นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์” ว่า การเดินหน้าในเรื่องของการที่จะเปลี่ยนแปลงนโยบายในเรื่องของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากที่เราได้ใช้นโยบายที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม คือ เอาเรื่องของการพัฒนากับเรื่องของการอำนวยความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในพื้นที่ เรื่องการพัฒนานั้นก็มีความคืบหน้าความก้าวหน้ามาโดยลำดับ แล้วขณะนี้ก็สามารถที่จะทำให้หลายพื้นที่นั้นได้รับประโยชน์อย่างมากจากโครงการต่างๆ ซึ่งรัฐบาลได้มีการผลักดันให้เกิดขึ้นภายใต้การมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชน
สำหรับเรื่องการอำนวยความยุติธรรม หลักที่เราพยายามจะทำคือ ในพื้นที่ซึ่งมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างชัดเจนแล้วก็จะมีการยกเลิกการใช้กฎหมายพิเศษ
นายกฯ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ได้เคยเล่าให้พี่น้องประชาชนรับทราบว่า เราได้ยกเลิกกฎอัยการศึกไปใน 4 อำเภอ ของ จ.สงขลา แล้วก็นำเอากฎหมายความมั่นคงมาใช้ ซึ่งในกฎหมายความมั่นคงนั้นจะเปิดโอกาสให้มีการใช้บทบัญญัติพิเศษ คือ มาตรา 21 ซึ่งเหมือนกับเป็นกระบวนการทางเลือกคือ เปิดโอกาสให้ผู้ที่หลงผิดหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์แล้วไปก่อเหตุซึ่งไปเกี่ยวข้องกับความไม่สงบในพื้นที่ สามารถที่จะเข้ามาสู่กระบวนการของการที่จะให้ศาลนั้นส่งเข้าไปสู่กระบวนการการอบรมแทนที่จะเข้าสู่กระบวนการอาญาตามปกติ ซึ่งครม.ได้เห็นชอบฐานความผิดที่เกี่ยวข้องกับการใช้มาตรา 21 และขณะนี้ก็มีความพร้อมในเรื่องของหลักสูตรการอบรมต่างๆ ซึ่งคาดว่าในเดือนมี.ค.นี้ ก็จะสามารถเริ่มต้นได้ ก็จะมาสอดรับกับการที่กฎหมายการบริหารชายแดนภาคใต้มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ช่วงสิ้นปี
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ตนก็เข้ามาดูแลปัญหานี้แล้วก็กำลังจะจัดโครงสร้างต่างๆ ตามกฎหมายใหม่ ซึ่งก็จะมีการสรรหาในเรื่องของสภาที่ปรึกษา ขณะเดียวกันก็จะมีการจัดอัตรากำลังออกประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง กฎหมายนี้ก็จะช่วยให้การทำงานในพื้นที่นั้นมีความเป็นเอกภาพมากยิ่งขึ้น แล้วก็เป็นเรื่องของการเอาการเมืองนำการทหารอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้นในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ซึ่งตนคิดว่าก็จะเป็นผลดีอย่างยิ่งต่อการที่จะคลี่คลายสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แล้วก็ขณะเดียวกันก็จะทำให้ทั่วโลกมองเห็นอย่างชัดเจนว่า เจตนารมณ์ของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้โดยยึดมั่นในเรื่องของความยุติธรรมและการพัฒนานั้นเป็นคำตอบที่จะมีความยั่งยืนสำหรับพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง
สำหรับเรื่องการอำนวยความยุติธรรม หลักที่เราพยายามจะทำคือ ในพื้นที่ซึ่งมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างชัดเจนแล้วก็จะมีการยกเลิกการใช้กฎหมายพิเศษ
นายกฯ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ได้เคยเล่าให้พี่น้องประชาชนรับทราบว่า เราได้ยกเลิกกฎอัยการศึกไปใน 4 อำเภอ ของ จ.สงขลา แล้วก็นำเอากฎหมายความมั่นคงมาใช้ ซึ่งในกฎหมายความมั่นคงนั้นจะเปิดโอกาสให้มีการใช้บทบัญญัติพิเศษ คือ มาตรา 21 ซึ่งเหมือนกับเป็นกระบวนการทางเลือกคือ เปิดโอกาสให้ผู้ที่หลงผิดหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์แล้วไปก่อเหตุซึ่งไปเกี่ยวข้องกับความไม่สงบในพื้นที่ สามารถที่จะเข้ามาสู่กระบวนการของการที่จะให้ศาลนั้นส่งเข้าไปสู่กระบวนการการอบรมแทนที่จะเข้าสู่กระบวนการอาญาตามปกติ ซึ่งครม.ได้เห็นชอบฐานความผิดที่เกี่ยวข้องกับการใช้มาตรา 21 และขณะนี้ก็มีความพร้อมในเรื่องของหลักสูตรการอบรมต่างๆ ซึ่งคาดว่าในเดือนมี.ค.นี้ ก็จะสามารถเริ่มต้นได้ ก็จะมาสอดรับกับการที่กฎหมายการบริหารชายแดนภาคใต้มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ช่วงสิ้นปี
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ตนก็เข้ามาดูแลปัญหานี้แล้วก็กำลังจะจัดโครงสร้างต่างๆ ตามกฎหมายใหม่ ซึ่งก็จะมีการสรรหาในเรื่องของสภาที่ปรึกษา ขณะเดียวกันก็จะมีการจัดอัตรากำลังออกประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง กฎหมายนี้ก็จะช่วยให้การทำงานในพื้นที่นั้นมีความเป็นเอกภาพมากยิ่งขึ้น แล้วก็เป็นเรื่องของการเอาการเมืองนำการทหารอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้นในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ซึ่งตนคิดว่าก็จะเป็นผลดีอย่างยิ่งต่อการที่จะคลี่คลายสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แล้วก็ขณะเดียวกันก็จะทำให้ทั่วโลกมองเห็นอย่างชัดเจนว่า เจตนารมณ์ของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้โดยยึดมั่นในเรื่องของความยุติธรรมและการพัฒนานั้นเป็นคำตอบที่จะมีความยั่งยืนสำหรับพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง