xs
xsm
sm
md
lg

เป็ดเหลิมขย่ม“โดเรมิ่ง” ทำลายขวัญก่อนนำทีมซักฟอก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(17ม.ค.)ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า หลังจากที่พรรคมีแนวโน้มว่าจะให้ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เป็นผู้นำการอภิปราย พร้อมทั้งแนบชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีเงา โดยมีส.ส.บางส่วนเดินทางไปหารือเรื่องนี้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่ขัดข้องนั้น ส่วนตัวยินดีที่จะให้ข้อมูล แต่จะไม่ร่วมอภิปรายครั้งนี้ เพราะส.ส.ที่ใกล้ชิดนายมิ่งขวัญ บางคนระบุว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้จะมีรูปแบบสมานฉันท์ ไม่ดุเดือดเลือดพล่าน เลือดท่วมจอ พร้อมเสนอนโยบายควบคู่ไปด้วย ซึ่งไม่ตรงกับแนวทางของตน ที่คิดว่าการอภิปรายจะต้องนำเรื่องการทุจริต การบริหารงานที่ล้มเหลวมาถล่มรัฐบาล ตีแผ่ให้ประชาชนเห็น อย่างไรก็ตามนายมิ่งขวัญ อาจจะมีข้อมูลที่ดีก็ได้ ก็ขอภาวนาให้ นายมิ่งขวัญ ประสบความสำเร็จ ยืนยันว่าตนไม่ได้น้อยใจ อะไร

**ย๊ว!ไม่ใช่ลูกน้อง อย่ามาชี้นิ้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าหาก ร.ต.อ.เฉลิม ไม่ร่วมการอภิปรายครั้งนี้จะทำให้ขาดสีสัน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ส.ส.ที่ใกล้ชิดนายมิ่งขวัญหลายคนให้สัมภาษณ์ และตนยังตัดข่าวเก็บไว้บอกว่าจะอภิปรายแนวใหม่ไม่มีเลือดท่วมจอ และ จะเสนอนโยบายควบคู่ไปด้วย แต่ตนไม่ใช่แบบนั้นคิดว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจต้องเป็นแบบทศกัณฐ์ ไม่ใช่มาพูดกันแบบพระราม พระลักษณ์ เมื่อถามว่าหากพ.ต.ท.ทักษิณร้องขอให้ช่วยอภิปรายครั้งนี้ด้วย ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนเป็นลูกพรรค เป็นเพื่อน พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่ลูกน้องการอภิปรายครั้งนี้ถึงอย่างไรก็คงไม่ร่วมด้วย เมื่อถามว่า หากนายมิ่งขวัญ ถูกซักถูกไล่ต้อนอย่างหนัก จะช่วยหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของนายมิ่งขวัญเอง ทั้งนี้ถ้าหากตนเข้าไปมีส่วนร่วมใดๆ กับการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ แล้วเกิดข้อผิดพลาดก็อาจจะมีเสียงตำหนิมาที่ตนว่าเป็นตัวการ ดังนั้นจะไม่ขอมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ โดยจะไปใช้เวทีสภาตั้งกระทู้ถามแทน

**“มาร์ค-เทือก” เป้าใหญ่ซักฟอก
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้น ทางพรรคเพื่อไทยจะนำประเด็นที่เกี่ยวกับการทุจริต การสลายการชุมนุม และการบริหารราชการแผ่นดินที่ผิดพลาด ขึ้นมาเป็นประเด็นหลักในการอภิปราย ซึ่งขณะนี้ทีมของพรรคเพื่อไทยก็ได้รวบรวมข้อมูลมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว ทั้งนี้ภายในสัปดาห์นี้ก็จะมีการประชุมของ ส.ส.ในพรรคเพื่อไทย เพื่อกำหนดความชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ ได้แบ่งคณะทำงานออกเป็น 3 คณะ คือ 1.ด้านเศรษฐกิจ จะมีนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน เป็นหัวหน้าทีม 2.การสลายชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 มีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน แกนนำคนเสื้อแดง 3.การทุจริตในโครงการต่างๆ อาทิ โครงการประมูลสินค้าเกษตร ของกระทรวงพาณิชย์ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ของกระทรวงคมนาคม และการบริหารงานของกระทรวงมหาดไทย โดยมี ส.ส.ระดับแกนนำเข้ามาร่วมคณะทำงานหลายคนและเป็นประเด็นที่พรรคเพื่อไทยให้น้ำหนักมากที่สุดในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ โดยมีนายมิ่งขวัญ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. และผู้อำนวยการสำนักปราบโกง (สปก.) นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.สัดส่วน เป็นผู้รวบรวมข้อมูล เมื่อรวบรวมประเด็นและข้อมูลหลักฐาน แล้วเก็บเป็นความลับของแต่ละคณะ จากนั้นจะมีการนัดหมายประชุมเพื่อพิจารณาภาพรวม และตัดสินใจเลือกประเด็นก่อนถึงวันอภิปรายไม่ไว้วางใจจริงในเวลาไม่นานนัก เพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหล”
ทั้งนี้ เป้าหมายใหญ่อยู่ที่งานด้านความมั่นคง และการบริหารงานของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีหลายประเด็นทำให้เห็นว่าเกิดการทุจริตขึ้น โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ร่วมกันดูแลงานด้านความมั่นคง และหลายกรณีเกิดการบริหารที่ผิดพลาด และมีการทุจริต เช่น การทำงานของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ในช่วงสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง ซึ่งนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ จะเป็น 2 ตัวละครสำคัญ

**อ้างเหลิมถอนตัว“ยังไม่ได้คุยกัน”
นายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย หนึ่งใน ส.ส.ที่ใกล้ชิด นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม ประกาศไม่ร่วมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลครั้งนี้ว่า อาจเป็นเพราะยังไม่ได้คุยกัน ซึ่งต้องดูกันที่ประเด็นว่าจะอภิปรายอะไรบ้าง หากท่านมีประเด็นก็เชื่อว่าพรรคต้องเปิดโอกาสให้อภิปรายอยู่แล้ว หากไม่มีก็ไม่ขอเปิดอภิปราย ทั้งนี้หาก ร.ต.อ.เฉลิมไม่ทำหน้าที่จริงๆ ก็คงเป็นนายมิ่งขวัญที่จะเป็นผู้นำเพื่อทำหน้าที่แทน แต่ไม่ใช่ความแตกแยกภายในพรรค ขณะเดียวกันก็ยังไม่ได้ตัดโอกาสของ ร.ต.อ.เฉลิม เพราะเวทีนี้จะเน้นตีไปที่หัวคือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการพูดในภาพรวมเพื่อที่จะเชื่อมโยงไปถึงบางกระทรวงและบุคคลอื่นๆ ได้อีกด้วย
ส่วนที่ว่า ร.ต.อ.เฉลิมอาจน้อยใจที่การอภิปรายครั้งนี้นายมิ่งขวัญได้ทำหน้าที่แทน นายสุรสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มี ร.ต.อ.เฉลิมเป็นลูกผู้ชาย คงเปิดโอกาสให้คนอื่นได้ทำหน้าที่บ้าง วันนี้ทั้งนายมิ่งขวัญ และร.ต.อ.เฉลิมก็ยังพูดคุย รักใคร่กันดี ไม่มีอะไรกันตามที่มีข่าว
กรณีระบุว่าจะเป็นการอภิปรายแนวใหม่ ไม่ดุเดือดเลือดพล่าน จึงไม่ตรงกับสไตล์ของ ร.ต.อ.เฉลิมนั้น นายสุรสิทธิ์ กล่าวว่า การอภิปรายเบากันไม่ได้อยู่แล้ว จะอ่อนน้อมนิ่มนวลก็ไม่ได้ ผู้อภิปรายต้องจี้ให้เห็นขบวนการทุจริต ไม่มีการอ่อนข้อ ต้องกระแทกกันไปที่กล่องดวงใจรัฐบาล และแนวใหม่นั้นก็ไม่มีอะไร ร.ต.อ.เฉลิม อาจมีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์และออกแอคชั่นตามแบบของท่าน ซึ่งแต่ละคนก็มีบุคลิกที่แตกต่างกันออกไปตามสไตล์ของใครของมัน แต่ถ้าจะให้อภิปรายกันเบาๆ ไม่มีอยู่แล้ว และมั่นใจว่านายมิ่งขวัญจะทำหน้าที่ผู้นำอภิปรายฯ ครั้งนี้ได้แน่นอน บางทีการจะรบทัพจับศึกก็ต้องมีทั้งรุกและถอยบ้าง แข็งไปอาจไม่ชนะ หรืออ่อนไปก็อาจไม่ชนะเช่นกัน ต้องแล้วแต่สถานการณ์ บางทีก็ต้องอ่อนบ้างแข็งบ้าง ต้องยืดได้หดได้ตามสถานการณ์ ส่วนพรรคจะยื่นอภิปรายฯ ใครบ้างนั้นยังไม่ได้หารือกัน แต่ต้องมีนายกฯอยู่แล้ว ซึ่งจะต้องนำมาหารือกันในที่ประชุมพรรคอีกครั้ง

**“เผาไทย” เลื่อนถกส.ส.
นายพร้อมพงศ์ แถลงถึงการประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทยในวันที่ 18 ม.ค.เพื่อพิจารณาถึงกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการยื่นญัติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า เนื่องจากคณะทำงานของพรรค รวมทั้งส.ส.ของพรรคที่เป็นกรรมาธิการฯ คณะต่างๆ ในสภาผู้แทนราษฎรนั้น ติดภาระกิจอยู่ต่างประเทศและต่างจังหวัด จึงจำเป็นต้องเลื่อนการประชุมส.ส.พรรคออกไปจากเดิม 18 ม.ค.เป็นภายในสัปดาห์นี้ เพื่อที่จะได้ให้ส.ส.ทุกคนได้ร่วมกันโหวตเลือกผู้นำในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้ยืนยันว่าขณะนี้ข้อมูลของคณะทำงานติดตามและตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล(คตร.) พรรคเพื่อไทยนั้นคืบหน้ากว่า 90% แล้ว รอเพียงที่ประชุมส.ส.สรุปเท่านั้นว่าจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายก่อนหรือหลังการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

**“จิ๋ว”ลั่นไม่ขอลงเลือกตั้งครั้งหน้า
วันเดียวกัน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังนายโนบุ เอกิ อิโต้ อัครราชทูตด้านการเมือง สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำ ประเทศไทย เดินทางเข้าพบที่พรรคเพือไทย เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทย และรับทราบถึงการเตรียมพร้อมเกี่ยวกับนโยบายการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นเร็วๆ นี้ ตลอดจนรับทราบจุดยืนของพรรคเพื่อไทยเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ ประเมินว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นได้ในช่วงกลางปีหรือปลายปีนี้ เพราะเชื่อว่ายังมีหลายปัจจัยที่รัฐบาลจะยังไม่ยุบสภาในช่วงต้นปี ส่วนการวางยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย จะเน้นเรื่องมวลชนเป็นหลัก โดยจะเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ส่วนความชัดเจนเรื่องหัวหน้าพรรคเพื่อไทยนั้น ขณะนี้พรรคเพื่อไทยกำลังถูกเพ่งเล็งจะยื่นยุบพรรคอีกครั้ง ดังนั้นจึงไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะสรรหาหัวหน้าพรรคคนใหม่ พร้อมยืนยันกับอัครราชทูตญี่ปุ่นด้วยว่า ส่วนตัวจะไม่ขอลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่จะทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายจากพรรค
สว่นความพร้อมทั้งเรื่องของประเด็นและผู้นำการอภิปรายแล้ว โดยเฉพาะบุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีแนบท้ายญัตติคือนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ส.ส.สัดส่วน ขณะที่เรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นพรรคเพื่อไทยยังคงยึดตามรัฐธรรมนูญปี 40 เป็นหลัก ส่วนพรรคเพื่อไทยจะสนับสนุนแนวทางของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ประเด็นดังกล่าวจะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น