“อนุพงษ์” เตรียมลงใต้ติดตามการปฏิบัติรดับกองพันว่ามีปัญหาอะไรขัดข้องหรือไม่ ระบุการยกเลิกกฎอัยการศึกจะเกิดผลภาพบวกต่อประเทศชาติ ยัน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังจำเป็นต้องใช้กฎอัยการศึกเนื่องจากเป็นพื้นที่ไม่ปกติ
วานนี้ (21 เม.ย.) ที่กองการบินกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรีประกาศยกเลิกกฎอัยการศึกจะส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาลหรือไม่ว่า ในช่วงที่ผ่านมาเป็นการพิจารณาของนสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยนายกรัฐมนตรีเป็นผู้พิจารณาว่าเมื่อมี พ.ร.บ.ความมั่นคงแห่งชาติแล้วก็ไม่จำเป็นจะต้องมีกฎอัยการศึก ซึ่งขั้นตอนการดำเนินการจะไปพิจารณาในพิจารณาทั้งหมดว่าจะมีการพิจารณาหรือไม่ และจะมีผลกระทบหรือไม่ ซึ่งจะไปดูใน พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักรจะมีขั้นตอนอย่างไรเพื่อให้สอดคล้องกัน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่ปฏิบัติงานดูแล้วก็จะนำมาเสนอพิจารณาต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมการยกเลิกกฎอัยการศึกจะเป็นภาพบวกกับประเทศชาติ เพราะกฎอัยการศึกใช้ยามสงคราม แต่ในขณะนี้ตามแนวชายแดนไม่มีสงครามเกิดขึ้น เมื่อเรามีกฎหมายที่เหมาะสมในการใช้เกี่ยวกับความมั่นคง แต่มีขั้นตอนในการทำจะประกาศเป็นพื้นที่ความมั่นคง ฉะนั้นจึงเห็นว่าน่าจะดีกว่าที่ไม่ใช่กฎอัยการศึกการปฏิบัติงานก็จะต้องไปดูในรายละเอียดว่า กฎหมายต่างๆ ใช้ได้หนักเบาเพียงใดจะต้องเป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง
เมื่อถามว่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กับอีก 5 อำเภอใน จ.สงขลา จำเป็นจะต้องใช้กฎอัยการศึกอยู่ พล.อ.อนุงพษ์ กล่าวว่า มันเป็นพื้นที่ที่มีเหตุการณ์ไม่ปกติ แม้ว่าจะใช้กฎหมายปกติก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ จำเป็นจะต้องใช้กฎอัยการศึกบางส่วน โดยเฉพาะการปิดล้อมควบคุม ซึ่งมีความจำเป็นแต่ก็ใช้ในบางส่วนเท่านั้นคือไม่ได้ใช่อำนาจเต็ม ส่วนการลงพื้นที่ภาคใต้ในวันที่ 22 เม.ย.นี้จะไปดูแลในพื้นที่ กอ.รมน.ภาค 4 และดูรายละเอียดในการปฏิบัติงานของระดับกองพันว่ามีปัญหาข้อขัดข้องอย่างไรหรือไม่ ซึ่งจากดูแนวทางการปฏิบัติของหน่วยรองลงมาแนวโน้มน่าจะดี แต่ตนก็อยากจะไปดูให้เห็นและดูผู้ปฏิบัติโดยตรง