ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ -เลขาฯ สมช.ระบุ แจงยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 4 อำเภอ ของ จ.สงขลา และนำ พ.ร.บ.ความมั่นคงใช้แทน นำร่องก่อนขยายไปพื้นที่อื่น ระบุมาตรา 21 เปิดโอกาสผู้หลงผิดเข้ามามอบตัวกับทางการ หากรู้เท่าไม่ถึงการณ์ศาลจะเว้นโทษและปล่อยตัว
นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ยกเลิกกฎอัยการศึกของพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลาและให้นำเอาพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรมาบังคับใช้แทน โดยกำหนดว่าให้มีการดำเนินการภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 นี้
จุดมุ่งหมายที่สำคัญในเรื่องนี้คณะรัฐมนตรีก็มีเหตุผล การที่เราใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินมาเป็นเวลา 4 ปี เพราะประกาศครั้งที่ 17 แล้ว วึ่งมีผลข้างเคียงมาก เหมือนกับเรากินยาและมีผลข้างเคียงที่สะสมมานาน ไม่ว่าจะใช้ความพยายามระมัดระวังอย่างไรก็ตาม ผลที่เกิดขึ้นก็มีผลกระทบอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็พยายามที่จะลดผลกระทบในเรื่องพวกนี้โดยให้มีการนำเอาพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรมาใช้แทน ซึ่งในพระราชบัญญัติฉบับนี้จะมีบทที่สำคัญที่ปรากฏอยู่ในมาตราที่ 21 ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ที่หลงผิดได้เข้ามามอบตัวกับทางราชการและเมื่อมีการสอบสวนแล้ว ปรากฏว่า เป็นผู้ที่หลงผิดรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้กระทำความผิดในส่วนที่ทางคณะรัฐมนตรีได้กำหนด ก็จะมีเหตุให้ยกเว้นโทษสามารถที่จะกลับเข้ามาอยู่ในสังคมได้ตามปรกติ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่อยู่ในอำนาจของทางฝ่ายบริหารหรือฝ่ายของบ้านเมืองเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของขบวนการที่นำไปสู่ศาล ศาลจะเป็นผู้พิจารณา
“เราเรียกร้องให้มีการต่อสู้ในเรื่องของแนวความคิดต่างๆ ไม่ได้ต้องการให้เปลี่ยนหรือเปลี่ยนความคิดความเชื่อ แต่เราขอร้องให้มีการเปลี่ยนวิธีการไม่นำไปสู่การใช้วิธีการที่รุนแรง ซึ่งการใช้พระราชบัญญัติในพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา เป็นโครงการนำร่องนี้ ก็จะเป็นการเปิดโอกาสเปิดพื้นที่ให้ผู้ที่ต้องการจะกลับเข้ามาสู่แนวทางการต่อสี่สันติก็จะมีพื้นที่มากยิ่งขึ้น ซึ่งหวังว่าเมื่อมีการใช้พระราชบัญญัติในพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลานี้ได้ ผลออกมาอย่างไรแล้วก็อาจขยายผลไปใช้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป” นายถวิลกล่าว
นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ยกเลิกกฎอัยการศึกของพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลาและให้นำเอาพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรมาบังคับใช้แทน โดยกำหนดว่าให้มีการดำเนินการภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 นี้
จุดมุ่งหมายที่สำคัญในเรื่องนี้คณะรัฐมนตรีก็มีเหตุผล การที่เราใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินมาเป็นเวลา 4 ปี เพราะประกาศครั้งที่ 17 แล้ว วึ่งมีผลข้างเคียงมาก เหมือนกับเรากินยาและมีผลข้างเคียงที่สะสมมานาน ไม่ว่าจะใช้ความพยายามระมัดระวังอย่างไรก็ตาม ผลที่เกิดขึ้นก็มีผลกระทบอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็พยายามที่จะลดผลกระทบในเรื่องพวกนี้โดยให้มีการนำเอาพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรมาใช้แทน ซึ่งในพระราชบัญญัติฉบับนี้จะมีบทที่สำคัญที่ปรากฏอยู่ในมาตราที่ 21 ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ที่หลงผิดได้เข้ามามอบตัวกับทางราชการและเมื่อมีการสอบสวนแล้ว ปรากฏว่า เป็นผู้ที่หลงผิดรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้กระทำความผิดในส่วนที่ทางคณะรัฐมนตรีได้กำหนด ก็จะมีเหตุให้ยกเว้นโทษสามารถที่จะกลับเข้ามาอยู่ในสังคมได้ตามปรกติ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่อยู่ในอำนาจของทางฝ่ายบริหารหรือฝ่ายของบ้านเมืองเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของขบวนการที่นำไปสู่ศาล ศาลจะเป็นผู้พิจารณา
“เราเรียกร้องให้มีการต่อสู้ในเรื่องของแนวความคิดต่างๆ ไม่ได้ต้องการให้เปลี่ยนหรือเปลี่ยนความคิดความเชื่อ แต่เราขอร้องให้มีการเปลี่ยนวิธีการไม่นำไปสู่การใช้วิธีการที่รุนแรง ซึ่งการใช้พระราชบัญญัติในพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา เป็นโครงการนำร่องนี้ ก็จะเป็นการเปิดโอกาสเปิดพื้นที่ให้ผู้ที่ต้องการจะกลับเข้ามาสู่แนวทางการต่อสี่สันติก็จะมีพื้นที่มากยิ่งขึ้น ซึ่งหวังว่าเมื่อมีการใช้พระราชบัญญัติในพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลานี้ได้ ผลออกมาอย่างไรแล้วก็อาจขยายผลไปใช้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป” นายถวิลกล่าว
