โฆษกมาร์คเชื่อ “ไอ้ตู่” เลี่ยงบาลี เตรียมใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.ร่วมเสื้อแดงจัดนัดชุมนุม 23 ม.ค. หวังสะสมกำลังสร้างความรุนแรงซ้ำรอย เม.ย.เลือด ท้าแกนนำรับผิดชอบวาทะเสียดสีเบื้องสูง จวกหนังสือ “ทุจริตอภิสิทธิ์ชน” ไร้สาระแค่กระดาษเปื้อนหมึก เตรียมส่งให้ฝ่าย กม.ตรวจสอบ เพื่อฟ้องกลับ
วันนี้ (11 ม.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำ นปช. เข้าร่วมการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า แม้ว่าหลายฝ่ายออกมาวิจารณ์ว่าเป็นสิทธิชุมนุมได้ ซึ่งเป็นโอกาสของนายจตุพรที่จะเลี่ยงบาลีเข้าร่วมชุมนุมจนถึงวันเปิดประชุมสภาฯ สมัยสามัญทั่วไปเพื่อใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.ป้องกันตัวเองและจะเคลื่อนไหวอย่างหนัก ส่วนการที่นายจตุพรประกาศฟ้องตนและนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็ถือว่าเป็นสิทธิ แต่เป็นเรื่องที่ตนต้องการให้นายจตุพรปฏิบัติตามเงื่อนไขศาล และอยากเรียกร้องนายจตุพรที่ประกาศจะชุมนุมในวันที่ 23 ม.ค. และเปิดโอกาสให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินเข้ามานั้น ตนเกรงว่าการเปิดเวทีจะเป็นการสะสมกำลังมวลชนก้าวไปสู่ความรุนแรงใน เม.ย.ปี 54 อีกครั้งหรือไม่
นายเทพไทกล่าวว่า การชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา นายจตุพรได้เป็นแกนนำพร้อมกับแกนนำชุดใหม่ ทั้งนี้ ตนอยากตั้งคำถามถึงแกนนำว่าข้อความที่ปรากฏบนป้ายผ้าที่ติดอยู่ในการชุมนุมของคนเสื้อแดงว่า “กูม่ายรู้ กูป่วย” ตนอยากถามว่าข้อความนี้บ่งบอกถึงใคร และเสียดสีถึงใคร ถ้าพูดถึงตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ตนคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณก็ประกาศว่าสบายดีและไม่ได้ป่วย ดังนั้น ถ้าไม่ใช่ พ.ต.ท.ทักษิณแล้วหมายถึงใคร และใครที่กำลังป่วยอยู่ ซึ่งอยากให้แกนนำคนเสื้อแดงออกมาแสดงความรับผิดชอบในการอธิบายข้อความนี้ ไม่ใช่จะเอาแต่นัดชุมนุมแต่ไม่มีความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์หรือพฤติกรรมของกลุ่มคนเสื้อแดง อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อความอีกหลายข้อความที่มีลักษณะจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง ทั้งนี้ ตนอยากฝากไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่ได้ออกมาประกาศอย่างชัดเจนว่าจะไม่ยอมให้คนเสื้อแดงใช้วิธีการแบบนี้ ซึ่งตนคิดว่าข้อความดังกล่าวคงไม่สามารถเอาผิดตามกฎหมายได้ เพราะไม่ได้เฉพาะเจาะจงตัวบุคคล แต่เป็นข้อความที่บ่งบอกถึงการเสียดสี เหน็บแนม ส่งสัญญาณไปยังสิ่งใดหรือไม่ ดังนั้น ขอให้กลุ่มคนเสื้อแดงออกมารับผิดชอบกับข้อความดังกล่าวนี้
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกหนังสือ “ทุจริตอภิสิทธิ์ชน” ว่า ตนได้อ่านหนังสือดังกล่าวแล้วไม่พบสาระหรือเนื้อหาสำคัญที่ระบุชัดถึงการทุจริต เป็นเพียงการพูดจากสื่อเท่านั้น อาทิ กรณีรถเรือดับเพลิงกรุงเทพฯ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเกิดในสมัยนายสมัคร สุนทรเวช ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. และทำเรื่องดังกล่าวไว้ก่อนหมดวาระ 2 วัน แต่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน มาสานต่อในฐานะผู้ว่าฯ กทม. เพราะหากไม่เปิดแอลซีก็อาจถูกฟ้อง แต่เรื่องดังกล่าวนายอภิรักษ์ก็ได้แสดงความผิดชอบด้วยการลาออก กรณีชุมชนพอเพียงก็ได้ลงโทษผู้กระทำผิดไปแล้ว ส่วนเรื่องปลากระป๋องเน่าได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ ซึ่งจากผลสอบนายวิฑูรย์ นามบุตร อดีตรมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง การซื้ออุปกรณ์กองทัพ จีที 200 ก็ซื้อมาจากยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นรัฐบาล
นายเทพไทกล่าวว่า หนังสือดังกล่าวไม่ได้พูดถึงการทุจริต ที่มา หรือตัวเลข ในการคอร์รัปชัน เป็นข้อความลอยๆ ในโครงการต่างๆ เท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องเก่าตัดแปะจากหนังสือพิมพ์ ทั้งหมดไม่มีสาระสำคัญ เป็นกระดาษเปื้อนหมึก ห่อกล้วยแขกไม่ได้ และทำเพื่อต้องการเบิกงบและทำให้ดูคุ้มค่า ทั้งนี้ ตนแนะนำว่าหากทำจริง ตนจะส่งหนังสือเมนูคอร์รัปชันไปให้ดูเป็นตัวอย่างที่มี 300 กว่าหน้า ที่ได้มีการบอกที่มาที่ไปเส้นทางการเงิน บริษัทที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผลสรุปของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อย่างครบถ้วนทุกอย่าง อย่างไรก็ตาม ตนจะส่งเรื่องดังกล่าวไปให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบว่ามีการบิดเบือนให้เกิดความเสียหาย ก็จะผู้ที่ถูกกล่าวหาใช้สิทธิฟ้องร้องตามกฎหมายกับพรรคเพื่อไทย และสำนักงานปราบโกงของพรรคเพื่อไทยจะต้องมีส่วนรับผิดชอบ