xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” ขอดเกล็ด “มาร์ค” เคยด่า “สมัคร” 9 ข้อ ย้อนเข้าตัวทั้งหมด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สนธิ” ย้อนอดีต “มาร์ค” ครั้งเป็นผู้นำฝ่ายค้าน เคยอภิปรายด่า “สมัคร” ไว้ 9 ข้อ แต่เมื่อตัวเองขึ้นเป็นนายกฯ ก็ทำเองทั้ง 9 ข้อ ทั้งแต่งตั้งคนไม่เหมาะสมมาเป็น รมต.สนองประโยชน์อดีตนักการเมืองผู้มีพระคุณ ปล่อยพรรคร่วมโกงกิน ตอบแทนที่หนุนเก้าอี้นายกฯ ระบุเป็นตัวอย่างนักการเมืองจอมโกหกสร้างภาพ จวก “สุเทพ” ไม่ดูเงาหัวตัวเอง กล่าวหา “สมเกียรติ” ทำผิดแนวทางพรรค เผยจะอยู่ใน ปชป.ต่อไป รอยกมือสวนในศึกซักฟอก

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายสนธิ ลิ้มทองกุล”  

เวลา 21.20 น. วันที่ 15 มี.ค. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีสะพานมัฆวานฯ ระหว่างการชุมนุม “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ว่า เมื่อตอนเที่ยงได้มีการคุยกันนอกรอบของแกนนำพันธมิตรฯ กรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ บอกว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะไม่ส่งนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ลงสมัคร ส.ส.ในนามของพรรคนั้น อย่าคิดว่านายสมเกียรติจะพิศมัยลงสมัครในนามพรรคนี้ ที่ลงสมัครคราวที่แล้วก็เพราะพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าเป็นแกนนำพันธมิตรฯ มีชื่อเสียงจึงให้นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ มากราบวิงวอนให้ลงสมัครในระบบสัดส่วนของพรรค และการที่นายสมเกียรติลงสมัครทำให้พรรคประชาธิปัตย์ได้เสียงในจังหวัดชลบุรีเพิ่มขึ้นและแจ้งเกิดในจังหวัดชลบุรีได้สำเร็จ แบบนี้เรียกว่าเนรคุณยังน้อยไป นายสมเกียรติอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์แบบหวานอมขมกลืน จะอ้วกตายหลายครั้งเวลาประชุมร่วมกับพรรค

ที่นายสุเทพบอกว่านายสมเกียรติมาขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ถือว่าไม่ทำตามแนวทางของพรรคนั้น อยากถามว่า แนวทางของพรรคประชาธิปัตย์คืออะไร ถ้าไม่ใช่พรรคโจรร่วมโจร พรรคคุณไม่ใช่พรรคเทวดา แต่เป็นพรรคมหาโจร หัวหน้าพรรคก็เป็นหัวหน้าโจรเต็มตัวแล้ว เป็นพรรคที่โกหกหลอกลวงตอแหลจนประชาชนจับได้ ยังมาบอกว่านายสมเกียรติไม่ใช่แนวทางของพรรค ก็ไม่ใช่ เพราะแนวทางของประชาธิปัตย์คือขายชาติโกงแผ่นดิน ใครอยากจะอยู่กับพรรคคุณ

นายสนธิกล่าวต่อว่า ในการประชุมแกนนำนอกรอบวันนี้ นายสมเกียรติบอกว่าจะมีมติอย่างไรก็พร้อมที่จะทำตาม ที่ประชุมแกนนำก็มีมติว่าให้อยู่กวนตีนมันเล่นๆ ถ้าอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ให้ยกมือสวนไปเลย คนอย่างนายสุเทพไม่ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาหัวตัวเอง ยังมาบอกว่านายสมเกียรติไม่ทำตามแนวทางพรรค นายสมเกียรติชัดเจนอยู่แล้วในทางรักชาติรักแผ่นดิน ไม่ใช่โกงชาติโกงแผ่นดินอย่างคุณ แนวทางของพรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างไร อยากจะบอกว่า หัวหน้าพรรคของคุณเรียนจบกระบวนท่าการเป็นหัวหน้าโจรแล้ว ที่เอแบคโพลล์ออกผลสำรวจว่า ประชาชน 58% จะไม่เลือกพรรคไหนนั้น นายสุเทพไม่ดูว่าเป็นเพราะเขาเบื่อนักการเมืองอย่างพวกคุณ คะแนนนิยมของพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยได้ 40 กว่าเปอร์เซ็นต์ เหลือ 17% ก็เพราะว่าเขาไม่โง่

นายสนธิได้กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เคยอภิปรายไม่ไว้วางใจนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2551 ซึ่งได้ลงท้ายด้วยการสรุปข้อกล่าวหานายสมัคร 9 ข้อว่า ทั้ง 9 ข้อนั้น นายอภิสิทธิ์ก็ทำเหมือนกัน เริ่มจากข้อแรก นายสมัครทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความคาดหวังของประชาชน ใช้โอกาสในการตั้งรัฐบาลรับใช้อดีตนักการเมืองผู้สูญเสียผลประโยชน์อย่างไม่ลืมหูลืมตา และไม่ใส่ใจต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนในบ้านเมือง แต่วันนี้นายอภิสิทธิ์ก็ไม่ต่างจากนายสมัคร ขึ้นเป็นนายกฯ ก็เพราะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลากคอพรรคร่วมรัฐบาลเข้าไปคุยในค่ายทหารแล้วบอกว่าถ้าไม่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลจะทำรัฐประหาร นายอภิสิทธิ์ก็รู้อยู่แก่ใจว่านายสุเทพ นายเนวิน ชิดชอบ เป็นคนออกแบบมา

นายอภิสิทธิ์บอกว่า นายสมัครตอบสนองอดีตนักการเมืองโดยไม่ลืมหูลืมตาโดยไม่สนใจเสียงวิพากษ์วิจารณ์ แต่นายอภิสิทธิ์ก็ไม่สนใจเสียงวิพากษ์วิจารณ์เหมือนกัน มีการตั้งคนของอดีตนักการเมืองที่สนับสนุนให้เขาเป็นนายกฯ ให้เป็นรัฐมนตรีโดยไม่สนใจเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของสังคม ไม่ว่าจะเป็นการตั้ง พล.อ.ประวิตร เป็น รมว.กลาโหม ตั้งนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรครวมใจชาติพัฒนาของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็น รมช.คลัง ตั้งนายธีระ วงศ์สมุทร คนของนายบรรหาร ศิลปอาชา เป็น รมว.เกษตรฯ ตั้งนายโสภณ ซารัมย์ ครูบ้านนอกที่เป็นคนของนายเนวินมาเป็น รมว.คมนาคม ตั้งนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ เป็น รมช.คมนาคม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็น รมว.มหาดไทย ตั้งนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ เป็น รมช.มหาดไทย ซึ่งคนเหล่านี้เป็นคนของนายเนวินทั้งสิ้น

นอกจากนี้ยังตั้งนางพรทิวา นาคาศัย ลูกสาวเจ้าของอาบอบนวดเป็น รมว.พาณิชย์ ตั้งนางระนองรักษ์ สุวรรณฉวี เป็น รมช.ไอซีที ตั้ง น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ เป็น รมช.ศึกษาฯ ซึ่งเป็นหลังบ้านนักการเมือง โดยไม่สนใจเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ดังนั้น นายอภสิทธิ์ก็ไม่ต่างจากนายสมัคร เหมือนเขากำลังด่าหมาว่าถ่ายกลางถนน แต่เขาก็กำลังรูดซิปเยี่ยวรดกำแพง เลือกคนไม่มีความสามารถ หรือมีความสามารถไม่ตรงกับสายงานมาเป็นรัฐมนตรี และเลือกกระทรวงหลักให้พรรคร่ามรัฐบาล ทั้งที่บางกระทรวงจำเป็นต้องดูแลเรื่องปากท้องของประชาชน แต่นายอภิสิทธิ์ก็ไม่สนใจ ไปสนใจพรรคร่วมรัฐบาลมากกว่า เพราะฉะนั้นการที่เขาด่านายสมัครก็เหมือนการถ่มน้ำลายรดหน้าตัวเอง

ข้อที่ 2 นายอภิสิทธิ์ด่านายสมัครว่า นำบุคคลไม่มีวุฒิภาวะ มีผลประโยชน์ทับซ้อน มีพฤติกรรมเป็นอันธพาล และสมุนอดีตนักการเมืองผู้สูญเสียประโยชน์มาเป็นรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการพูดที่เขาไม่ได้คิดว่าวันหนึ่งต้องตั้งนายสุเทพเป็นรองนายกฯ ซึ่งนายสุเทพมีผลประโยชน์ทับซ้อน มีอิทธิพลทางการเมือง ไปเป็นประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์ม แล้วก็ปั่นราคาน้ำมันปาล์มทำให้น้ำมันปาล์มขึ้นราคาเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มทุนน้ำมันปาล์มในภาคใต้ที่เป็นพรรคพวก ปัญหานี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2553 นายอภิสิทธิ์ปล่อยให้ลุกลามจนประชาชนต้องเข้าคิวซื้อ แล้วกำลังจะลุกลามไปถึงน้ำมันถั่วเหลืองที่ขาดตลาดและอีกหน่อยจะขึ้นราคา อย่างนี้เรียกว่าใช้อิทธิพลหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีกรณีที่นายชวรัตน์ โยกย้ายคนของตัวเองมาเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย จนนายวงศ์ศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ปลัดคนเก่าต้องไปร้อง ก.พ. และ ก.พ.ก็มีมติแล้วว่าให้นายวงศ์ศักดิ์กลับมาเป็นเหมือนเดิม ซึ่งนายชวรัตน์ก็บอกว่าขอศึกษาดูก่อน นายชวรัตน์แก่แล้ว บริหารไม่เป็น แทนที่จะอยู่บ้านเลี้ยงหลาน ก็มาเป็นหุ่นเชิดให้เขา

นอกจากนี้ยังมีกรณีปล่อยให้น้องชายนายเนวินมามีอิทธิพลในกระทรวงมหาดไทย นายวรรณรัตน์ ชาญนุกล คนของนายสุวัจน์ เป็น รมว.พลังงานก็เข้ามาดูแลธุรกิจพลังงานให้นายสุวัจน์ นางพรทิวา คนของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน เข้ามาเป็น รมว.พาณิชย์เพื่อหาประโยชน์ในการประมูลข้าว ส่วนที่ให้นายโสภณมาเป็น รมว.คมนาคม ก็มีการแต่งตั้งนายศรีสุข จันทรางศุ อดีตปลัดกระทรวงคมนาคมที่มีเรื่องร้องเรียนเต็มไปหมด นายเนวินก็เอามาเป็นประธานเพื่อฟื้นฟูธุรกิจการบินและการท่องเที่ยวของการบินไทย โดยที่นายอภสิทธิ์ก็ยอม เพราะนายเนวินสนับสนุนเขาเป็นนายกฯ ขณะที่กระทรวงคมนาคมก็มีแต่เรื่องโกงเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นถนนปลอดฝุ่น เช่ารถเมล์เอ็นจีวี สร้างท่าเทียบเรือน้ำลึก นายอภิสิทธิ์ไม่สามารถจัดการได้แม้แต่เรื่องเดียว นายอภิสิทธิ์จึงเลวไม่ต่างจากนายสมัคร

ข้อกล่าวหาที่ 3 นายอภิสิทธิ์บอกว่า นายสมัครให้รัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลบริหารราชการตามอำเภอใจ แต่นายอภิสิทธิ์ก็ปล่อยให้รัฐมนตรีขี้โกงบริหารตามอำเภอใจเหมือนกัน แล้วยังกล่าวหานายสมัครว่าโยกย้ายข้าราชการที่ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน แล้วใครที่ปล่อยให้รัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลโยกย้ายข้าราชการอย่างไม่เป็นธรรม โดยที่ไม่เคยตรวจสอบ กำกับ หรือลงโทษ บริหารงานไร้ทิศทาง ไม่มีเอกภาพ บางเรื่องนายอภิสิทธิ์บอกว่าไม่ได้ แต่เมื่อนายสุเทพออกมาสวน นายอภิสิทธิ์ก็เงียบ เหมือนกับเล่นละครลิงขาวลิงดำ ตั้งแต่นายอภสิทธิ์มาเป็นนายกฯ ราคาสินค้าเกษตรยังคงเดิม แต่ข้าวของราคาแพงขึ้น เอาประโยชน์ให้พวกพ้องจนหมิ่นเหม่ต่อการเสียอธิปไตย ที่เคยอภิปรายนายสมัครเรื่องเขาพระวิหาร วันนี้ก็ทำตรงกันข้ามกับที่เคยอภิปราย โกหกออกช่อง 11 จ้างคนมาให้ข้อมูลเท็จ

ข้อกล่าวหาที่ 4 นายอภิสิทธิ์ บอกว่านายสมัครปกป้องการกระทำผิดของพวกพ้องตัวเอง แต่นายอภิสิทธิ์เมื่อเข้ามาเป็นนายกฯ ก็ปล่อยให้มีการแต่งตั้งปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่โดยเอาคนของนายสุเทพมาเป็น ปล่อยให้นายชวรัตน์แต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรมจนมีการร้องเรียนนับสิบๆ ราย มีการทุจริตโครงการชุมชนพอเพียง แล้วก็ไล่ออกแต่พวกตัวเล็กๆ แต่คนในทำเนียบไม่ยอมแตะต้อง การระบายสต๊อกข้าวก็เอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอ็มพีอินเตอร์เทรด ของนายสมศักดิ์ นี่หรือที่นายสุเทพบอกว่าเป็นแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์

ข้อ 5 นายอภิสิทธิ์กล่าวหานายสมัครว่าให้ท้ายผู้ใต้บังคับบัญชาที่ทำผิดอย่างออกนอกหน้า ปกป้องรัฐมนตรีที่มีทัศนะเป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คือนายจักรภพ เพ็ญแข แต่นายอภิสิทธิ์ทำอะไรกับนายจักรภพบ้าง เคยติดต่อต่างชาติให้ส่งนายจักรภพกลับหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณจะต้องถูกถอดยศแต่ก็ยังเหมือนเดิม นอกจากนี้ยังไม่สามารถจัดการกับขบวนการล้มเจ้าได้ ยังมีวิทยุชุมชน ใบปลิวเท็จ ตัดต่อภาพเผยแพร่ทางยูทูบและอินเทอร์เน็ตจำนวนมาก นักวิชาการที่มีทัศนะอันตรายก็ยังเอางบประมาณ 7.1 ล้านบาทไปให้ทำวิจัย

ข้อ 6 นายอภิสิทธิ์ด่านายสมัครว่าท่ามกลางวิกฤติที่รุนแรงนายสมัครยังบริหารประเทศไปวันๆ ไม่ใส่ใจปัญหาปากท้องของชาวบ้าน ปล่อยปะละเลยจนปัญหาลุกลาม เกิดข้าวยากหมากแพง รายได้ของประชาชนลดลงแต่รายจ่ายเพิ่ม แล้ววันนี้ของแพงหรือไม่ ขณะที่รายได้ของประชาชนก็ไม่ได้เพิ่มเลย ที่ด่านายสมัครไว้ กรรมก็ตามสนองมาด่าตัวเอง 2 ปีที่นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ รายได้ต่อครัวเรือนเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 11 แต่หนี้ต่อครัวเรือนเพิ่มขึ้นร้อยละ 16 ที่ด่าว่านายสมัครทำให้ของแพงประชาชนขาดรายได้นั้น ราวกับว่านายอภิสิทธิ์ด่าตัวเองไว้ล่วงหน้า

ข้อ 7 นายอภิสิทธิ์ด่านายสมัครว่า ไม่ใส่ใจความเดือดร้อนของประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนสถานการณ์มีแนวโน้มร้ายแรง แต่เมื่อดูข้อเท็จจริงเมื่อนายอภิสิทธิ์มาเป็นนายกฯ ปี 2552 เกิดเหตุการณ์รุนแรง 919 ครั้ง เสียชีวิต 514 คน ปี 2553 เกิดเหตุการณ์ 922 ครั้ง เสียชีวิต 624 คน ปี 2554 แม้จำนวนเหตุการณ์น้อยลงแต่ก็มีปฏิบัติการที่รุนแรงขึ้น เช่นการถล่มฐานพระองค์ดำและปล้นปืนไปจำนวนมาก ส่วนสถิติตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ถึง 3 ก.พ.54 เกิดเหตุการณ์ 147 ครั้ง เสียชีวิต 93 คน บาดเจ็บ 172 คน ทั้งที่ก่อนนายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ได้โจมตีทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งนายสมัคร ว่าแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ได้ แต่นายอภิสิทธิ์ลืมไปหรือเปล่าที่บอกว่า ถ้าได้เป็นนายกฯ จะทำให้ภาคใต้ดีขึ้นภายใน 99 วัน แต่อยู่มา 3 ปี 800 กว่าวันแล้ว ยังแก้ไม่ได้ จึงเป็นการโกหกประจำวันไปเลย

ข้อ 8 นายอภิสิทธิ์ กล่าวหานายสมัครว่า แม้ปัญหาประเทศลุกลามบานปลาย นายสมัครยังเฉยเมยมองข้าม มุ่งแต่สนองตอบผู้บงการเบื้องหลังและช่วยเหลือผู้มีพระคุณทางการเมือง แต่ทุกวันนี้ เรามีปัญหาวิกฤตเสียดินแดน ข้าวของแพง การฉ้อราษฎร์บังหลวงที่รุกเข้ามา แต่นายอภิสิทธิ์ยังมัวสนใจแต่เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้พรรคพวกตัวเองได้รับเลือกตั้งเข้ามา แก้มาตรา 190 ให้เสียดินแดนได้อย่างแนบเนียนมากขึ้น อย่างนี้แตกต่างกันตรงไหน เชื้อชั่วเหมือนกันเลย

ข้อ 9 นายอภิสิทธิ์กล่าวหาว่าตลอดเวลานายสมัครใช้ฐานะนายกรัฐมนตรีแสดงออกต่อสาธารณะอย่างไร้วุฒิภาวะ ใช้โมหะ เอาอารมณ์เป็นเจ้าเรือน นายอภิสิทธิ์เองก็ไม่เคยแสดงภาวะผู้นำ ตั้งแต่เป็นนายกฯ ถูกไล่เหมือนหมูเหมือนหมาที่พัทยา อธิปไตยเหนือเขาพระวิหารที่ต้องปกป้อง นายอภิสิทธิ์มีภาวะผู้นำไหม มีแต่เลียก้นนายฮุนเซน

นายสนธิกล่าวว่า นายอภิสิทธิ์จึงเป็นตัวอย่างนักการเมืองจอมโกหก จอมสร้างภาพ ถูกพวกเราจับโกหกได้นับไม่ถ้วน เช่น ว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยการทำประชาพิจารณ์ บอกว่ายังไม่เสียดินแดน ยังไม่ถอนทหารออกจากวัดแก้วฯ หมกเม็ดแก้ไขมาตรา 190 อ้างว่าจะยึดหลักนิติรัฐ จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจ กรณี 7 คนไทยถูกจับว่าจะต้องช่วยให้ออกมาให้ได้ นี่เป็นแค่ตัวอย่าง 9 ข้อที่ด่านายสมัคร นายอภิสิทธิ์ก็ทำเป็นลืม และเท่ากับด่าตัวเอง ซึ่งที่จริงนายอภิสิทธิ์เป็นคนที่ชอบโกหกตอแหลมานาน ไม่ใช่เพิ่งจะมาโกหกตอนนี้

“วันนี้เราโดนคนขายชาติโกงบ้านเมืองขู่ว่าจะสลายพวกเราวันเว้นวัน พี่น้องต้องสู้ อย่าถอยเป็นอันขาด ถอยไม่ได้ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ให้มันรู้ไปว่าคนรักบ้านเมืองจะโดนตำรวจที่รับใช้นักการเมืองชั่วพรรคการเมืองชั่วอย่างพรรคประชาธิปัตย์มาขับไล่พวกเราไป” นายสนธิกล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น