื่องงบประมาณที่จะต้องนำมาซื้ออะไหล่สำรอง ที่ดูคล้ายๆ กับว่ามีการอนุมัติแล้วแต่เงินทำไมไม่ได้ ซึ่งเราจะต้องดูในเรื่องนี้ รวมไปถึงการบริหารจัดการภายใน รวมไปถึงการปรับปรุงระบบความปลอดภัยและทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวหันมาใช้บริการในระบบมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะการบริหารจัดการไม่ดีหรือวางแผนไม่ดีตั้งแต่เริ่มโครงการในสมัยรัฐบาลไทยรักไทย นายประภัสร์กล่าวว่า ขณะนั้น ตนยังเป็นผู้ว่าการ รฟม.อยู่ ซึ่งยืนยันว่าหลายอย่างได้แนะนำไปให้มีการดำเนินการต่อเช่น การเชื่อมต่อสถานีแอร์พอร์ตลิงก์สถานีมักกะสันเข้ากับสถานีเอ็มอาร์ทีเพชรบุรี รวมไปถึงแผนพัฒนาเชิงพาณิชย์ต่างๆ ในบริเวณนั้นให้ไปสู่การดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่ปรากฏว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ หาก ร.ฟ.ท.ไม่มีศักยภาพตรงนี้ ก็ควรให้เอกชนเข้ามาทำ เพราะรัฐบาลลงทุนกับโครงการแอร์พอร์ตลิงก์ไปหลายหมื่นล้านบาท แต่เงินสร้างทางเชื่อมมายังเอ็มอาร์ทีไม่กี่ร้อยล้านบาทไม่สามารถทำได้ คำถามคือที่ได้เสนอแผนไปทำไมถึงไม่มีการดำเนินการ
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการประเมินว่าหากไม่มีการแก้ไขปัญหาอาจต้องปิดให้บริหารภายใน 1-2 เดือนนี้ นายประภัสร์กล่าวว่าเป็นสิ่งที่จะให้เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะแอร์พอร์ตลิงก์ถือเป็นหน้าตาของประเทศ ซึ่งรัฐบาลชุดใหม่จะเร่งเข้าไปแก้ไขปัญหา เพื่อให้การบริการเดินไปข้างหน้าและดีกว่าที่เป็นอยู่
**รฟท.ยันไม่ยกเลิกบริการแอร์พอร์ตลิงก์
นายภากรณ์ ตั้งเจตสกาว รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท.ในฐานะกรรมการผู้จัดการของบริษัทรถไฟฟ้า รฟท.จำกัด ซึ่งกำกับดูแลรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ กล่าวว่า ที่มีข่าวว่าการบริหารงานมีปัญหาจนอาจจะต้องยกเลิกบริการนั้นไม่จริง เพราะบริษัทเพิ่งจดทะเบียนเมื่อกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตอนนี้ถือเป็นช่วงเริ่มต้นที่อาจจะมีปัญหาเป็นปกติ แต่ไม่รุนแรงถึงต้องหยุดให้บริการ ทุกอย่างยังเป็นไปตามแผนธุรกิจ ช่วงเริ่มต้นจนถึง 5 ปีแรกจะยังขาดทุน จึงของบประมาณจากการรถไฟ 2,000 ล้านบาท และได้รับอนุมัติแล้ว 140 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะต้องขอกู้จากส่วนอื่นๆ มาใช้ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการเจรจากู้เงิน เช่นเดียวกับปัญหาอะไหล่สำรองซึ่งเป็นปัญหาอยู่บ้าง แต่ใช้วิธียืมจากขบวนรถสำรองมาใช้ไปก่อน ไม่มีปัญหากระทบต่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการแต่อย่างใด
นายภากรณ์ ยอมรับว่า ผู้ใช้บริการยังต่ำกว่าเป้าหมาย โดยเฉพาะรถด่วนเอ็กเพรสไลน์ ตั้งเป้าไว้ 2,200 คนต่อวัน แต่มีผู้ใช้บริการ 300-400 คนเท่านั้น จึงได้ขยายสถานีไปยังพญาไท ทำให้มียอดผู้ใช้บริการเพิ่มเป็นวันละ 2,300 คน ส่วนผู้ใช้บริการเช็คอินที่สถานีมักกะสันก็ยังต่ำกว่าเป้า แต่กำลังประชาสัมพันธ์ให้กรุ๊ปทัวร์จากโรงแรมใกล้เคียงมาใช้บริการมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม