ก่อนเหตุการณ์ปลุกระดมคนเสื้อแดงให้ลุกฮือขึ้นมาเผาบ้านเผาเมือง เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเคยประกาศไว้ ถ้าเสียงปืนนัดแรกดังขึ้นเมื่อไหร่ จะกลับมาประเทศไทย ร่วมกับพี่น้องคนเสื้อแดงต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
แต่เมื่อเกิดการณ์ความรุนแรง เสียงปืนดังขึ้นหลายนัด พ.ต.ท.ทักษิณก็หายหัว และอพยพครอบครัวหนีเอาตัวรอดออกนอกประเทศ ปล่อยให้พี่น้องคนเสื้อแดงไปตายแทน
คำพูดโกหกติดเป็นนิสัยของพ.ต.ท.ทักษิณไปแล้ว และเป็นนิสัยที่แก้ไม่หาย แม้บางครั้งคำโกหกแทบจะมัดคอตายก็ตาม โดยล่าสุด ก็เผลอพูดโกหกขึ้นมาอีก และเป็นคำโกหกที่จะมัดคอตัวเองอีกครั้ง
ร่างพ.ร.บ.ปรองดองที่ต้องสะดุด แผนการลบล้างความผิดให้คนโกงที่ล้มพับ การคืนเงิน 46,000 ล้านบาทให้กับคนที่ปล้นประเทศไม่บรรลุเป้าหมาย ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณหงุดหงิด โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง จนเผลอตัวโกหกอีก
การชุมนุมครบรอบ 2 ปี การเผาบ้านเผาเมืองในเหตุการณ์ 19 พฤษภาคม 2553 พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินประกาศกับคนเสื้อแดงว่า จะพูดเป็นครั้งสุดท้าย แต่การปลุกระดมคนเสื้อแดงมาชุมนุมแสดงพลัง เมื่อวันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณก็โฟนอินเข้ามาอีก
การโกหกว่า จะโฟนอินเข้ามาครั้งสุดท้ายแล้ว นั่นไม่เท่าไหร่ เพราะรู้อยู่แล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณอดไม่ได้แน่ และต้องโฟนอินเข้ามาปลุกระดมแน่ ในยามที่ต้องการใช้คนเสื้อแดง
แต่การพูดถึงเงิน 46,000 ล้านบาท ที่ลูกสมุนกำลังเคลื่อนไหวเรียกคืนให้นั้น เป็นอีกครั้งที่ทำให้ทุกคนจับได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณกำลังแหกตา
เงินจำนวน 46,000 ล้านบาทที่ศาลสั่งยึด พ.ต.ท.ทักษิณเคยพูดไว้ ไม่สนใจจะเรียกคืน แต่การโฟนอินครั้งล่าสุดกลับไม่ปฏิเสธที่จะขอรับคืน แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นอีก
เพราะประเด็นอยู่ที่การยืนยันว่า เงินที่ถูกยึดไป เป็นเงินที่ได้มาอย่างสุจริตจากการประกอบธุรกิจ โดยอ้างว่า ก่อนเข้ามาเล่นการเมือง ก็มีเงินอยู่กว่า 60,000 ล้านบาท แถมท้าให้ไปสอบถามข้อเท็จจริงจากพล.ต.จำลอง ศรีเมือง ซึ่งเป็นผู้ชักชวนให้เข้าพรรคพลังธรรม และได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสียด้วย
พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง สูงจนพูดโดยไม่คิดหรือเที่ยวพูดไปทั่ว ซึ่งบางครั้งพูดไปแล้วก็ทำให้เกิดผลเสีย เกิดภาพลักษณ์ด้านลบต่อตัวเอง หรือพูดแล้วทำลายน้ำใจฐานมวลชนคนเสื้อแดง จนลูกสมุนต้องออกมาแก้ตัวหลายครั้งแล้ว
การอวดอ้างว่ารวยก่อนเล่นการเมือง มีเงินกว่า 60,000 ล้านบาท ก่อนเป็นรัฐมนตรี ก็ไม่ต่างจากการแหกตาว่า รวยแล้วไม่โกง
ช่วงที่อยู่พรรคพลังธรรม และได้เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ พ.ต.ท.ทักษิณต้องรายงานทรัพย์สินให้ ป.ป.ช.และใครที่ยังไม่ฉลาดพอที่จะรู้ว่าถูกพ.ต.ท.ทักษิณหลอก ลองไปเปิดบัญชีทรัพย์สินที่เคยแจ้งไว้กับ ป.ป.ช.ดู
ยอดความร่ำรวยที่สำแดง ถ้าจำไม่ผิดมีอยู่ประมาณ 20,000 ล้านบาทเท่านั้น จึงไม่รู้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณเอาตัวเลขอวดอ้างความร่ำรวยกว่า 60,000 ล้านบาทมาจากไหน
จะแหกตาว่ารวยมาก่อน เพื่อสร้างความชอบธรรมในการขอคืน เรียกความสงสารจากคนเสื้อแดง หรือว่าถ้ารวยจริง ก็แสดงว่า พ.ต.ท.ทักษิณแอบซุกซ่อนทรัพย์สินไว้ เช่นเดียวกับการซุกหุ้นและซุกไว้ก็ไม่อาจทราบได้
พ.ต.ท.ทักษิณต้องโกหกในจุดใดจุดหนึ่งแน่ ไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จสมัยเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ ก็แหกตาว่ารวยมาก่อน เพื่อสร้างความชอบธรรมที่จะได้รับเงิน 46,000 ล้านบาทคืน
ถ้าจับโกหกกันแล้ว ต้องถือว่าพ.ต.ท.ทักษิณเป็นจอมโกหกตัวพ่อ เพียงแต่หลอกใครให้เชื่อไม่ได้แล้ว นอกจากหลอกคนเสื้อแดงเท่านั้น แต่คนเสื้อแดงบางส่วนก็เริ่มหูตาสว่างแล้ว จับโกหกของจอมลวงโลกคนนี้ได้
และคนที่ชอบโกหกปลิ้นปล้อนเก่ง ย่อมไม่ใช่คนดี แต่เป็นบุคคลอันตราย คบไม่ได้ ซึ่งคนเสื้อแดงบางส่วนก็เลิกคบพ.ต.ท.ทักษิณแล้ว
ความจงรักภักดีของมวลชนคนเสื้อแดงไม่เหนียวแน่นเหมือนเดิมแล้ว และกำลังเดินหันหลังให้พ.ต.ท.ทักษิณมากขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายคงเหลือเพียงลูกสมุนระดับ “ขี้คอก” ซึ่งจะกลายเป็นหมาหัวเน่าในสังคม
เหลือเพียงลูกสมุนที่ไม่สามารถเอาดีได้จากการเป็นคนดี จนต้องหันไปกราบแทบเท้าคนชั่วเพียงเพื่อให้ตัวเองยกฐานะจาก “ขี้คอก” หรือจากเศษสวะในสังคมได้มีตำแหน่งทางการเมืองเท่านั้น
จุดจบของจอมโกหกตัวพ่อคงอีกไม่ไกลแล้ว เพราะวาสนาของน้องสาวใกล้จะหมดลง โดยแม้ว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังมีตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ แต่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ก็มีฐานะไม่แตกต่างจากรัฐบาลโจร รัฐบาลเถื่อน และไม่มีความชอบธรรมที่จะเป็นรัฐบาลมากขึ้นทุกที
ประชาชนมีความชอบธรรมแล้วที่จะลุกฮือขึ้นขับไล่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ เพราะรัฐบาลชุดนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ได้นำอำนาจที่ประชาชนมอบไปใช้เพื่อช่วยล้างมลทินของพ.ต.ท.ทักษิณเพียงคนเดียว
รัฐบาลชุดนี้แสดงตัวชัดเจนแล้วว่า ไม่ยอมรับกฎหมาย ไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ และกำลังปลุกระดมกฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย
และรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ กำลังจุดชนวนความแตกแยกยุยงให้พี่น้องร่วมชาติเข่นฆ่ากัน เพื่อให้ตระกูลชินวัตร และบรรดาลูกสมุนขี้คอกได้เสวยสุขบนแผ่นดินไทย
รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ชะตาขาดแล้ว รอเพียงประชาชนลุกฮือขับไล่เท่านั้น
ส่วนชะตากรรมของพ.ต.ท.ทักษิณ ตัดสินกันที่การโกหกครั้งสุดท้าย ตัดสินกันว่า จะหลอกให้คนเสื้อแดงไปตายแทนอีกได้หรือไม่เท่านั้น
ถ้าพี่น้องคนเสื้อแดงทบทวนคำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณดู และคิดได้ว่า ไอ้หมอนี่เป็นจอมแหกตา ไอ้หมอนี่เป็นตัวอันตราย และไม่ยอมให้ไอ้หมอนี่หลอกใช้ต่อไป
ไม่เพียง “ทักษิณ” เพียงคนเดียวจะไม่มีแผ่นดินอยู่ ตระกูลชินวัตรทั้งตระกูลคงอยู่ประเทศไทยไม่ได้
ใครจะยอมให้ตระกูลที่ชั่วร้ายยุยงให้พี่น้องคนไทยฆ่ากันเอง เสวยสุขอยู่ต่อไปได้
แต่เมื่อเกิดการณ์ความรุนแรง เสียงปืนดังขึ้นหลายนัด พ.ต.ท.ทักษิณก็หายหัว และอพยพครอบครัวหนีเอาตัวรอดออกนอกประเทศ ปล่อยให้พี่น้องคนเสื้อแดงไปตายแทน
คำพูดโกหกติดเป็นนิสัยของพ.ต.ท.ทักษิณไปแล้ว และเป็นนิสัยที่แก้ไม่หาย แม้บางครั้งคำโกหกแทบจะมัดคอตายก็ตาม โดยล่าสุด ก็เผลอพูดโกหกขึ้นมาอีก และเป็นคำโกหกที่จะมัดคอตัวเองอีกครั้ง
ร่างพ.ร.บ.ปรองดองที่ต้องสะดุด แผนการลบล้างความผิดให้คนโกงที่ล้มพับ การคืนเงิน 46,000 ล้านบาทให้กับคนที่ปล้นประเทศไม่บรรลุเป้าหมาย ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณหงุดหงิด โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง จนเผลอตัวโกหกอีก
การชุมนุมครบรอบ 2 ปี การเผาบ้านเผาเมืองในเหตุการณ์ 19 พฤษภาคม 2553 พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินประกาศกับคนเสื้อแดงว่า จะพูดเป็นครั้งสุดท้าย แต่การปลุกระดมคนเสื้อแดงมาชุมนุมแสดงพลัง เมื่อวันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณก็โฟนอินเข้ามาอีก
การโกหกว่า จะโฟนอินเข้ามาครั้งสุดท้ายแล้ว นั่นไม่เท่าไหร่ เพราะรู้อยู่แล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณอดไม่ได้แน่ และต้องโฟนอินเข้ามาปลุกระดมแน่ ในยามที่ต้องการใช้คนเสื้อแดง
แต่การพูดถึงเงิน 46,000 ล้านบาท ที่ลูกสมุนกำลังเคลื่อนไหวเรียกคืนให้นั้น เป็นอีกครั้งที่ทำให้ทุกคนจับได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณกำลังแหกตา
เงินจำนวน 46,000 ล้านบาทที่ศาลสั่งยึด พ.ต.ท.ทักษิณเคยพูดไว้ ไม่สนใจจะเรียกคืน แต่การโฟนอินครั้งล่าสุดกลับไม่ปฏิเสธที่จะขอรับคืน แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นอีก
เพราะประเด็นอยู่ที่การยืนยันว่า เงินที่ถูกยึดไป เป็นเงินที่ได้มาอย่างสุจริตจากการประกอบธุรกิจ โดยอ้างว่า ก่อนเข้ามาเล่นการเมือง ก็มีเงินอยู่กว่า 60,000 ล้านบาท แถมท้าให้ไปสอบถามข้อเท็จจริงจากพล.ต.จำลอง ศรีเมือง ซึ่งเป็นผู้ชักชวนให้เข้าพรรคพลังธรรม และได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสียด้วย
พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง สูงจนพูดโดยไม่คิดหรือเที่ยวพูดไปทั่ว ซึ่งบางครั้งพูดไปแล้วก็ทำให้เกิดผลเสีย เกิดภาพลักษณ์ด้านลบต่อตัวเอง หรือพูดแล้วทำลายน้ำใจฐานมวลชนคนเสื้อแดง จนลูกสมุนต้องออกมาแก้ตัวหลายครั้งแล้ว
การอวดอ้างว่ารวยก่อนเล่นการเมือง มีเงินกว่า 60,000 ล้านบาท ก่อนเป็นรัฐมนตรี ก็ไม่ต่างจากการแหกตาว่า รวยแล้วไม่โกง
ช่วงที่อยู่พรรคพลังธรรม และได้เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ พ.ต.ท.ทักษิณต้องรายงานทรัพย์สินให้ ป.ป.ช.และใครที่ยังไม่ฉลาดพอที่จะรู้ว่าถูกพ.ต.ท.ทักษิณหลอก ลองไปเปิดบัญชีทรัพย์สินที่เคยแจ้งไว้กับ ป.ป.ช.ดู
ยอดความร่ำรวยที่สำแดง ถ้าจำไม่ผิดมีอยู่ประมาณ 20,000 ล้านบาทเท่านั้น จึงไม่รู้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณเอาตัวเลขอวดอ้างความร่ำรวยกว่า 60,000 ล้านบาทมาจากไหน
จะแหกตาว่ารวยมาก่อน เพื่อสร้างความชอบธรรมในการขอคืน เรียกความสงสารจากคนเสื้อแดง หรือว่าถ้ารวยจริง ก็แสดงว่า พ.ต.ท.ทักษิณแอบซุกซ่อนทรัพย์สินไว้ เช่นเดียวกับการซุกหุ้นและซุกไว้ก็ไม่อาจทราบได้
พ.ต.ท.ทักษิณต้องโกหกในจุดใดจุดหนึ่งแน่ ไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จสมัยเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ ก็แหกตาว่ารวยมาก่อน เพื่อสร้างความชอบธรรมที่จะได้รับเงิน 46,000 ล้านบาทคืน
ถ้าจับโกหกกันแล้ว ต้องถือว่าพ.ต.ท.ทักษิณเป็นจอมโกหกตัวพ่อ เพียงแต่หลอกใครให้เชื่อไม่ได้แล้ว นอกจากหลอกคนเสื้อแดงเท่านั้น แต่คนเสื้อแดงบางส่วนก็เริ่มหูตาสว่างแล้ว จับโกหกของจอมลวงโลกคนนี้ได้
และคนที่ชอบโกหกปลิ้นปล้อนเก่ง ย่อมไม่ใช่คนดี แต่เป็นบุคคลอันตราย คบไม่ได้ ซึ่งคนเสื้อแดงบางส่วนก็เลิกคบพ.ต.ท.ทักษิณแล้ว
ความจงรักภักดีของมวลชนคนเสื้อแดงไม่เหนียวแน่นเหมือนเดิมแล้ว และกำลังเดินหันหลังให้พ.ต.ท.ทักษิณมากขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายคงเหลือเพียงลูกสมุนระดับ “ขี้คอก” ซึ่งจะกลายเป็นหมาหัวเน่าในสังคม
เหลือเพียงลูกสมุนที่ไม่สามารถเอาดีได้จากการเป็นคนดี จนต้องหันไปกราบแทบเท้าคนชั่วเพียงเพื่อให้ตัวเองยกฐานะจาก “ขี้คอก” หรือจากเศษสวะในสังคมได้มีตำแหน่งทางการเมืองเท่านั้น
จุดจบของจอมโกหกตัวพ่อคงอีกไม่ไกลแล้ว เพราะวาสนาของน้องสาวใกล้จะหมดลง โดยแม้ว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังมีตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ แต่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ก็มีฐานะไม่แตกต่างจากรัฐบาลโจร รัฐบาลเถื่อน และไม่มีความชอบธรรมที่จะเป็นรัฐบาลมากขึ้นทุกที
ประชาชนมีความชอบธรรมแล้วที่จะลุกฮือขึ้นขับไล่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ เพราะรัฐบาลชุดนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ได้นำอำนาจที่ประชาชนมอบไปใช้เพื่อช่วยล้างมลทินของพ.ต.ท.ทักษิณเพียงคนเดียว
รัฐบาลชุดนี้แสดงตัวชัดเจนแล้วว่า ไม่ยอมรับกฎหมาย ไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ และกำลังปลุกระดมกฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย
และรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ กำลังจุดชนวนความแตกแยกยุยงให้พี่น้องร่วมชาติเข่นฆ่ากัน เพื่อให้ตระกูลชินวัตร และบรรดาลูกสมุนขี้คอกได้เสวยสุขบนแผ่นดินไทย
รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ชะตาขาดแล้ว รอเพียงประชาชนลุกฮือขับไล่เท่านั้น
ส่วนชะตากรรมของพ.ต.ท.ทักษิณ ตัดสินกันที่การโกหกครั้งสุดท้าย ตัดสินกันว่า จะหลอกให้คนเสื้อแดงไปตายแทนอีกได้หรือไม่เท่านั้น
ถ้าพี่น้องคนเสื้อแดงทบทวนคำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณดู และคิดได้ว่า ไอ้หมอนี่เป็นจอมแหกตา ไอ้หมอนี่เป็นตัวอันตราย และไม่ยอมให้ไอ้หมอนี่หลอกใช้ต่อไป
ไม่เพียง “ทักษิณ” เพียงคนเดียวจะไม่มีแผ่นดินอยู่ ตระกูลชินวัตรทั้งตระกูลคงอยู่ประเทศไทยไม่ได้
ใครจะยอมให้ตระกูลที่ชั่วร้ายยุยงให้พี่น้องคนไทยฆ่ากันเอง เสวยสุขอยู่ต่อไปได้