ผ่าประเด็นร้อน
ในที่สุดก็เผยไต๋ออกมาให้เห็นชัดเจนมากขึ้นว่าหัวหน้าพรรคเพื่อไทยตัวจริง ที่ เจ้าของพรรคคือ ทักษิณ ชินวัตร ต้องการมาตั้งแต่ต้น และ “อุบเงียบ” เอาไว้ตั้งนานก็คือ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” น้องสาวคนเล็กนั่นเอง ซึ่งในสถานการณ์บังคับและบีบรัดเข้ามาก็จำเป็นต้องส่งสัญญาณให้เห็นออกมาก่อน ก่อนเข้าสู่พิธีการโหวตให้สมจริงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ส่วนคนอื่นๆทั้งในพรรคและนอกพรรคล้วนเป็นแค่ “คนกระจอก” ในสายตาของทักษิณ ที่เข้ามาพึ่งพาอาศัยเท่านั้น หรือเรียกใช้ในปัญหาเฉพาะเท่านั้น เมื่อตอบแทนกันเป็นที่พอใจแล้ว ก็แล้วกันไป แต่ถ้ายังฝันลมๆ แล้งๆ ต่อเนื่องกันอีกมันก็ช่วยไม่ได้
การออกมาพูดของ ส.ส.สมุทรปราการ ประชา ประสพดี ที่ “โยนหิน” ออกมาก่อนว่าเวลานี้มี “แคนดิเดต” หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่อยู่สองคนคือ “ดร.โกร่ง” วีรพงษ์ รามางกูร อดีตประธานที่ปรึกษาเศรษฐกิจสมัยรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช และเป็น “กุนซือ” ด้านการคลังมาหลายรัฐบาลเมื่อหลายสิบปีก่อน กับอีกคนหนึ่งคือ ยิ่งลักษณ์ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บริหารบริษัทเอสซี เอสเซท ธุรกิจในครอบครัวชินวัตร และทำหน้าที่เป็น “กระเป๋าเงิน” ในการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง “ภายใน” โดยเฉพาะการดูแล “กลุ่มก๊วน” ในสังกัดมาตลอด
ต่อมาคนที่ออกมาแสดงท่าทีสนับสนุนตามมาก็คือ ปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แม้ว่าจะไม่ได้เอ่ยชื่อตัวบุคคลตรงๆ แต่เข้าใจได้ว่าคนที่เขาสนับสนุนคือ ยิ่งลักษณ์ นั่นเอง ขณะเดียวกันก็ไม่สนับสนุน มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ที่ก่อนหน้านี้มีกลุ่ม ส.ส.บางกลุ่มกำลังผลักดัน โดยอ้างว่าได้รับ “ไฟเขียว” จากเจ้าของพรรคคือ “แม้ว” มาแล้ว
ที่บอกว่าชัดเจนขึ้นมาอีกก็เนื่องจากที่ผ่านมาหากจำกันได้ ประชา ประสพดี คนเดียวกันนี่แหละเคยออกมาบอกใบ้ว่าหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนต่อไปเป็น “ผู้หญิง” ซึ่งเป็นที่คาดเดาว่า น่าจะเป็น พจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภรรยาอย่างเป็นทางการของทักษิณ กับยิ่งลักษณ์ แต่เมื่อพิจารณาคุณสมบัติแล้ว คนแรกน่าจะมีปัญหาหากคิดจะเป็นนายกฯ เพราะข่าวว่า “ไม่จบปริญญาตรี” และไม่สะดวกบางประการ ดังนั้นจึงเหลือ ยิ่งลักษณ์ เพียงคนเดียว ซึ่งก็ถือว่าไม่น่าแปลกใจอะไร หากใครติดตามมาตั้งแต่ต้นก็จะเข้าใจดีว่านี่คือ “ธุรกิจการเมือง” ของตระกูล ที่บริหารงานโดย ทักษิณ ชินวัตร มาตลอด แต่เมื่อติดขัดปัญหาบางอย่างจึงต้องส่งตัวแทนหรือ “หุ่นเชิด” เข้ามา เริ่มจาก สมัคร สุนทรเวช จากนั้นก็มาให้ “น้องเขย” คือ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ รับช่วงต่อ จนกระทั่งมีอาการสะดุดจากการถูกยุบพรรคแล้วกลายพันธุ์มาเป็นเพื่อไทยและถูกถีบมาเป็นฝ่ายค้านจึงหันมาใช้บริการระดับ “บริวาร” อย่าง ยงยุทธ วิชัยดิษฐ มาเฝ้าพรรคแบบขัดตาทัพแทน
อย่างไรก็ดี ในสภาพบังคับที่ต้องมีการแต่งตั้งหัวหน้าพรรคอย่างเป็นทางการ เนื่องจากกำลังจะมีการเลือกตั้งใหม่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า อีกทั้งตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว คนที่เป็นหัวหน้าพรรคต้องเป็นแคดิเดตนายกรัฐมนตรีควบคู่ไปด้วย ประเภทใช้ตัวหลอกคนอื่นมาเป็นหัวหน้าพรรคแล้วแอบสอดไส้ “คนในตระกูล” ของตัวเองไว้ข้างหลังมันก็มีสิทธิ์ถูกโห่ แถมยังอาจถูกมองว่าไม่ซื่อสัตย์ตั้งแต่ต้น มีผลเสียมากกว่าผลดี
แต่เพื่อให้เห็นภาพก็ต้องทำความเข้าใจถึงสภาพภายในพรรคเพื่อไทยเวลานี้เสียก่อนว่า เริ่มร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีหลายก๊กหลายกลุ่ม ต่างเข้ามาอาศัยพึ่งพา “กระแสแม้ว” และ “เงินแม้ว” หรือบางกลุ่มก็ดูแลกันเอง แต่แค่ขอเกาะบารมี เป้าหมายมาทำธุรกิจการเมืองร่วมกัน แต่เมื่อทุกอย่างเริ่ม “ถดถอย” พ่ายแพ้ทุกแนวรบทั้งในและนอกสภา ทำให้ต้องมีการประเมินกันใหม่ ขณะเดียวกันยังมีแรงดึงดูดจากภายนอกอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะข้อเสนอที่แทบปฏิเสธไม่ได้จาก “ภูมิใจไทย” และที่สำคัญตามข่าวบอกว่าในช่วงหลัง “นายใหญ่” ทำยึกยักไม่ค่อยลงทุนเหมือนก่อน ลักษณะเหมือนกับ “วัดใจ” ทำให้ภายในเริ่มรวน หาที่เกาะใหม่กันวุ่นวาย ประกอบกับกำลังมีการแก้ไขกติกาใหม่ แบ่งเขตเลือกตั้งให้เล็กลงทำให้มีโอกาสเสี่ยงได้มากขึ้น
ส่วนคนที่ยังอยู่ก็ไม่มีบารมี หรือประเภท “ตกรุ่น” เต็มไปหมด ถ้าเอ่ยชื่อก็น่าจะเห็นภาพ เช่น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นต้น ซึ่งคนพวกนี้พยายามเสนอตัวมาตลอด แต่ก็ไม่เคยได้รับการเห็นชอบสักที
นี่คือภาพที่เป็นอยู่จริงในพรรคเพื่อไทย ซึ่งลึกๆ แล้วภายในเต็มไปด้วยความขัดแย้งแตกแยก ไม่มีใครฟังใคร
สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือการวางตัว “แม่ทัพ” สำหรับนำศึกซักฟอกรัฐบาลในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งตอนแรกมีการปล่อยข่าว สร้างกระแสผลักดัน มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ แต่เมื่อนานไปก็ทำท่าฝ่อลง ประเด็นสำคัญไม่มีอะไรซับซ้อนมากไปกว่า การไม่ได้รับการยอมรับกันเอง อีกทั้งหากจะอภิปรายล้มนายกรัฐมนตรีก็ต้องมีการเสนอนายกฯคนใหม่แนบไปด้วย ซึ่งหลายคนไม่แฮปปี้หากเสนอชื่อ มิ่งขวัญ เพราะจะมีผลต่อเนื่องไปถึงการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่ เพื่อรองรับการเลือกตั้งอีกด้วย เพราะมีชื่อของ ยิ่งลักษณ์ อยู่ในใจแล้ว เพียงแต่มีเรื่องการซักฟอกมาคั่นรายการเสียก่อนเท่านั้น
แม้ว่านาทีนี้ยังไม่ได้แต่งตั้ง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของ ทักษิณ เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการ แต่เชื่อว่านี่แหละคือตัวจริงที่อยู่ในใจมาตั้งนานแล้ว เพียงแต่รอจังหวะเปิดตัวออกมาเท่านั้น ส่วนที่บอกว่าหวังจะให้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทยนั้นก็ว่ากันไป แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือเป็นการแสดงให้เห็นว่าตำแหน่งในพรรคและอำนาจเป็นการผ่องถ่ายกันเฉพาะคนในครอบครัว ลักษณะสืบทอด “ทายาท” กัน ซึ่งหากความฝันเป็นจริงมันก็เป็นแค่ นายกฯหญิงใน “ตระกูลชินวัตร” เท่านั้น
ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคนอื่นเลยแม้แต่น้อย!!