เด็ดดอกไม้รายทาง
โดย...อัญชะลี ไพรีรัก
ไม่รู้ว่าเป็นความคิดของใคร แต่แผนเจาะเลือดจากแกนนำและ กลุ่มผู้ชุมนุม นปช .เสื้อแดง แล้วนำไปราดรดที่หน้าทำเนียบบ้าง - หน้าบ้านนายกฯอภิสิทธิ์บ้าง กลายเป็น “มุกแป๊ก” ไม่เข้าท่าน่ารังเกียจ ยังผลให้ความน่าเชื่อถือของคนเสื้อแดงที่จากเดิมแทบจะไม่มีอยู่แล้ว ให้ติดลบ-ลดลงไปอีก
เพราะเรื่องเงินไม่เข้าใครออกใคร เวลานี้ความสัมพันธ์ระดับแกนนำคนเสื้อแดงได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆชัดเจน ด้วยผลประโยชน์ไม่ลงตัว
ฝ่ายหนึ่งจึงชู “สามเกลอ”เป็นแม่ทัพ เสเสร้งเล่นบทการชุมนุมโดยสันติอหิงสา หวังหลอกเงินทักษิณไปวันๆ
แต่อีกฝ่ายหนึ่งวางแผนหักดิบชู “จักรภพ”ขึ้นเป็นผู้นำ ทิ้งไพ่ใบสุดท้ายหวัง “โค่นอำมาตย์” และ สถาปนา “ทักษิณ”ขึ้นครองเมือง
ฝ่ายหลังนี้จึงเชื่อมั่นในยุทธวิธีใช้ความรุนแรงเร่งเกมเร็วให้จบใน 3 วัน
ขณะที่แกนนำคนเสื้อแดงกำลังต่อสู้แย่งชิงการนำอยู่นั้น ก็ให้ปรากฏข้อมูลจากฝ่ายข่าวกรองพบว่า ทางการสหรัฐกับหน่วยงานความมั่นคงของไทยจับตาเฝ้าระวัง “ทักษิณ” และ ลูก-เมียรวมถึงพี่น้องของเขาใกล้ชิด
มีข่าวการลอบสังหาร “นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์” และ การวางระเบิด “สถานทูต” ประเทศเพื่อนบ้านซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานทูตอเมริกามากนัก นัยว่าเพื่อเร่งสถานการณ์ความรุนแรงให้การเมืองร้อนเร่ายิ่งขึ้น และ ยกระดับความวุ่นวายจากภายในไปสู่ระหว่างประเทศ โดยประเทศเพื่อนบ้านเตรียมแสดงบทบาทกราดเกรี้ยวและปิดพรมแดนทันทีที่ระเบิดการเมืองทำงาน
ข้อมูลเหล่านี้ได้มาจากความร่วมมือกันระหว่างสหรัฐกับหน่วยงานความมั่นคงของไทยที่ช่วยกันตรวจสอบการเคลื่อนไหวของทักษิณและแกนนำผู้ชุมนุมมากเป็น “พิเศษ” ในช่วงนี้ด้วยเครื่องมือเครื่องไม้และเทคโนโลยีอันทันสมัย
ดังนั้นการเดินทางออกนอกประเทศของทักษิณและครอบครัวเพื่อหลบไปยังที่ต่างๆ อยู่ในการสอดส่องใกล้ชิดของฝ่ายข่าวทุกฝีก้าว
ดังมีรายงานมาก่อนหน้านี้ว่า ยิ่งเลิฟ กับ พี่สาวซาลาเปา ขลุกอยู่ด้วยกันที่สิงคโปร์ และเดินทางเข้าออกระหว่างโรงแรมที่พักกับธนาคารเป็นว่าเล่น ล่าสุดอดีตพี่สะใภ้ และ ลูกชายตัวดีที่หนีออกจากไทยไปฮ่องกง บินตามไปสมทบที่สิงคโปร์แล้วท่ามกลางข่าว การยกระดับการชุมนุมเพื่อนำไปสู่ความรุนแรง กวาดล้าง ปราบปรามและปฏิวัติ
ขณะเดียวกันมีข่าวว่าทักษิณจะบินลัดฟ้าจากมอนเตเนโกร สวรรค์บนดินของอาชญากรมาหาฮุนเซน เพื่อนรักที่กาสิโนแห่งหนึ่งด้านจังหวัดพระวิหาร ใกล้ช่องตาเฒ่า จุดยุทธศาสตร์ที่ลัดเข้าสู่ จ. สุรินทร์ได้ เพื่อดำเนินการตามแผนที่ว่ากันไว้ในก่อนหน้านี้ และที่กาสิโนแห่งนี้นี่เอง เวลานี้ถูกจัดตั้งให้เป็นศูนย์บัญชาการขนาดย่อมๆ เพื่อคอยจัดส่งเสบียงกรังให้กลุ่มเสื้อแดงอีสานอีกด้านหนึ่งด้วย
ส่วนลูกสาว 2 คนที่หนีไปยุโรปโดยอ้างว่าไปดูงานแฟร์ทางด้านนวัตกรรมใหม่ๆและธุรกิจการท่องเที่ยวที่กรุงเบอร์ลิน เยอรมัน ก็อยู่ไม่เป็นสุขนัก ไปไหนมาไหนก็ถูกคนไทยโห่ไล่ และตั้งหน้าตั้งตาถามว่า เมื่อไหร่พ่อเธอจะเลิกรังแกเมืองไทยเสียที...ข่าวชิ้นนี้ถูกนำมาสู่เมืองไทยโดยปากจัดจ้านของผู้จัดละครค่ายดัง วิกช่อง 3 ที่ไปดูงานด้วย
สองสาวกำลังอยู่ในวัยกุหลาบแรกแย้ม เมื่อเจอสังคมกดดันขนาดหนักอย่างนี้ ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครได้ เพราะพ่อแม่ก็มัวแต่บ้าล้มเจ้า เผาเมือง
เมื่อกลุ้มใจหนักๆเข้าไม่รู้จะทำอะไร สองพี่น้องเลยชวนกัน “ช้อปปิ้ง” เอาเป็นเอาตายทั้งวี่ทั้งวัน ต่อด้วย “เมาแอ๋ ” ด้วยกันทุกคืน จนมีคนฝากเตือนว่า ไม่เกรงใจสายตาคนไทยในเบอร์ลินไม่ว่า แต่ขอให้เกรงใจพี่น้องคนเสื้อแดงด้วย เพราะขณะที่พวกชินวัตรยังสุขสบายกับเงินมากมายที่โกงชาติไป แต่พี่น้องคนเสื้อแดงที่ถูกหลอกมา กลับต้องเอาชีวิตและเลือดเนื้อมาเป็นเดิมพัน อีกทั้งยังต้องตกทุกข์แสนระกำลำบากได้ยากในกรุงเทพ ทั้งหมดนี้จะเพื่อใคร? ถ้าไม่ใช่เพื่อพ่อแม้วจอมโกหกปลิ้นปล้อนของพวกเธอ!!!
การชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงที่นำวิดิโอ ลิงค์ของทักษิณมาปลุกระดมมวลชนทุกคืนบนเวทีสะพานผ่านฟ้า ลีลาศ ยิ่งนานวันยิ่งเห็นชัดว่า ทักษิณเข้าขั้นคนบ้าสติแตกเข้าไปทุกที เขาพูดจากวกไปวนมา พล่าม เพ้อเจ้อ โกหกตัวเองและคนอื่นทุกวี่ทุกวันอย่างไม่รู้สึกรู้สม ท่ามกลางเสียงโห่ร้องปรบมือกระทึบเท้าที่ทำตามอัตราค่าจ้าง...หมดเงินก็หมดรักไม่เชื่อคอยดู
ลงลึกไปที่เนื้อหาการพูดการจาของทักษิณ นับวันยิ่งเฉียดใกล้ “สถาบันสูงสุด” ไปทุกที ล่าสุดเขาเรียกร้องให้ “อำมาตย์” เลิกหวาดระแวงเขา และสัญญาจะกลับมาสร้างความเจริญยิ่งยวดให้ไทยแผ่ไพศาล โดนยืนยันว่า เขากับอำมาตย์น่าจะอยู่ร่วมกันได้และดีกว่า อำมาตย์ในยุโรปเสียอีก...ฟังจบก็กระจ่าง...ที่เค้นคอถามทักษิณอยู่เสมอๆว่า “อำมาตย์” ในความหมายของเขาคือ ? ก็ได้รู้กันเสียทีในคราวนี้ว่า เขาไม่ได้หมายถึงแค่สี่เสาเทเวศร์ แต่ไกลกว่านั้นสูงกว่านี้และ “ดี”จนเกินกว่าที่มือสกปรกของทักษิณจะอาจเอื้อมมาแตะต้องได้
ยิ่งเขาพูดทุกคืนบนเวทีเสื้อแดงที่ประกาศล้อมกรุงเทพฯ ต่อไปจนกว่าจะได้ชัยชนะให้ทักษิณ ก็ยิ่งทำให้เกิดปฏิกิริยาจากคนกรุงเทพมากขึ้น
ไม่ใช่เรื่องความแตกแยก หรือ การแบ่งชนชั้นวรรณะดังที่นักวิชาการตื้นเขินไร้เดียงสาบางคนชี้ช่อง เพราะอย่าลืมว่าคนกรุงเทพฯส่วนใหญ่มาจากต่างจังหวัดทั้งสิ้น พวกนี้มีทั้งหาเช้ากินค่ำ และเป็นมนุษย์เงินเดือน เมื่อการชุมนุมสร้างปัญหากระทบชีวิตประจำวัน และยืดเยื้ออย่างไม่มีเนื้อหาสาระ ขาดการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ยังเป็นการต่อสู้จอมปลอมเพื่อทักษิณ คนขายชาติที่ตั้งหน้าตั้งตาบิดเบือนข้อเท็จจริง และ ไม่ยอมรับในกระบวนการยุติธรรม จึงถูกต่อต้านหนักขึ้นจากคนชั้นกลางในกรุงเทพฯ
นับวันผู้ชุมุนมยิ่งร่อยหรอลงทุกวัน ตั้งแต่วันที่เสื้อแดงระดมกำลังไป “ราบ 11” ปรากฏว่า ทักษิณพ่ายแพ้ราบคาบกับ “ทหารนักพัฒนา” ที่โชว์ลีลาและมุกเด็ดเหลือรับประทาน จนผู้ชุมนุมฟังเพลินราวตลกคาเฟ่ และลืมภารกิจที่ถูกจ้างวานให้มาทำเพื่อทักษิณ โดยบ่ายแก่ของวันนั้นเอง รัฐบาลและกองทัพบกใช้รถบัส 28 คันขนผู้ชุมุนมส่วนหนึ่งกลับภูมิลำเนาไปด้วยดี
บนท้องถนนราชดำเนินที่ร้อนอบอ้าว ลำบากทั้งการกินการอยู่ อาหารก็คุณภาพไม่ดี ไม่ทั่วถึง ห้องน้ำห้องท่าก็ไม่เพียงพอ โรคระบาดเริ่มก่อตัว หมดหมอหยูกยาก็ขาดแคลน จะหันหน้าไปทางไหนก็มืดมน ในที่สุดผู้ชุมุนมเสื้อแดงที่อ่อนระโหยโรยแรงหลังจากตรากตรำมา 3 คืน 4 วัน ก็ดอดหนีกลับบ้านด้วย “รถฟรี” ของใครก็ไม่รู้ที่จอดคอยท่าแถวลานพระบรมรูปฯทุกเช้าตรู่
ทักษิณ กับ พจมานจะหมดเนื้อหมดตัว ลูกเต้าจะกลับไทยไม่ได้ก็งานนี้ละ ส่วนสามเกลอ และ ฝ่ายซ้ายใต้ปีกชินวัตรก็อู้ฟู่อ้วนท้วนกันถ้วนหน้า จะมีที่ต้องหนีตายในต่างแดนร่วมกับทักษิณก็เห็นจะมีจักรภพและอริสมันต์
งวดนี้รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงทุกหน่วยงานรับมือการชุมนุมเสื้อแดงได้อย่างเรียบร้อย จะติดขัดก็ตรงพรรคร่วมรัฐบาลที่อาศัยสถานการณ์ทักษิณก่อความรุนแรงด้วยการ “บีบคอ” ให้ พรรคประชาธิปัตย์ “แก้ไขรัฐธรรมนูญ”
ก่อนเสื้อแดงล้อมกรุงให้พบว่า แกนนำพรรคภูมิใจไทยแทบทุกคนเหินฟ้าไปลั่ลล้าที่ ลอนดอนกันหมดเลย ทั้งนี้ยังไม่นับแกนนำจากพรรคร่วมรัฐบาลแทบทุกพรรคเดินชนกันที่แฮร์รอดส์ดังเปรี้ยงๆ
จะดีมั้ย...ถ้าจะล้างบางคนเห็นแก่ตัวพวกนี้ ไปเสียในคราวเดียวกับการกำจัดทักษิณ
ไม่เช่นนั้น...ประเทศไทยก็ยังวนอยู่กับ ผีตัวหนึ่งไป ผีตัวใหม่มาไม่รู้จักจบสิ้น...อย่าลืม...บ้านเมืองไม่ได้มีไว้ขายและประชาชนไม่ได้เกิดมาเพื่อพ่ายแพ้.