จากที่พรรคเพื่อไทย ประชุมวางกรอบนโยบายสำหรับการหาเสียงเลือกตั้ง โดยมีการถกเถียงถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ทั้ง 5 รายชื่อ โดย2 ชื่อที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงมากที่สุดคือ นายวีรพงษ์ รามางกูร อดีตรมว.คลัง และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มีการวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียอย่างละเอียด โดยเห็นว่ามีความเหมาะสมทั้งคู่ แต่นายวีรพงษ์ยังมีท่าทีแบ่งรับแบ่งสู้ต่อสถานการณ์ทางการเมืองที่ค่อนข้างรุนแรง
ส่วนน.ส.ยิ่งลักษณ์นั้นยังติดปัญหาเรื่องธุรกิจที่ไม่มีใครดูแลแทน แต่ส่วนใหญ่เห็นว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์มีความเหมาะสมที่สุด เพราะมีบุคลิกประนีประนอม อ่อนน้อม เหมาะกับสถานการณ์การเมืองขณะนี้ อีกทั้งยังเป็นที่ยอมรับของส.ส. มีความรู้ความสามารถเชิงบริหารคล้ายพ.ต.ท.ทักษิณอีกด้วย
**อ้างเข้าใจผิด“แม้ว”ดันมิ่งขวัญนั่งหัวหน้า
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ประชุมไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลย ส่วนตัวคิดว่าคงเป็นความเห็นของบางคนเท่านั้น ตนเองคิดว่ายังไม่ถึงเวลาที่ต้องพูดเรื่องนี้ ส่วนเรื่องนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรค เท่าที่ทราบก็ยังไม่มีการตอบรับอย่างเป็นทางการจากนายมิ่งขวัญ ส่วนที่มีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ให้นายมิ่งขวัญดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคนั้น คงเป็นการสื่อสารผิดพลาด การใช้ภาษาผิดเท่านั้น เพราะดูเหมือนเป็นการตอบคำถามของ พ.ต.ท.ทักษิณต่อคนที่ไปพบ ว่าคนที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคต้องมีคุณสมบัติอย่างไรเท่านั้น
ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เปิดโอกาสให้นายมิ่งขวัญเป็นผู้นำในการอภิปรายนั้น นายปลอดประสพ กล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิมก็เคยได้โอกาสถึง 2 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ และ ร.ต.อ.เฉลิม ก็ไม่ได้แสดงความจำนงอะไร คิดว่า ร.ต.อ.เฉลิม คงเบื่อกับรัฐบาลที่ทำอย่างไรก็ไม่หลุดซักที คิดว่าเร็ววันนี้ก็จะได้ข้อสรุปว่าใครจะขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค สำหรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์นั้น ทางพรรคก็ไม่เคยพูดกัน แต่ตนเองคิดว่าเป็นไปได้และอยากเห็นนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้หญิงบ้าง เพราะที่ผ่านมามีแต่ผู้ชายที่เป็นนายกฯแล้วก็ปฏิบัติงานไม่ค่อยดีเท่าที่ควร แต่การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นคนในตระกูลชินวัตร จะเกิดปัญหาขึ้นหรือไม่นั้น ตนเองไม่ขอตอบ
ทั้งนี้พรรคป็นห่วงสนามเลือกตั้งใน กทม. ได้วิเคราะห์ถึงการดึงนโยบายคัดเลือกบุคคลหน้าใหม่และเป็นบิ๊กเนมมาลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส. ตามแนวทางที่พรรคประชาธิปัตย์เคยทำ ขณะนี้พรรคก็ยังระบุไม่ได้ว่าจะเป็นใคร นอกจากนี้ทางพรรคยังระบุถึงว่าอาจมีการแบ่งพื้นที่ที่ดูแลใน กทม. เพราะเห็นว่าเป็นพื้นที่ใหญ่และเกรงว่าจะไม่สามารถดูแลประชาชนอย่างทั่วถึง ส่วนตัวคิดว่าน่าจะแบ่งเป็น กทม.เหนือ และกทม.ใต้ เพื่อแบ่งพื้นที่กันดูแล แต่ไม่ใช่เป็นการเป็นพรรคเป็นพวก ทั้งนี้คงต้องรอความชัดเจนก่อน
**แมวปัดแย้ง"มิ่งขวัญ"เป็นนายกฯ
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่มีการเสนอตัวนายมิ่งขัวญเป็นหัวหน้าทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจ และไม่ได้บอกว่าจะชิงตำแหน่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพราะรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร และถึงขณะนี้ก็ยังไม่ชัดเจนว่าใครจะเป็นหัวหน้าทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งการที่นายมิ่งขวัญจะเสนอตัวเองเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ก็ไม่มีใครขัดข้อง
**ส.ส.เผาไทยหนุน “ยิ่งลักษณ์”
ว่าที่ ร.ต.พงศ์พันธ์ สุนทรชัย ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ ประสบความสำเร็จในธุรกิจที่ทำ และที่ผ่านมาก็พยายามเรียนรู้เรื่องการบ้านการเมืองมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้ส.ส.ในภาคอีสานได้คุยกันในเรื่องนี้ ซึ่งส.ส.ทุกคนก็ไม่ขัดข้องและยินดีสนับสนุน ส่วนใหญ่เห็นว่ามีความเหมาะสม
“สิ่งที่เราเป็นห่วงคือเรื่องการสกัดกั้นของฝ่ายตรงข้าม ที่อาจจะเห็นว่าคุณยิ่งลักษณ์เป็นนอมินีของท่านทักษิณ”
** “เทพไท”ย้ำเรือล่มในหนองน้องแม้วชัวร์
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช และโฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ความเคลื่อนไหวต่อความพร้อมในการยื่นอภิปรายฯของพรรคเพื่อไทย ยังไม่ครบถ้วน ดูได้สองส่วนคือกรณีแรกผู้นำการอภิปรายยังไม่ชัดเจน
ส่วนที่สองคือข้อมูลที่จะนำมาอภิปราย ยังมีการเรียกประชุมสำนักปราบโกง พรรคเพื่อไทย กันอย่างเคร่งเครียด เพราะยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการโกงของรัฐบาล
ส่วนการพูดถึงผู้นำพรรคก็มีสองคนคือนายวีระพงษ์ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั้นสำหรับนายวีระพงษ์ที่เป็นกระแสข่าวมาโดยตลอด และครอบครัวของนายวีระพงษ์ได้แสดงความเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ขัดขวางเพราะไม่พอใจการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์นั้น อยากจะเรียนกว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีใครมาขัดขวางการเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยของนายวีระพงษ์ แต่เมื่อเป็นกระแสข่าวก็มีการพิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากนายวีระพงษ์เคยทำงานใกล้ชิด พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรษ ขณะเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ไม่คิดว่าจะยอมเปลืองตัว ว่าเป็นผู้ทรยศต่อชาติบ้านเมืองในการเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ไม่มีอะไรเป็นส่วนตัวกับนายวีระพงษ์ การแสดงความคิดเห็นทางเศรษฐกิจก็ไม่เคยอคติหรือถือสา เพราะเคยมีคำวิพากษ์วิจารณ์รุนแรงกว่านี้ ก็ไม่ได้ถือแค้นถือโกรธ
สำหรับกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์นั้นหากวิเคราะห์แล้วมีความเป็นได้มากที่สุด เพราะเป็นคนในครอบครัวถือเป็นสายตรงนายใหญ่ เมื่อเข้ามาเป็นหัวหน้าหน้าพรรคท่อน้ำเลี้ยงก็ไม่อุดตันหรือล้างท่อการมอบหมายให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นหัวหน้าพรรค เหมือนกับการลงทุนในครอบครัวก็เหมือนเรือล่มในหนองเงินทองไม่ไปไหน คนที่จะเป็นไปได้มากสุดคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์นอกนั้นเป็นตัวตุ๊กตา เป็นตัวหลอกทางการเมืองทั้งสิ้น.
ส่วนน.ส.ยิ่งลักษณ์นั้นยังติดปัญหาเรื่องธุรกิจที่ไม่มีใครดูแลแทน แต่ส่วนใหญ่เห็นว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์มีความเหมาะสมที่สุด เพราะมีบุคลิกประนีประนอม อ่อนน้อม เหมาะกับสถานการณ์การเมืองขณะนี้ อีกทั้งยังเป็นที่ยอมรับของส.ส. มีความรู้ความสามารถเชิงบริหารคล้ายพ.ต.ท.ทักษิณอีกด้วย
**อ้างเข้าใจผิด“แม้ว”ดันมิ่งขวัญนั่งหัวหน้า
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ประชุมไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลย ส่วนตัวคิดว่าคงเป็นความเห็นของบางคนเท่านั้น ตนเองคิดว่ายังไม่ถึงเวลาที่ต้องพูดเรื่องนี้ ส่วนเรื่องนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรค เท่าที่ทราบก็ยังไม่มีการตอบรับอย่างเป็นทางการจากนายมิ่งขวัญ ส่วนที่มีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ให้นายมิ่งขวัญดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคนั้น คงเป็นการสื่อสารผิดพลาด การใช้ภาษาผิดเท่านั้น เพราะดูเหมือนเป็นการตอบคำถามของ พ.ต.ท.ทักษิณต่อคนที่ไปพบ ว่าคนที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคต้องมีคุณสมบัติอย่างไรเท่านั้น
ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เปิดโอกาสให้นายมิ่งขวัญเป็นผู้นำในการอภิปรายนั้น นายปลอดประสพ กล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิมก็เคยได้โอกาสถึง 2 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ และ ร.ต.อ.เฉลิม ก็ไม่ได้แสดงความจำนงอะไร คิดว่า ร.ต.อ.เฉลิม คงเบื่อกับรัฐบาลที่ทำอย่างไรก็ไม่หลุดซักที คิดว่าเร็ววันนี้ก็จะได้ข้อสรุปว่าใครจะขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค สำหรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์นั้น ทางพรรคก็ไม่เคยพูดกัน แต่ตนเองคิดว่าเป็นไปได้และอยากเห็นนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้หญิงบ้าง เพราะที่ผ่านมามีแต่ผู้ชายที่เป็นนายกฯแล้วก็ปฏิบัติงานไม่ค่อยดีเท่าที่ควร แต่การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นคนในตระกูลชินวัตร จะเกิดปัญหาขึ้นหรือไม่นั้น ตนเองไม่ขอตอบ
ทั้งนี้พรรคป็นห่วงสนามเลือกตั้งใน กทม. ได้วิเคราะห์ถึงการดึงนโยบายคัดเลือกบุคคลหน้าใหม่และเป็นบิ๊กเนมมาลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส. ตามแนวทางที่พรรคประชาธิปัตย์เคยทำ ขณะนี้พรรคก็ยังระบุไม่ได้ว่าจะเป็นใคร นอกจากนี้ทางพรรคยังระบุถึงว่าอาจมีการแบ่งพื้นที่ที่ดูแลใน กทม. เพราะเห็นว่าเป็นพื้นที่ใหญ่และเกรงว่าจะไม่สามารถดูแลประชาชนอย่างทั่วถึง ส่วนตัวคิดว่าน่าจะแบ่งเป็น กทม.เหนือ และกทม.ใต้ เพื่อแบ่งพื้นที่กันดูแล แต่ไม่ใช่เป็นการเป็นพรรคเป็นพวก ทั้งนี้คงต้องรอความชัดเจนก่อน
**แมวปัดแย้ง"มิ่งขวัญ"เป็นนายกฯ
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่มีการเสนอตัวนายมิ่งขัวญเป็นหัวหน้าทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจ และไม่ได้บอกว่าจะชิงตำแหน่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพราะรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร และถึงขณะนี้ก็ยังไม่ชัดเจนว่าใครจะเป็นหัวหน้าทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งการที่นายมิ่งขวัญจะเสนอตัวเองเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ก็ไม่มีใครขัดข้อง
**ส.ส.เผาไทยหนุน “ยิ่งลักษณ์”
ว่าที่ ร.ต.พงศ์พันธ์ สุนทรชัย ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ ประสบความสำเร็จในธุรกิจที่ทำ และที่ผ่านมาก็พยายามเรียนรู้เรื่องการบ้านการเมืองมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้ส.ส.ในภาคอีสานได้คุยกันในเรื่องนี้ ซึ่งส.ส.ทุกคนก็ไม่ขัดข้องและยินดีสนับสนุน ส่วนใหญ่เห็นว่ามีความเหมาะสม
“สิ่งที่เราเป็นห่วงคือเรื่องการสกัดกั้นของฝ่ายตรงข้าม ที่อาจจะเห็นว่าคุณยิ่งลักษณ์เป็นนอมินีของท่านทักษิณ”
** “เทพไท”ย้ำเรือล่มในหนองน้องแม้วชัวร์
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช และโฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ความเคลื่อนไหวต่อความพร้อมในการยื่นอภิปรายฯของพรรคเพื่อไทย ยังไม่ครบถ้วน ดูได้สองส่วนคือกรณีแรกผู้นำการอภิปรายยังไม่ชัดเจน
ส่วนที่สองคือข้อมูลที่จะนำมาอภิปราย ยังมีการเรียกประชุมสำนักปราบโกง พรรคเพื่อไทย กันอย่างเคร่งเครียด เพราะยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการโกงของรัฐบาล
ส่วนการพูดถึงผู้นำพรรคก็มีสองคนคือนายวีระพงษ์ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั้นสำหรับนายวีระพงษ์ที่เป็นกระแสข่าวมาโดยตลอด และครอบครัวของนายวีระพงษ์ได้แสดงความเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ขัดขวางเพราะไม่พอใจการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์นั้น อยากจะเรียนกว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีใครมาขัดขวางการเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยของนายวีระพงษ์ แต่เมื่อเป็นกระแสข่าวก็มีการพิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากนายวีระพงษ์เคยทำงานใกล้ชิด พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรษ ขณะเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ไม่คิดว่าจะยอมเปลืองตัว ว่าเป็นผู้ทรยศต่อชาติบ้านเมืองในการเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ไม่มีอะไรเป็นส่วนตัวกับนายวีระพงษ์ การแสดงความคิดเห็นทางเศรษฐกิจก็ไม่เคยอคติหรือถือสา เพราะเคยมีคำวิพากษ์วิจารณ์รุนแรงกว่านี้ ก็ไม่ได้ถือแค้นถือโกรธ
สำหรับกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์นั้นหากวิเคราะห์แล้วมีความเป็นได้มากที่สุด เพราะเป็นคนในครอบครัวถือเป็นสายตรงนายใหญ่ เมื่อเข้ามาเป็นหัวหน้าหน้าพรรคท่อน้ำเลี้ยงก็ไม่อุดตันหรือล้างท่อการมอบหมายให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นหัวหน้าพรรค เหมือนกับการลงทุนในครอบครัวก็เหมือนเรือล่มในหนองเงินทองไม่ไปไหน คนที่จะเป็นไปได้มากสุดคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์นอกนั้นเป็นตัวตุ๊กตา เป็นตัวหลอกทางการเมืองทั้งสิ้น.
