xs
xsm
sm
md
lg

"มาร์ค"ท้าแม้วเลือกสถานะ"อำมาตย์-ไพร่"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- "มาร์ค" ถาม "แม้ว" ให้เลือกจะเป็นอำมาตย์หรือไพร่ ยันพร้อมหาทางลงให้แกนนำแดง แต่การชุมนุมต้องอยู่ในกรอบกติกาก่อน ชี้หากยุบสภาแล้วสามารถแก้ปัญหาได้จริงก็พร้อม เผยห่วสงสถานการณ์ต้องยกเลิกไป "นิวซีเเลนด์" ลั่นสัปดหาหน้าพร้อมประชุม ครม.-สภาฯ

เมื่อเวลา 07.00 น.วานนี้ (19 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ “สนามเป้า เล่าข่าว” ทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ( ททบ.5 ) ประมาณ 40 นาที ก่อนที่จะเข้าประชุม ศอ.รส.เพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง

นายอภิสิทธิ์ กล่าวในรายการตอนหนึ่งว่าในวันเสาร์ที่ 20 มี.ค.นี้ ที่ผู้ชุมนุมประกาศว่าจะมีการเคลื่อนขบวนไปทั้วกรุงเทพฯนั้นรัฐบาลได้ประสานเรื่องเส้นทาง เพื่อจะได้แนะนำประชาชนได้ว่าเส้นทางจราจรเส้นทางไหนควรหลีกเลี่ยง

สำหรับข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมที่บอกให้ยุบสภานั้น ตนพร้อมที่จะพูดคุยและไม่เคยพูดเลยว่าจะไม่ยุบสภา แต่ถ้ายุบสภาแล้วมันแก้ปัญหาได้หรือไม่ ก็มาพูดคุยกัน แต่การจะคุยกันต้องให้การชุมนุมอยู่ในกติกาที่คุยกันไว้ เป็นกรอบกติกา ถึงแม้ว่าขณะนี้ทุกอย่างไม่ได้อยู่ในกรอบกติกา

"กรณีของพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่เป็นไรเพราะเราเอาภาพใหญ่ๆ ก็คือว่าต้องเป็นการชุมนุมที่สงบ แต่ก็ยังปัญหาที่ไม่ค่อยสงบอยู่ 2-3 เรื่องคือ 1. ยังมีการประกาศในทำนองที่ว่าไล่ล่านายกฯ หรือไล่ล่าบุคคลในรัฐบาล อย่างกรณีที่นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง บอกว่า ดีที่นายอภิสิทธิ์ไม่อยู่ ถ้าอยู่จะเอาเลือดในหัวตนไปล้างเท้าเขา ผมก็บอกว่า ถ้าอย่างนี้คงไม่ใช่การชุมนุมโดยสงบ และไม่ใช่แค่คำพูด แต่เหมือนกับการข่มขู่กลายๆ
และ 2. การพูดจาปราศรัยบนเวที โดยเฉพาะคลิปเสียงซึ่งพิสูจน์หลักฐานก็พิสูจน์มา 2 ครั้งแล้วว่าเป็นการตัดต่อ เพื่อให้เกิดความเกลียดชังนั้น ยังมีทำอยู่ ซึ่งความจริงผมก็ฟ้องไปแล้ว ศาลก็ประทับรับฟ้องไปแล้วหนึ่งคดี ก็ต้องฟ้องเพิ่มเติม ที่สำคัญตอนหลังที่น่าเป็นห่วงมากคือ เรื่องการพูดถึงอำมาตย์ ไพร่ ให้เกิดความรู้สึกแยกแตกในสังคม ต้องถามว่ายุบสภาเกี่ยวกับอำมาตย์ไหม" นายอภิสิทธิ์กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ตนเป็นนายกฯ คนแรกที่คนเรียกร้องให้ยุบสภาและไม่ได้ออกมาบอกว่า ยังไงก็ไม่ยุบ แต่ตนบอกว่ายุบได้ แต่ถ้าการยุบเราต้องการแก้ไขปัญหาอะไร และมันสงบจริงหรือเปล่า ในขณะที่ผู้ชุมนุมเองก็ไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน และมีความสุ่มเลี่ยงต่อความรุนแรงอยู่ตลอดเวลา การ เลือกตั้งที่มีการรุนแรงคือ การทำลายประชาธิปไตย ดังนั้นถ้าแก้ไขปัญหาได้จริง ผมก็ยินดี วันนี้หากเรามีความจริงใจอยากให้บ้านเมืองกลับสู่ภาวะปกติ ผมก็ยินดีคุย แต่ต้องไม่ใช่ลักษณะคุกคาม

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า เท่าที่ฟังดูเหมือนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่อยากคุยวันนี้เราจึงต้องพิสูจน์กันว่า ตกลงแกนนำนปช. จะ เป็นผู้ตัดสินใจหรือ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเป็นคนชี้ อย่างนี้ก็แสดงว่า การที่มีการเรียกร้องของผู้ชุมนุมไม่ได้มีหลักประกันเลยว่าจะนำไปสู่ความสงบ ตราบเท่าที่ พ.ต.ท.ทักษิณไม่พอใจ ดังนั้น กระบวนการพูดคุย ควรจะเอาประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นที่ตั้ง และตนไม่เคยปฎิเสธช่องทางนี้

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงเหตุการณ์การยิง เอ็ม 79 เข้าไปที่กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) ที่เกิดขึ้นพร้อมกับการที่กลุ่มคนเสื้อเเดงเคลื่อนพลไปที่ ร.11 รอ. ว่าตนคงไม่ไปวิจารณ์ว่าความสัมพันธ์กลุ่มไหน อย่างไร เเต่ตรงนี้เป็นอีกประเด็นหนึ่ง สิ่งที่จะบอกคือว่า สังคมไมได้มีเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ขนาดผู้ชุมนุมก็อาจมีหลายความคิดเห็น

ฉะนั้นการที่จะมาคุยกันเพื่อหาทางออกให้บ้านเมือง เเละกลับไปบอกว่าเรียกร้องให้ยุบสภาจบ หรือไม่ พอบนเวทีบอกว่าจบ เเต่มีเเดงอื่นบอกไม่จบ ซึ่งก็ไม่ได้นับคนในสังคมที่ไม่ได้มาชุมนุมว่ามีความเห็นอย่างไรด้วย ฉะนั้นการพูดคุยคงไม่ใช่เป็นเรื่อง ถ้านายวีระ มุสิกพงศ์ เเกนนำคนเสื้อเเดงเห็นด้วยเเล้วมันต้องเป็นอย่างนั้น เสร็จเเล้วเกิดมีคนอีกกลุ่มหนึ่งบอกว่าตกลงกันเเบบนี้ ไม่ยอม จะชุมนุมต่อเเล้วจะทำอย่างไร ดังนั้นการพูดคุยต้องมาคุยกันโดยเอาประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นที่ตั้ง หากเป็นเเบบนี้พูดคุยได้ ตนไม่เคยปฏิเสธช่องทางการพูดจา

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงพยายามพูดถึงเรื่องการแบ่งแยกชนชั้น เป็นอำมาตย์ เป็นไพร่ ว่าเป็นการใช้ถ้อยคำที่ฟังเเล้วคนส่วนใหญ่ งง เพราะมันไม่มีไพร่ ไม่มีอำมาตย์แล้ว ประชาชนคนไทยมีความเท่าเทียมกันตามรัฐธรรมนูญในเรื่องสิทธิ เสรีภาพ ซึ่งในประเทศต่างๆ ก็เป็นเเบบนี้ เเต่ในความเป็นจริงมันมีความเหลื่อมล้ำในสังคมอยู่ เเต่ไม่มีในลักษณะที่เป็นอำมาตย์ หรือเป็นไพร่

**"แม้ว"เป็นอำมาตย์หรือไพร่

ผู้ดำเนินรายการถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นอำมาตย์ หรือไพร่ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ เคยเป็นนายกฯ ร่ำรวยมหาศาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "อย่างเมื่อเช้าวันนี้ ผมเห็นภาพจาก นสพ.มติชน ที่ผู้ชุมนุมนอนอยู่ เเต่อีกภาพเป็นภาพพ.ต.ท.ทักษิณเเละลูกที่เมืองนอก อย่างนี้เเเปลว่า อำมาตย์-ไพร่ หรือไม่ ต้องถามว่ามันเเปลว่าอะไร ดังนั้นความเหลื่อมล้ำในสังคมนั้นมันมี เเละเป็นหน้าที่ของทุกรัฐบาลที่ต้องพยายามเเก้ไข เเละเชื่อว่า ทุกรัฐบาลเเก้ไข เเต่มันไม่ง่าย รัฐบาลของผมพยายามเเก้ไข เรารู้ตั้งเเต่เกิดมาสิทธิตามรัฐธรรมนูญเท่าเทียมกัน เเต่โอกาสไม่ค่อยเท่าเทียม เเละพ.ต.ท.ทักษิณ นำมาพูดว่ามีความเหลื่อมล้ำ เป็นอำมาตย์-ไพร่ นั้นได้เเก้ไขหรือไม่ หนี้สินของคนทั่วไปช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ บริหารเพิ่มขึ้นประมาณเท่าตัว เเต่ทรัพย์สินของพ.ต.ท.ทักษิณ เพิ่มขึ้นเท่าตัวเช่นกัน อย่างที่ศาลวินิจฉัยออกมา" นายอภิสิทธิ์กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ทำอะไรให้ประชาชนคนจน เช่นโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน เเล้วพอมารัฐบาลนี้ ที่บอกว่าเป็นรัฐบาลอำมาตย์ เเล้วทำไมตนนำงานที่เห็นว่าเป็นประโยชน์มาทำต่อ เช่น กองทุนหมู่บ้าน โอทอป เเละทำมากกว่า นั้น เช่นบ้านมั่นคง เเก้ไขหนี้สินนอกระบบ ซึ่งทุกรัฐบาลพยายามเเก้ไข เเต่ไม่เคยเห็นรัฐบาลไหนเเก้ไขความเหลื่อมล้ำได้ในระยะเวลาสั้นๆ ถ้าจะให้เท่ากันมีอย่างเดียวคือ ให้จนเท่ากัน จึงคิดว่าไม่ค่อยเหมาะสมนักที่พยายามบอกว่า ความเหลื่อมล้ำที่เป็นปัญหาเรื้อรังมารวมทั้งรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีเวลานานที่สุดที่จะเเก้ ซึ่งเป็นปัญหาที่เป็นอยู่ คำถามคือ ยุบสภาวันพรุ่งนี้ ปัญหาก็ไม่หมด พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่าหากยุบสภา กลับมา 6 เดือนล้างหนี้ให้หมด เเล้วถามว่าทำไมอยู่เกือบ 6 ปี นอกจากหนี้ไม่หมด เเละเพิ่มเป็นเท่าตัวเราก็ไม่ว่ากัน ตนก็ทำงานเเละรู้ว่าเป็นเรื่องยาก

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลนี้มีหลายเรื่องที่จะทำ เเละรัฐบาลอื่นไม่เคยเเตะเลยคือ วันที่ 30 มี.ค.ในการประชุม ครม.จะนำเรื่องภาษีที่ดิน เเละทรัพย์สินเข้ามาพิจารณา ซึ่งเป็นตัวหลักในความเหลื่อมล้ำ คือคนที่มีที่ดินมาก กับคนที่ไม่มีที่ทำกิน เราจะพยายามปรับ ถึงบอกว่าอย่าไปใช้ถ้อยคำที่ทำให้เกิดความเกลียดชังระหว่างคนที่มีมาก กับคนที่มีน้อย ตราบเท่าที่ทุกคนประกอบอาชีพสุจริต เเสวงหาโอกาสให้ตัวเอง มีกติกาที่ทุกคนเคารพ สังคมต้องเป็นอย่างนี้เเละต้องช่วยคนด้อยโอกาสให้มีโอกาสมากขึ้น ซึ่งทุกคนทำเเต่พยายามที่จะมาเเบ่งเเยก เเละบอกว่าใคร ที่มีความเดือดร้อนอยู่ จะต้องมาล้มล้างต่างๆ อันนี้อันตราย

ผู้ดำเนินรายการย้ำว่าประเด็นที่นปช. ยกขึ้นมาคือ รัฐบาลนี้เป็นระบอบอำ
มาตย์ เเละขอให้คืนอำนาจให้ประชาชน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องถามว่า ตกลงว่าระบอบอำมาตย์ของพวกเขาคืออะไร ต้องให้คนพูด ให้คำนิยาม ตนนิยามให้ไม่ได้ คำถามง่ายๆ อำมาตย์ เเทรกเเซงช่วยบอกมาว่า มีเรื่องใดบ้างที่รัฐบาลนี้ตัดสินใจเเล้วอำมาตย์เเทรกเเซง ใครมาเเทรกเเซง ตนยืนยันได้ว่าทำงานไม่มีใครเเทรกเเซง

ผู้ดำเนินรายการย้อนถามถึงสัญญาณพิเศษคืออะไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นคำพูดที่กล่าวขึ้นมาลอยๆ ทั้งสิ้น ตนเป็นรัฐบาลมาปีกว่า การตัดสินใจเเต่ละเรื่องไม่มีใครเลยที่จะมาเเทรกเเซง ในทางที่บอกว่าเพื่อที่จะกดขี่คนส่วนใหญ่ มีเเต่ว่าในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจมาตรการของรัฐบาลนี้เเปลกกว่ายุคอื่นๆ คือ ไม่ได้พูดถึงโครงการขนาดใหญ่ สิ่งเเรกคือรีบทำให้คนยากจนเเละเดือดร้อนมีรายได้ไปก่อน เกษตรกรยุคนี้เป็นยุคเเรกที่มีหลักประกันรายได้ ทุกคนได้เหมือนกัน ไม่ใช่ระบบช่วยบางคน ไม่ช่วยบางคน ถ้าเราเเก้ปัญหาได้ง่ายจริง มันคงไม่ตกมาถึงวันนี้ ประเทศที่ร่ำรวยกว่าเราก็มีปัญหาความไม่เท่าเทียมกัน เเต่มันไม่เป็นความจริงเลยที่บอกว่ามีคนสองพวกในสังคม โดยอีกคนพยายามปิดทางไม่ให้อีกกลุ่มมีโอกาสลืมตาอ้าปาก

ถามด้วยว่า หากไม่ยุบสภา การประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อหาทางออกในการเเก้ปัญหาจะมีขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้ ส.ว.ยื่นญัตติตามสิทธิเข้ามา ก็ต้องไปพูดคุยกัน ส่วนส.ส.นั้นความจริงเเล้วจะมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจอยู่เเล้ว รัฐบาลต้องตอบคำถามเเละข้อสงสัยต่างๆ โดย ส.ว.ต้องตัดสิน เเต่อย่างเลวร้ายที่สุดสำหรับคนที่ไม่ชอบรัฐบาลนี้เลย ปีหน้าต้องเลือกตั้งอยู่เเล้ว เเละตนพูดมาตลอดว่า ไม่ได้คิดจะอยู่ครบเทอม ตนขอย้ำอีกครั้งว่า ยุบสภาหากเเก้ปัญหาได้ก็มาคุยกัน หากยุบสภาเเล้วยังไปปลุกระดมให้เกิดความเกลียดชังกัน ความเเตกเเยกก็ไม่จบ

**เชื่อ"แม้ว"ไม่ยอมให้เจขรจา

วันนี้ตนรอดูว่า เเกนนำผู้ชุมนุมพร้อมจะคุยกับตนโดยให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนเเห่งชาติมาเป็นตัวเชื่อม พอพ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่าไม่เอา ตนจะดูว่าตกลงเเล้วเเกนนำหรือพ.ต.ท.ทักษิณ คือคนที่กำหนดเรื่องราวต่างๆ ตรงนี้ เเละจะได้เห็นชัดขึ้นว่า สุดท้ายในการเคลื่อนไหวนำไปสู่อะไร เเละยุบสภาเเก้ปัญหาได้จริงไหม

นายอภิสิทธิ์ กล่าวยอมรับว่า สัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี และไปร่วมประชุมรัฐสภา เพราะสัปดาห์ที่ผ่านมายังสับสนเล็กน้อยเพราะเดิมนั้นตนต้องไปออสเตรเลีย เเละประธานสภานัดประชุมเพิ่ม วิปรัฐบาลบอกว่า ไม่อยากเป็นเงื่อนไขความขัดเเย้งที่มาล้อมกัน เเละวันที่ 18 มี.ค. มีการตั้งกระทู้ถาม เเต่ตนพบคณะกรรมการสิทธิฯ อยู่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ จึงตอบกระทู้ เเละจริงๆเเล้ว 2-3วันนี้ ตนต้องไปนิวซีเเลนด์ เเต่ยกเลิกไปก่อน เเละกลับมาทำงานตามปกติ เช่น ตรวจภัยเเล้ง เเละ งานเอกสารก็เดินไปตามปกติ สัปดาห์หน้าจะพยายามนำกลับเข้าสู่ความเป็นปกติ

**สัปดาห์หน้าเข้าสู่ภาวะปกติ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวตอบว่าหากคนเสื้อเเดงมาล้อมจะทำอย่างไรว่า การคุยเรื่องกติกากับกรรมการสิทธิฯ การชุมนุมต้องสันติ สงบ ต้องไม่มีการปิดล้อม ซึ่งศาลปกรองเคยวินิจฉัยไปแล้วว่า การปิดล้อมไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ถ้าปิดล้อม และถ้าปฏิบัติไม่เหมือนกันอันนี้จะเป็นสองมาตรฐาน แต่ประเด็นอยู่ที่ว่า ตนพยายามใช้วิธีทำความเข้าใจก่อนไม่ใช่ถึงเวลาไปสร้างเงื่อนไขให้เผชิญหน้าแล้วบอกว่าสลายการชุมนุมเลย มันอาจจะตึงเครียดขึ้น
นายกฯยอมรับว่าไม่ได้กลับบ้าน ตั้งแต่มีการชุมนุม และไม่ได้เจอครอบครัวเลย แต่ไม่เป็นไร เพราะเป็นหน้าที่ และเวลานี้เราประกาศใช้พื้นที่ความมั่นคง ตนเป็นผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หน้าที่คือ ดูแลให้เกิดความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง และตนขอขอบคุณประชาชนในสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ที่อดทนอดกลั้น ทำให้เราผ่านไปหนึ่งสัปดาห์โดยไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรง และให้ความมั่นใจว่าการบริหารของรัฐบาลต่อกรณีการชุมนุมจะเป็นไปเพื่อให้เกิดความปลอดภัย และความสะดวกสูงสุดของส่วนรวม

ในแง่ปัญหาข้อเรียกร้องนั้นยืนจะตัดสินใจบนพื้นฐานประโยชน์ส่วนรวมตนไม่มีประโยชน์ส่วนตัวใดๆ ทั้งสิ้นในการตัดสินในทางการเมืองจะตัดสินใจบนพื้นฐานประโยชน์ส่วนรวมที่มองไปไกลถึงระยะยาว ที่ต้องรักษาความถูกต้องด้วยไม่ใช่เพียงแค่แก้ปัญหาพ้นตัวไปวันๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น