ASTVผู้จัดการรายวัน - เอกชนรุมสวดนโยบายประชาวิวัฒน์หวั่นเสพติดประชานิยม ห่วงไล่แจกมากประเทศล่มจม ด้าน“กรณ์” แจง 9 มาตรการพร้อมเดินหน้าตามตาราง ยันไม่ใช่ประชานิยม ชี้บางมาตรการสามารถแก้ปัญหาประชานิยม โดยไม่กระทบสิทธิประชาชนและงบประมาณรัฐบาล “เทพไท.” ปัดโปรยนโยบายเพื่อหาเสียงล่วงหน้า ยัน รัฐบาลทำตามแผนงาน ยันไม่มีหัวคะแนน-นายทุน โกยประโยชน์ เตือน เพื่อไทย อย่าตีกินสู้กันด้วยนโยบาย
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลังว่า 9 มาตรการ"ปฏิบัติการร่วมเดินหน้า ปฏิรูปประเทศไทย" ถือเป็นของขวัญให้กับคนไทยและที่สำคัญยังเป็นส่วนหนึ่งในการเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทยด้วย ซึ่งทั้ง 9 มาตรการก็พร้อมที่จะเดินหน้าตามตารางเวลา โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีจะนำเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในวันที่ 11มกราคมและจัดตั้งคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนนโยบาย โดยที่รัฐมนตรีทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับนโยบายและผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานครจะมาร่วมเป็นคณะกรรมการ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายและติดตามประเด็นที่เป็นปัญหา เพื่อรายงานต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาให้เดินหน้าและขับเคลื่อนต่อไปได้
โดยมาตรการที่ออกมาเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า เป็นประชานิยมหรือไม่ และยังแล้วว่า หลายมาตรการแก้ปัญหาประชานิยม เช่นมาตรการชดเชยก๊าซแอลพีจีที่ทำมาตลอด แต่สามารถยกเลิกการชดเชยได้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน กรณีค่าไฟที่มีการต่อมาตรการหลายครั้งให้ใช้ไฟฟรีในส่วนของ 9 ล้านครัวเรือนที่มีการใช้ไฟฟ้าน้อยกว่า 90 ยูนิตต่อเดือน แต่รัฐบาลก็หันมาใช้ในการคิดวิธีในการรักษาประโยชน์และสิทธิในการใช้ไฟน้อยดังกล่าว โดยไม่เป็นภาระต่องบประมาณ
“งบประมาณที่ใช้ในโครงการ 2,000 ล้านบาท ก็ระบุว่าเป็นงบปี 2554-2555 และส่วนใหญ่ก็จะใช้สมทบในการเข้าสู่ระบบประกันสังคมที่เป็นแรงงานนอกระบบในการแก้ไขม.40 พรบ.ประกันสังคม เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือก โดยที่ไม่เป็นภาระมาก เพราะเดิมที่มีสิทธิคุ้มครองในหลายเรื่อง แต่ต้นทุนการเข้าถึงสูง จึงได้แยกสิทธิอันไหนที่ไม่จำเป็นออกมา เพื่อให้ต้นทุนในการส่งเงินเข้าร่วมสิทธิลดลง ช่นกรณีที่การคุ้มครองขั้นต่ำ 100 บาทต่อเดือน จะมีส่วนที่ประชาชนส่งเงินสมทบ 70 บาท และรัฐบาลจะร่วมสมทบ 30 บาท เพื่อให้แรงงานนอกระบบได้รับสิทธิในการคุ้มครองรายได้ชดเชยกรณีป่วยและทุคลภาพ”นายกรณ์กล่าว
นอกจากนั้นในส่วนของกระทรวงการคลังเองก็จะแก้ไขพรบ.กองทุนการออมแห่งชาติ(กอช.)ในส่วนของบำนาญ เพราะเดิมประชาชนที่ใช้สิทธิในประกันสังคมจะไม่มีสิทธิในกอช. ก็จะมีการแก้ไขในขั้นกรรมาธิการว่า หากแรงงานนอกระบบที่เข้ารับสิทธิตามม.40 ของพรบ.ประกันสังคมแล้วได้รับสิทธิคุ้มครองอื่นนอกจากบำเหน็จ หก็สามารถมาเข้าเป็นสมาชิกกอช.ได้ ในส่วนของการรับสิทธิบำเหน็จได้ เพื่อให้การดูแลแรงงานนอกระบบคอรบคลุม 20 ล้านคน อย่างยั่งยืน สร้างความมั่นคงให้กับชีวิตและมีกฎหมายรองรับ ไม่ใช่ประชานิยมอย่างเดียว
***การเมืองเสพติดประชานิยม
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผลประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. เปิดเผยว่า ภาพรวม นโยบายประชาวิวัฒน์มีบางมาตรการดีเช่น การขยายสวัสดิการสังคม แต่ภาพรวมยังมีอีกหลายมาตรการที่จะต้องดูผลกระทบให้ชัดเจน อย่างไรก็ตามสิ่งที่กังวลคือในอนาคตการเมืองจะใช้นโยบายในลักษณะเดียวกันนี้คือนำไทยก้าวสู่ระบบรัฐสวัสดิการมากขึ้นในเรื่องอื่นๆอีกเพื่อหาเสียง ดังนั้นควรจะต้องคำนึงถึงภาพรวมของฐานะการเงินของประเทศประกอบด้วยหากไม่เช่นนั้นระยะยาวจะมีปัญหาต่องบประมาณรายได้ของประเทศ
“ มีความเป็นห่วงนโยบายการให้คนรายได้น้อยใช้ไฟฟรีถาวรด้วยการเก็บเพิ่มจากรายใหญ่ และการลอยตัวราคาแอลพีจีในส่วนของภาคอุตสาหกรรม โดยจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตภาคอุตสาหกรรม และท้ายที่สุดจะกลับมากระทบต่อราคาสินค้าและผู้บริโภค ดังนั้นรัฐบาลจำเป็นจะต้องออกมาตรการสนับสนุนการเปลี่ยนอุปกรณ์เชื้อเพลิงเพื่อบรรเทาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น
*** คาดไล่แจกเพิ่มดันปท.ล่มจม
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า นโบายประชาวิวัฒน์นั้นมุ่งเน้นการจัดระเบียบสังคมเป็นหลักโดยไม่ได้มุ่งเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจถือเป็นการเดินหน้ารัฐสวัสดิการเต็มรูปแบบซึ่งบางอย่างก็ถือเป็นมาตรการที่ดีแต่ก็มีหลายมาตรการที่สุ่มเสียงหากขาดวินัยทางการเงินเพราะของฟรีที่สุดแล้วไม่มีในโลกระยะสั้นถือเป็นเรื่องที่ดีแต่สิ่งที่ห่วงคือนโยบายลักษณะนี้จะไม่หยุดเพียงเท่านี้กลายเป็น การเมืองเสพติดประชานิยมมากขึ้นโดยอาจจะปรับเป็นชื่ออื่นแต่ก็เน้นหาเสียงแบบไม่ได้คำนึงถึงรายได้ของประเทศ
“ เราเป็นห่วงระยะยาวนะรัฐบาลควรแจกแจงว่าเอางบประมาณมาจากไหนไม่ใช่อีก 2-3 ปีการเมืองที่เข้ามาหาเสียงก็จะเพิ่มสิ่งเหล่านี้แล้วงบประมาณที่จะได้มาไม่พูดถึงมารีดภาษีคนไทยเพิ่มอีกหนีไม่พ้น แล้วรัฐสวัสดิการในโลกนี้แท้ๆ แล้วใครประสบความสำเร็จการไล่แจกตัวอย่าง ฟิลิปปินส์ อาร์เจนินา มีให้เห็นแล้วว่าท้ายสุดประเทศก็ล่มจม วันนี้ถ้าหยุดก็ได้อยู่แต่ไม่เชื่อว่าจะหยุด”นายธนิตกล่าว
** จวกแผนรัฐบาลหวังซื้อเสียงล่วงหน้า
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลออกแถลงให้ของขวัญประชาชน 9 ชิ้น ว่า เปรียบเสมือนการขุดบ่อล่อปลา เพราะหากรัฐบาลมีความจริงใจที่จะสร้างประโยชน์ให้แก่ประชาชน พรรคเพื่อไทย ไม่มีอะไรขัดข้อง แต่มาตรการที่รัฐบาลออกมา ไม่ว่าจะเป็นมาตรการที่เกี่ยวกับคนขับรถแท็กซี่ หรือ มอเตอร์ไซค์รับจ้างนั้น รัฐบาลไม่ได้มองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นจริง และเป็นการให้ของขวัญที่ไม่สามารถแก้ไขความทุกข์ร้อนให้แก่ประชาชนได้ เพราะในขณะนี้รถแท็กซี่ มีจำนวนมากขึ้น ทำให้คนขับหารายได้ ๆ น้อยลง สิ่งนี้คือปัญหา อย่างกรณี มอเตอร์ไซค์รับจ้าง หากรัฐบาลต้องการจะแก้ปัญหาให้พวกเขา ก็ทำได้โดยไม่ให้มีการเก็บส่วยกัน ปัญหาความยากจน ก็จะหมดไป
ด้านนายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ต้องขอบคุณรัฐบาล ที่ได้ยอมรับสภาพความจริง เพราะที่ผ่านมาได้เคยเข้าใจผิดในนโยบายของรัฐบาลสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีการกล่าวหา โจมตี ว่าเป็นระบอบทักษิณ แต่วันนี้เห็นได้ชัดเจนว่า ไม่ได้ลอก แต่ได้นำมาใช้เสียเองทั้งหมด
** ปชป.อ้างนโยบายไม่ใช่หาเสียง
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทย ออกมาตั้งข้อกล่าวหารัฐบาลเกี่ยวกับแผนปฏิบัติการเร่งด่วนว่าเป็นการหาเสียงล่วงหน้านั้น ขอชี้แจงว่า แผนปฏิบัติการดังกล่าวเป็นแผนที่รัฐบาลทำตามนโยบาย ไม่ได้เป็นการตกเขียว เหมือนพรรคเพื่อไทยในอดีต และไม่ได้แถลงนโยบายก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง แต่เป็นสิทธิ์ที่รัฐบาล จะทำหน้าที่ในการบริหารประเทศ ตามที่ได้เสนอนโยบาย และทำให้เป็นจริง
ส่วนที่พรคเพื่อไทย กล่าวหาว่า แผนดังกล่าวคนที่ได้ประโยชน์คือหัวคะแนน และนายทุนของพรรคประชาธิปัตย์นั้น ขอยืนยันว่า หากคนที่ได้ประโยชน์เป็นหัวคะแนนจริง ก็คือคนทั้งประเทศ แต่ที่ว่านายทุนของพรรคได้ประโยชน์นั้น ยืนยันว่าพรรคไม่มีนายทุน และไม่มีคนใดในพรรคที่ได้ประโยชน์จากโครงการดังกล่าว ไม่เหมือนยุคของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ใช้กองทุนหมู่บ้าน ซึ่งคนที่ได้ประโยชน์คือ นายทุน เพราะกู้แล้วเอาไปซื้อโทรศัพท์มือถือ มอเตอร์ไซค์ ล้วนแล้วแต่เป็นการดำเนินการภายใต้เครือข่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งสิ้น
" อยากเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทย ที่เคยเรียกร้องว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์จะสู้กับพรรคเพื่อไทย วันนี้ เราเอานโยบายมาสู้กับพรรคเพื่อไทยแล้ว และการเลือกตั้งครั้งต่อไป เราก็คิดค้นนโยบายต่อยอดจากนโยบายดังกล่าวด้วย ดังนั้นพรรคเพื่อไทยไม่ควรออกมาตีกัน นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ หรือเพราะพรรคเพื่อไทยหวั่นไหวต่อคะแนนยิยมของรัฐบาลที่ดีวันดีคืน และผลงานของรัฐบาลที่ออกมาเป็นระลอก เป็นที่พอใจของประชาชน กลัวคนจะชอบนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ แล้วลืม พ.ต.ท.ทักษิณ" นายเทพไท กล่าว
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลังว่า 9 มาตรการ"ปฏิบัติการร่วมเดินหน้า ปฏิรูปประเทศไทย" ถือเป็นของขวัญให้กับคนไทยและที่สำคัญยังเป็นส่วนหนึ่งในการเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทยด้วย ซึ่งทั้ง 9 มาตรการก็พร้อมที่จะเดินหน้าตามตารางเวลา โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีจะนำเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในวันที่ 11มกราคมและจัดตั้งคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนนโยบาย โดยที่รัฐมนตรีทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับนโยบายและผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานครจะมาร่วมเป็นคณะกรรมการ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายและติดตามประเด็นที่เป็นปัญหา เพื่อรายงานต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาให้เดินหน้าและขับเคลื่อนต่อไปได้
โดยมาตรการที่ออกมาเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า เป็นประชานิยมหรือไม่ และยังแล้วว่า หลายมาตรการแก้ปัญหาประชานิยม เช่นมาตรการชดเชยก๊าซแอลพีจีที่ทำมาตลอด แต่สามารถยกเลิกการชดเชยได้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน กรณีค่าไฟที่มีการต่อมาตรการหลายครั้งให้ใช้ไฟฟรีในส่วนของ 9 ล้านครัวเรือนที่มีการใช้ไฟฟ้าน้อยกว่า 90 ยูนิตต่อเดือน แต่รัฐบาลก็หันมาใช้ในการคิดวิธีในการรักษาประโยชน์และสิทธิในการใช้ไฟน้อยดังกล่าว โดยไม่เป็นภาระต่องบประมาณ
“งบประมาณที่ใช้ในโครงการ 2,000 ล้านบาท ก็ระบุว่าเป็นงบปี 2554-2555 และส่วนใหญ่ก็จะใช้สมทบในการเข้าสู่ระบบประกันสังคมที่เป็นแรงงานนอกระบบในการแก้ไขม.40 พรบ.ประกันสังคม เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือก โดยที่ไม่เป็นภาระมาก เพราะเดิมที่มีสิทธิคุ้มครองในหลายเรื่อง แต่ต้นทุนการเข้าถึงสูง จึงได้แยกสิทธิอันไหนที่ไม่จำเป็นออกมา เพื่อให้ต้นทุนในการส่งเงินเข้าร่วมสิทธิลดลง ช่นกรณีที่การคุ้มครองขั้นต่ำ 100 บาทต่อเดือน จะมีส่วนที่ประชาชนส่งเงินสมทบ 70 บาท และรัฐบาลจะร่วมสมทบ 30 บาท เพื่อให้แรงงานนอกระบบได้รับสิทธิในการคุ้มครองรายได้ชดเชยกรณีป่วยและทุคลภาพ”นายกรณ์กล่าว
นอกจากนั้นในส่วนของกระทรวงการคลังเองก็จะแก้ไขพรบ.กองทุนการออมแห่งชาติ(กอช.)ในส่วนของบำนาญ เพราะเดิมประชาชนที่ใช้สิทธิในประกันสังคมจะไม่มีสิทธิในกอช. ก็จะมีการแก้ไขในขั้นกรรมาธิการว่า หากแรงงานนอกระบบที่เข้ารับสิทธิตามม.40 ของพรบ.ประกันสังคมแล้วได้รับสิทธิคุ้มครองอื่นนอกจากบำเหน็จ หก็สามารถมาเข้าเป็นสมาชิกกอช.ได้ ในส่วนของการรับสิทธิบำเหน็จได้ เพื่อให้การดูแลแรงงานนอกระบบคอรบคลุม 20 ล้านคน อย่างยั่งยืน สร้างความมั่นคงให้กับชีวิตและมีกฎหมายรองรับ ไม่ใช่ประชานิยมอย่างเดียว
***การเมืองเสพติดประชานิยม
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผลประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. เปิดเผยว่า ภาพรวม นโยบายประชาวิวัฒน์มีบางมาตรการดีเช่น การขยายสวัสดิการสังคม แต่ภาพรวมยังมีอีกหลายมาตรการที่จะต้องดูผลกระทบให้ชัดเจน อย่างไรก็ตามสิ่งที่กังวลคือในอนาคตการเมืองจะใช้นโยบายในลักษณะเดียวกันนี้คือนำไทยก้าวสู่ระบบรัฐสวัสดิการมากขึ้นในเรื่องอื่นๆอีกเพื่อหาเสียง ดังนั้นควรจะต้องคำนึงถึงภาพรวมของฐานะการเงินของประเทศประกอบด้วยหากไม่เช่นนั้นระยะยาวจะมีปัญหาต่องบประมาณรายได้ของประเทศ
“ มีความเป็นห่วงนโยบายการให้คนรายได้น้อยใช้ไฟฟรีถาวรด้วยการเก็บเพิ่มจากรายใหญ่ และการลอยตัวราคาแอลพีจีในส่วนของภาคอุตสาหกรรม โดยจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตภาคอุตสาหกรรม และท้ายที่สุดจะกลับมากระทบต่อราคาสินค้าและผู้บริโภค ดังนั้นรัฐบาลจำเป็นจะต้องออกมาตรการสนับสนุนการเปลี่ยนอุปกรณ์เชื้อเพลิงเพื่อบรรเทาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น
*** คาดไล่แจกเพิ่มดันปท.ล่มจม
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า นโบายประชาวิวัฒน์นั้นมุ่งเน้นการจัดระเบียบสังคมเป็นหลักโดยไม่ได้มุ่งเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจถือเป็นการเดินหน้ารัฐสวัสดิการเต็มรูปแบบซึ่งบางอย่างก็ถือเป็นมาตรการที่ดีแต่ก็มีหลายมาตรการที่สุ่มเสียงหากขาดวินัยทางการเงินเพราะของฟรีที่สุดแล้วไม่มีในโลกระยะสั้นถือเป็นเรื่องที่ดีแต่สิ่งที่ห่วงคือนโยบายลักษณะนี้จะไม่หยุดเพียงเท่านี้กลายเป็น การเมืองเสพติดประชานิยมมากขึ้นโดยอาจจะปรับเป็นชื่ออื่นแต่ก็เน้นหาเสียงแบบไม่ได้คำนึงถึงรายได้ของประเทศ
“ เราเป็นห่วงระยะยาวนะรัฐบาลควรแจกแจงว่าเอางบประมาณมาจากไหนไม่ใช่อีก 2-3 ปีการเมืองที่เข้ามาหาเสียงก็จะเพิ่มสิ่งเหล่านี้แล้วงบประมาณที่จะได้มาไม่พูดถึงมารีดภาษีคนไทยเพิ่มอีกหนีไม่พ้น แล้วรัฐสวัสดิการในโลกนี้แท้ๆ แล้วใครประสบความสำเร็จการไล่แจกตัวอย่าง ฟิลิปปินส์ อาร์เจนินา มีให้เห็นแล้วว่าท้ายสุดประเทศก็ล่มจม วันนี้ถ้าหยุดก็ได้อยู่แต่ไม่เชื่อว่าจะหยุด”นายธนิตกล่าว
** จวกแผนรัฐบาลหวังซื้อเสียงล่วงหน้า
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลออกแถลงให้ของขวัญประชาชน 9 ชิ้น ว่า เปรียบเสมือนการขุดบ่อล่อปลา เพราะหากรัฐบาลมีความจริงใจที่จะสร้างประโยชน์ให้แก่ประชาชน พรรคเพื่อไทย ไม่มีอะไรขัดข้อง แต่มาตรการที่รัฐบาลออกมา ไม่ว่าจะเป็นมาตรการที่เกี่ยวกับคนขับรถแท็กซี่ หรือ มอเตอร์ไซค์รับจ้างนั้น รัฐบาลไม่ได้มองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นจริง และเป็นการให้ของขวัญที่ไม่สามารถแก้ไขความทุกข์ร้อนให้แก่ประชาชนได้ เพราะในขณะนี้รถแท็กซี่ มีจำนวนมากขึ้น ทำให้คนขับหารายได้ ๆ น้อยลง สิ่งนี้คือปัญหา อย่างกรณี มอเตอร์ไซค์รับจ้าง หากรัฐบาลต้องการจะแก้ปัญหาให้พวกเขา ก็ทำได้โดยไม่ให้มีการเก็บส่วยกัน ปัญหาความยากจน ก็จะหมดไป
ด้านนายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ต้องขอบคุณรัฐบาล ที่ได้ยอมรับสภาพความจริง เพราะที่ผ่านมาได้เคยเข้าใจผิดในนโยบายของรัฐบาลสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีการกล่าวหา โจมตี ว่าเป็นระบอบทักษิณ แต่วันนี้เห็นได้ชัดเจนว่า ไม่ได้ลอก แต่ได้นำมาใช้เสียเองทั้งหมด
** ปชป.อ้างนโยบายไม่ใช่หาเสียง
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทย ออกมาตั้งข้อกล่าวหารัฐบาลเกี่ยวกับแผนปฏิบัติการเร่งด่วนว่าเป็นการหาเสียงล่วงหน้านั้น ขอชี้แจงว่า แผนปฏิบัติการดังกล่าวเป็นแผนที่รัฐบาลทำตามนโยบาย ไม่ได้เป็นการตกเขียว เหมือนพรรคเพื่อไทยในอดีต และไม่ได้แถลงนโยบายก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง แต่เป็นสิทธิ์ที่รัฐบาล จะทำหน้าที่ในการบริหารประเทศ ตามที่ได้เสนอนโยบาย และทำให้เป็นจริง
ส่วนที่พรคเพื่อไทย กล่าวหาว่า แผนดังกล่าวคนที่ได้ประโยชน์คือหัวคะแนน และนายทุนของพรรคประชาธิปัตย์นั้น ขอยืนยันว่า หากคนที่ได้ประโยชน์เป็นหัวคะแนนจริง ก็คือคนทั้งประเทศ แต่ที่ว่านายทุนของพรรคได้ประโยชน์นั้น ยืนยันว่าพรรคไม่มีนายทุน และไม่มีคนใดในพรรคที่ได้ประโยชน์จากโครงการดังกล่าว ไม่เหมือนยุคของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ใช้กองทุนหมู่บ้าน ซึ่งคนที่ได้ประโยชน์คือ นายทุน เพราะกู้แล้วเอาไปซื้อโทรศัพท์มือถือ มอเตอร์ไซค์ ล้วนแล้วแต่เป็นการดำเนินการภายใต้เครือข่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งสิ้น
" อยากเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทย ที่เคยเรียกร้องว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์จะสู้กับพรรคเพื่อไทย วันนี้ เราเอานโยบายมาสู้กับพรรคเพื่อไทยแล้ว และการเลือกตั้งครั้งต่อไป เราก็คิดค้นนโยบายต่อยอดจากนโยบายดังกล่าวด้วย ดังนั้นพรรคเพื่อไทยไม่ควรออกมาตีกัน นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ หรือเพราะพรรคเพื่อไทยหวั่นไหวต่อคะแนนยิยมของรัฐบาลที่ดีวันดีคืน และผลงานของรัฐบาลที่ออกมาเป็นระลอก เป็นที่พอใจของประชาชน กลัวคนจะชอบนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ แล้วลืม พ.ต.ท.ทักษิณ" นายเทพไท กล่าว