ผู้สื่อข่าวรยงานว่า วานนี้(18 ม.ค.) จากกรณี ที่นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ประกาศไว้ในเดือนก.พ. 2553 ว่า จะลาออกจากตำแหน่งประธานฯภายหลังจากสถานการณ์บ้านเมืองสงบ เพื่อเปิดโอกาสให้ส.ว.คนอื่น ได้ขึ้นมาทำหน้าที่ประธานวุฒิสภาบ้าง ทำให้ตั้งแต่ต้นปี 2554 มี ความพยายามจากส.ว.หลายกลุ่ม สอบถามความชัดเจนจากนายประสพสุข ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานายประสพสุข ออกมาปฏิเสธกระแสข่าวลือว่า ได้ยื่นใบลาออกแล้ว โดยระบุว่า ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาเนื่องจากเกรงว่า อาจทำให้วุฒิสภากระเพื่อมและอาจเป็นสูญญากาศในฝ่ายนิติบัญญัติหากสภาผู้แทน ราษฎรถูกยุบ
ที่รัฐสภา นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ส.ว.ราชบุรี แกนนำกลุ่มส.ว.เลือกตั้ง กล่าวว่า ได้หารือกับเพื่อนส.ว.บางส่วน มีความเห็นตรงกันว่า จะทำหนังสือเปิดผนึกถึงนายประสพสุข เพื่อทวงถามความชัดเจนเกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภาว่า จะลาออกหรือไม่อย่างไร เพราะการทำงานที่ผ่านมาจะมีการประเมินผลงานทุกปี และนายประสพสุขรับปากว่าจะขออยู่ในตำแหน่งเพียง 2 ปี ก็จะลาออกเพื่อให้ส.ว.คนอื่นขึ้นมาเป็นบ้าง แต่ปัจจุบันเกือบครบวาระ 3 ปี แล้วก็ยังไม่ออกโดยที่ผ่านมามีข้ออ้างไปเรื่อยๆ เช่น จะขออยู่ร่วมประชุมไอพียู ถัดมาก็อ้างว่า เหตุการณ์บ้านเมืองยังไม่สงบ ล่าสุดก็บอกว่าเมื่อผ่านพ้นงานพระราชพิธีจะลาออกทั้งจากประธานวุฒิสภาและ ส.ว. ในวันที่ 18 ม.ค. ซึ่งพวกตนได้ขอร้องให้อยู่จนถึงวันที่ 31 ม.ค. เพื่อให้วุฒิสภาเปิดประชุมนัดแรกได้ ซึ่งนายประสพสุขก็ตอบตกลง แต่พอพาคณะกลับจากไปดูงานต่างประเทศ ก็อ้างว่ามีคนมาขอร้องไม่ให้ออก
“ดู แล้วท่านคงอยู่ไปจนครบวาระเพื่อรักษาการต่อไปอีก ถือว่าท่านไม่มีสัญญาสุภาพบุรุษ ที่ผ่านมาไม่เคยคิดจะจับมือเซ็นสัญญา เพราะเห็นว่าเป็นผู้ใหญ่ และมีผู้ใหญ่ที่คนให้ความนับถือเป็นคนกลางรับทราบข้อตกลงนี้ด้วย แต่กลับมาบิดพริ้วไม่ทำตามสัญญาสุภาพบุรุษ ขณะนี้ส.ว.หลายคนทนไม่ได้แล้ว และที่ผมลงมาจัดการเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวว่าจะเอาใครมาลงชิง แต่นายประสพสุขมาอ้างว่าได้ทำความเข้าใจกับ นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี และนายนิดม ไวยรัชพานิช ส.ว.ฉะเชิงเทรา รองประธานวุฒิสภาที่มีข่าวว่า จะลงชิงตำแหน่งแล้ว ซึ่งผมเห็นว่าไม่เกี่ยวกัน ที่ผมทำแบบนี้ไม่ได้สนับสนุนใครเป็นการส่วนตัว เพียงแต่มาเป็นตัวกลางประสานระหว่างส.ว.เลือกตั้งกับประธานฯ ดังนั้นเมื่อท่านไม่ทำตามที่รับปากผมก็เสียเหมือนกัน ดังนั้นเมื่อวันที่ 17 มกราคม ผมและนายประสิทธิ์ โพธสุธน ส.ว.สุพรรณบุรี จึงได้เข้าพบเพื่อสอบถามความชัดเจนอีกครั้ง แต่เมื่อไม่ได้คำตอบจึงไปต่อว่าอย่างรุนแรง” นายเกชา กล่าว
ด้าน นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว.สรรหา แกนนำกลุ่ม 40 ส.ว. กล่าวว่า ทางกลุ่มได้หารือถึงกรณีที่มีการกดดันให้นายประสพสุขลาออก ทั้งที่เหลือเวลาการดำรงตำแหน่งส.ว.เพียง 1 เดือน ซึ่งทางกลุ่มไม่เห็นด้วย แม้จะถูกกดดันจากกลุ่มอื่นที่ยกคำสัญญาในเรื่องการลาออกมา ทั้งนี้การรักษาคำพูดเป็นความรับผิดชอบส่วนตัวของบุคคล แต่จะต้องมองภาพรวมโดยยึดประโยชน์บ้านเมืองมากกว่า ที่ผ่านมาประธานวุฒิเคยรับปากว่าหากสถานการณ์บ้านเมืองสงบก็จะลงจากตำแหน่ง แต่ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่ราบรื่นและยังมีประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญในสภา อยู่ หากมีอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้นจะทำอย่างไร
“นอก จากนี้ การเลือกประธานวุฒิสภาคนใหม่ควรเปิดโอกาสให้ ส.ว.สรรหาชุดใหม่เข้ามามีส่วนร่วมด้วย ซึ่งทางกลุ่มไม่รู้ว่าหากจะมีการลาออกช้าไปเพียง 1 เดือนจะมีใครได้ประโยชน์หรือมีส่วนได้ส่วนเสียบ้าง ทั้งนี้ทางกลุ่มได้มีการแสดงเจตจำนงต่อนายประสพสุขไปแล้วว่าควรดำรงตำแหน่ง ต่อไป แม้ จะทราบว่ามีบางกลุ่มที่ต้องการให้ประธานวุฒิสภาลาออก ดังนั้นจึงอยากให้ประธานวุฒิสภาคิดถึงประโยชน์ส่วนรวมด้วย โดยเฉพาะกรณีหากมีการยุบสภาก็จะเหลือวุฒิสภาที่ยังทำหน้าต่อไปได้ ขณะนี้ทางกลุ่มกำลังร่างจดหมายเปิดผนึกถึงประธานวุฒิสภาเพื่อแสดงเจตนารมณ์ ต่อกรณีดังกล่าวอีกครั้ง แม้ที่ผ่านมาจะเคยส่งสัญญาณไปแล้วก็ตาม เพื่อให้ประธานวุฒิสภานำไปประกอบการพิจารณา” นายสุรชัย กล่าว
เมื่อ ถามว่าจะมีการพูดคุยกันนอกรอบกับกลุ่มต่างๆเพื่อทำความเข้าใจในเรื่องนี้ หรือไม่ นายสุรชัย กล่าวว่า ตนไม่รู้ว่าใครอยู่กลุ่มไหน หรือฝ่ายใดที่ไปกดดันให้นายประสพสุขลาออก แต่ที่ผ่านมาก็มีการพูดคุยกัน ซึ่งทุกฝ่ายก็เห็นไปในทิศทางเดียวกัน
ที่รัฐสภา นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ส.ว.ราชบุรี แกนนำกลุ่มส.ว.เลือกตั้ง กล่าวว่า ได้หารือกับเพื่อนส.ว.บางส่วน มีความเห็นตรงกันว่า จะทำหนังสือเปิดผนึกถึงนายประสพสุข เพื่อทวงถามความชัดเจนเกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภาว่า จะลาออกหรือไม่อย่างไร เพราะการทำงานที่ผ่านมาจะมีการประเมินผลงานทุกปี และนายประสพสุขรับปากว่าจะขออยู่ในตำแหน่งเพียง 2 ปี ก็จะลาออกเพื่อให้ส.ว.คนอื่นขึ้นมาเป็นบ้าง แต่ปัจจุบันเกือบครบวาระ 3 ปี แล้วก็ยังไม่ออกโดยที่ผ่านมามีข้ออ้างไปเรื่อยๆ เช่น จะขออยู่ร่วมประชุมไอพียู ถัดมาก็อ้างว่า เหตุการณ์บ้านเมืองยังไม่สงบ ล่าสุดก็บอกว่าเมื่อผ่านพ้นงานพระราชพิธีจะลาออกทั้งจากประธานวุฒิสภาและ ส.ว. ในวันที่ 18 ม.ค. ซึ่งพวกตนได้ขอร้องให้อยู่จนถึงวันที่ 31 ม.ค. เพื่อให้วุฒิสภาเปิดประชุมนัดแรกได้ ซึ่งนายประสพสุขก็ตอบตกลง แต่พอพาคณะกลับจากไปดูงานต่างประเทศ ก็อ้างว่ามีคนมาขอร้องไม่ให้ออก
“ดู แล้วท่านคงอยู่ไปจนครบวาระเพื่อรักษาการต่อไปอีก ถือว่าท่านไม่มีสัญญาสุภาพบุรุษ ที่ผ่านมาไม่เคยคิดจะจับมือเซ็นสัญญา เพราะเห็นว่าเป็นผู้ใหญ่ และมีผู้ใหญ่ที่คนให้ความนับถือเป็นคนกลางรับทราบข้อตกลงนี้ด้วย แต่กลับมาบิดพริ้วไม่ทำตามสัญญาสุภาพบุรุษ ขณะนี้ส.ว.หลายคนทนไม่ได้แล้ว และที่ผมลงมาจัดการเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวว่าจะเอาใครมาลงชิง แต่นายประสพสุขมาอ้างว่าได้ทำความเข้าใจกับ นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี และนายนิดม ไวยรัชพานิช ส.ว.ฉะเชิงเทรา รองประธานวุฒิสภาที่มีข่าวว่า จะลงชิงตำแหน่งแล้ว ซึ่งผมเห็นว่าไม่เกี่ยวกัน ที่ผมทำแบบนี้ไม่ได้สนับสนุนใครเป็นการส่วนตัว เพียงแต่มาเป็นตัวกลางประสานระหว่างส.ว.เลือกตั้งกับประธานฯ ดังนั้นเมื่อท่านไม่ทำตามที่รับปากผมก็เสียเหมือนกัน ดังนั้นเมื่อวันที่ 17 มกราคม ผมและนายประสิทธิ์ โพธสุธน ส.ว.สุพรรณบุรี จึงได้เข้าพบเพื่อสอบถามความชัดเจนอีกครั้ง แต่เมื่อไม่ได้คำตอบจึงไปต่อว่าอย่างรุนแรง” นายเกชา กล่าว
ด้าน นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว.สรรหา แกนนำกลุ่ม 40 ส.ว. กล่าวว่า ทางกลุ่มได้หารือถึงกรณีที่มีการกดดันให้นายประสพสุขลาออก ทั้งที่เหลือเวลาการดำรงตำแหน่งส.ว.เพียง 1 เดือน ซึ่งทางกลุ่มไม่เห็นด้วย แม้จะถูกกดดันจากกลุ่มอื่นที่ยกคำสัญญาในเรื่องการลาออกมา ทั้งนี้การรักษาคำพูดเป็นความรับผิดชอบส่วนตัวของบุคคล แต่จะต้องมองภาพรวมโดยยึดประโยชน์บ้านเมืองมากกว่า ที่ผ่านมาประธานวุฒิเคยรับปากว่าหากสถานการณ์บ้านเมืองสงบก็จะลงจากตำแหน่ง แต่ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่ราบรื่นและยังมีประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญในสภา อยู่ หากมีอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้นจะทำอย่างไร
“นอก จากนี้ การเลือกประธานวุฒิสภาคนใหม่ควรเปิดโอกาสให้ ส.ว.สรรหาชุดใหม่เข้ามามีส่วนร่วมด้วย ซึ่งทางกลุ่มไม่รู้ว่าหากจะมีการลาออกช้าไปเพียง 1 เดือนจะมีใครได้ประโยชน์หรือมีส่วนได้ส่วนเสียบ้าง ทั้งนี้ทางกลุ่มได้มีการแสดงเจตจำนงต่อนายประสพสุขไปแล้วว่าควรดำรงตำแหน่ง ต่อไป แม้ จะทราบว่ามีบางกลุ่มที่ต้องการให้ประธานวุฒิสภาลาออก ดังนั้นจึงอยากให้ประธานวุฒิสภาคิดถึงประโยชน์ส่วนรวมด้วย โดยเฉพาะกรณีหากมีการยุบสภาก็จะเหลือวุฒิสภาที่ยังทำหน้าต่อไปได้ ขณะนี้ทางกลุ่มกำลังร่างจดหมายเปิดผนึกถึงประธานวุฒิสภาเพื่อแสดงเจตนารมณ์ ต่อกรณีดังกล่าวอีกครั้ง แม้ที่ผ่านมาจะเคยส่งสัญญาณไปแล้วก็ตาม เพื่อให้ประธานวุฒิสภานำไปประกอบการพิจารณา” นายสุรชัย กล่าว
เมื่อ ถามว่าจะมีการพูดคุยกันนอกรอบกับกลุ่มต่างๆเพื่อทำความเข้าใจในเรื่องนี้ หรือไม่ นายสุรชัย กล่าวว่า ตนไม่รู้ว่าใครอยู่กลุ่มไหน หรือฝ่ายใดที่ไปกดดันให้นายประสพสุขลาออก แต่ที่ผ่านมาก็มีการพูดคุยกัน ซึ่งทุกฝ่ายก็เห็นไปในทิศทางเดียวกัน