ASTVผู้จัดการรายวัน-แกนนำพันธมิตรฯ ปลุกประชาชนรับมือเสื้อแดงป่วน หากรัฐบ่มีไก๊ "จำลอง" ขอให้จับตาปฎิวัติ อย่าเพิ่งเชื่อว่าทหารจะไม่ทำ "พิภพ" แฉแผน "ทักษิณ" ต้องการให้รุนแรงเหมือนพฤษภาทมิฬ หวังผลนำไปสู่การนิรโทษกรรม "สมเกียรติ" ลั่นอาจได้เห็นชาวบ้านบางระจันยุคใหม่ปกป้องชุมชน
วันนี้ (9 มี.ค.) ที่บ้านพระอาทิตย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 4/2553 รวมพลังแผ่นดิน หยุดภัยคุกคามประเทศไทย เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลบังคับใช้กฎหมายป้องกันความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นจากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ขอให้ภาคประชาชนอย่าตกเป็นเหยื่อการบิดเบือนข่าวสาร และพันธมิตรจะไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ขอให้ทุกคน รวมทั้งประชาชนผู้รักชาติตั้งมั่นอยู่ในที่ตั้ง ติดตามสถานการณ์ และเตรียมพร้อมเคลื่อนไหวทันทีตลอดเวลา (อ่านแถลงการณ์ฉบับเต็มได้ที่ www.manager.co.th)
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า วานนี้ (9 มี.ค.) แกนนำพันธมิตรได้เรียกประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการเคลื่อนไหวของภาคประชาชน ซึ่งถ้ารัฐไม่สามารถจัดการอะไรได้ เราจึงต้องจำเป็นที่จะออกมาเคลื่อนไหวเอง ส่วนการกังวลว่าจะมีการทำรัฐประหารขึ้นนั้น เงื่อนไขการทำรัฐประหารอยู่ที่สถานการณ์ ซึ่งทหารก็จะต้องพิจารณาแล้วว่าสมควรกระทำหรือไม่ เพราะหากทำไปแล้วพลาดก็จะเป็นกบฏ ฉะนั้น อย่าไปเชื่อว่าจะไม่มี เพียงแต่เราต้องอย่าทำให้เกิดสถานการณ์เช่นนั้นก็แล้วกัน
"พวกเรารู้อยู่แล้ว ทหารจะทำต่อเมื่อจำเป็นจริงๆ เพราะการกระทำรัฐประหาร ถ้าไม่สำเร็จต้องถูกประหารชีวิต เป็นการเสี่ยงที่มากมายเกินไป เงื่อนไขมันอยู่ที่สถานการณ์ว่า สถานการณ์นั้นเป็นเงื่อนไขพอเพียงหรือเปล่า ที่จะทำการรัฐประหาร และไม่ใช่เฉพาะเงื่อนไขเท่านั้น ทหารต้องพิจารณาแล้ว เห็นว่า ถ้ามันจำเป็นจริงๆ เลี่ยงไม่จริงๆ เขาถึงจะทำ เพราะฉะนั้นอย่าไปเชื่อใครที่บอกว่า การรัฐประหาร การปฏิวัติจะไม่มีต่อไป ผมพูดมาตั้ง 20 กว่าปีแล้ว ไปดูเอกสารต่างๆ ได้ ในฐานะที่เป็นทหารคนหนึ่ง เพราะฉะนั้น เราไม่ต้องวิตกกังวล มันเป็นเรื่องการตัดสินใจของทหารเขา ว่า เขาจำเป็นหรือเปล่า ที่จะต้องทำ เราเพียงแต่อย่าทำให้เกิดสถานการณ์นั้น"พล.ต.จำลองกล่าว
นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า ขอเตือน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า กำลังเดินยุทธศาสตร์การเมืองที่ผิดพลาด เพราะกำลังทำลายชาติ และสังคม จากการที่กระทำตระบัดสัตย์ ไม่ยอมรับคำพิพากษาในคดียึดทรัพย์ 46,373 ล้านบาท ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งนักการเมือง ซึ่งถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการชี้นำเหตุการณ์ให้มีการเจรจาแบบช่วงพฤษภาทมิฬ ปี 2535 จนนำไปสู่การนิรโทษกรรมนั้น ถือว่าเป็นการเดินเกมที่ผิดพลาดมาก และถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่หยุดยั้งการกระทำก็จะถูกตราหน้าไว้ในประวัติศาสตร์ว่า เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีที่ทำลายชาติเป็นอย่างมาก ฉะนั้น ชุมชนจะต้องพร้อมที่จะปกป้องตัวเอง แต่ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย และทุกฝ่ายต้องยับยั้งชั่งใจ อย่าให้ตกเป็นเครื่องมือของ พ.ต.ท.ทักษิณ
ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ จะออกมาเคลื่อนไหวนั้น จะทำให้สถานการณ์บานปลายขึ้นหรือไม่ นายพิภพกล่าวว่า การเคลื่อนไหว จะคำนึงถึงสถานการณ์เป็นหลัก ซึ่งจะวิเคราะห์แล้วว่า จะไม่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง และยืนยันว่า การเตรียมพร้อมในที่นี้ ไม่ใช่เฉพาะแค่พันธมิตรฯ แต่หมายถึงประชาชนชาวไทยทั้งหมด ซึ่งหากมีการเคลื่อนไหวจะต้องทำให้ทุกอย่างคลี่คลายลงได้
“การออกมาในครั้งนี้ไม่ได้เลือกว่าจะต้องเป็นสีใด โดยตนเสนอให้รัฐใช้กฎหมายจัดการผู้กระทำความรุนแรงได้เต็มที่ แต่ไม่ใช่ยินยอมให้เข่นฆ่าประชาชน ซึ่งยังห่วงใยต่อทุกฝ่าย ไม่อยากให้มีการบาดเจ็บล้มตายลง และไม่อยากให้ใครก็ตามเป็นเหยื่อของความรุนแรง”นายพิภพกล่าว
ขณะที่นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า ระบอบทักษิณจะจบลงด้วยการเคลื่อนไหวของพลังทางศีลธรรม หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ประกาศตัวเป็นศัตรูต่อศาล ล้มล้างราชอาณาจักร ซึ่งจากนี้ อาจได้เห็นชาวบ้านบางระจันยุคใหม่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งในจังหวัดต่างๆ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ส่วนการที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงพยายามข่มขู่จะทำกรุงเทพฯ ให้เป็นทะเลเพลิง และให้เป็นอัมพาตนั้น ขอวอนให้ประชาชนที่เข้าร่วมกับกลุ่มเสื้อแดงอย่าตกเป็นเหยื่อ เพราะประชาชนกลุ่มอื่นอาจมีสิทธิ์ตอบโต้การกระทำดังกล่าวได้เช่นเดียวกัน ซึ่งหากรัฐบาล และกองทัพ ไม่สามารถจัดการป้องกันความรุนแรงได้ ประชาชนก็เป็นสิทธิ์ที่จะลุกขึ้นมาปกป้องบ้านเมืองด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ มองว่า แกนนำเสื้อแดงไม่มีใครที่จะกล้าตายแทน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ มีแต่จะหลอกให้ประชาชนมาเป็นเหยื่อเท่านั้น
“เป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ไร้ทางเลือก จะต้องยึดอำนาจรัฐให้ได้จึงมีตัวเลือก 2 ด้าน คือ ใช้ความรุนแรง และยุบสภา ซึ่งขณะนี้จากการประเมินศักยภาพรัฐที่เตรียมตั้งรับ และพร้อมจะรุกกลับโดยออก พ.ร.บ.ความมั่นคง ก็สบายใจได้อยู่บ้าง แต่ทั้งนี้ ก็ยังไม่สามารถวางใจได้”
ด้านนายอำนาจ พละมี แกนนำสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ กล่าวว่า สหภาพฯ จะไม่ยอมให้ใครทำกรุงเทพฯ ให้เป็นอัมพาตเด็ดขาด ซึ่งสหภาพฯ พร้อมที่จะทำทุกวิถีทางให้เกิดความสงบขึ้น เช่นเดียวกับ นายศิริชัย ไม้งาม แกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 ที่ยอมรับว่า ยังไม่สามารถประเมินได้ว่า กลุ่มเสื้อแดงจะมีการเคลื่อนไหวแบบใด ซึ่งสังคมไทยต้องพร้อมประณามพวกที่ใช้ความรุนแรง และเชื่อว่า กลุ่มคนเสื้อแดงพยายามสร้างเงื่อนไขให้เกิดรัฐประหารขึ้น ส่วนพันธมิตรฯ เองนั้น พยายามหลีกเลี่ยง
วันนี้ (9 มี.ค.) ที่บ้านพระอาทิตย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 4/2553 รวมพลังแผ่นดิน หยุดภัยคุกคามประเทศไทย เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลบังคับใช้กฎหมายป้องกันความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นจากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ขอให้ภาคประชาชนอย่าตกเป็นเหยื่อการบิดเบือนข่าวสาร และพันธมิตรจะไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ขอให้ทุกคน รวมทั้งประชาชนผู้รักชาติตั้งมั่นอยู่ในที่ตั้ง ติดตามสถานการณ์ และเตรียมพร้อมเคลื่อนไหวทันทีตลอดเวลา (อ่านแถลงการณ์ฉบับเต็มได้ที่ www.manager.co.th)
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า วานนี้ (9 มี.ค.) แกนนำพันธมิตรได้เรียกประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการเคลื่อนไหวของภาคประชาชน ซึ่งถ้ารัฐไม่สามารถจัดการอะไรได้ เราจึงต้องจำเป็นที่จะออกมาเคลื่อนไหวเอง ส่วนการกังวลว่าจะมีการทำรัฐประหารขึ้นนั้น เงื่อนไขการทำรัฐประหารอยู่ที่สถานการณ์ ซึ่งทหารก็จะต้องพิจารณาแล้วว่าสมควรกระทำหรือไม่ เพราะหากทำไปแล้วพลาดก็จะเป็นกบฏ ฉะนั้น อย่าไปเชื่อว่าจะไม่มี เพียงแต่เราต้องอย่าทำให้เกิดสถานการณ์เช่นนั้นก็แล้วกัน
"พวกเรารู้อยู่แล้ว ทหารจะทำต่อเมื่อจำเป็นจริงๆ เพราะการกระทำรัฐประหาร ถ้าไม่สำเร็จต้องถูกประหารชีวิต เป็นการเสี่ยงที่มากมายเกินไป เงื่อนไขมันอยู่ที่สถานการณ์ว่า สถานการณ์นั้นเป็นเงื่อนไขพอเพียงหรือเปล่า ที่จะทำการรัฐประหาร และไม่ใช่เฉพาะเงื่อนไขเท่านั้น ทหารต้องพิจารณาแล้ว เห็นว่า ถ้ามันจำเป็นจริงๆ เลี่ยงไม่จริงๆ เขาถึงจะทำ เพราะฉะนั้นอย่าไปเชื่อใครที่บอกว่า การรัฐประหาร การปฏิวัติจะไม่มีต่อไป ผมพูดมาตั้ง 20 กว่าปีแล้ว ไปดูเอกสารต่างๆ ได้ ในฐานะที่เป็นทหารคนหนึ่ง เพราะฉะนั้น เราไม่ต้องวิตกกังวล มันเป็นเรื่องการตัดสินใจของทหารเขา ว่า เขาจำเป็นหรือเปล่า ที่จะต้องทำ เราเพียงแต่อย่าทำให้เกิดสถานการณ์นั้น"พล.ต.จำลองกล่าว
นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า ขอเตือน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า กำลังเดินยุทธศาสตร์การเมืองที่ผิดพลาด เพราะกำลังทำลายชาติ และสังคม จากการที่กระทำตระบัดสัตย์ ไม่ยอมรับคำพิพากษาในคดียึดทรัพย์ 46,373 ล้านบาท ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งนักการเมือง ซึ่งถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการชี้นำเหตุการณ์ให้มีการเจรจาแบบช่วงพฤษภาทมิฬ ปี 2535 จนนำไปสู่การนิรโทษกรรมนั้น ถือว่าเป็นการเดินเกมที่ผิดพลาดมาก และถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่หยุดยั้งการกระทำก็จะถูกตราหน้าไว้ในประวัติศาสตร์ว่า เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีที่ทำลายชาติเป็นอย่างมาก ฉะนั้น ชุมชนจะต้องพร้อมที่จะปกป้องตัวเอง แต่ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย และทุกฝ่ายต้องยับยั้งชั่งใจ อย่าให้ตกเป็นเครื่องมือของ พ.ต.ท.ทักษิณ
ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ จะออกมาเคลื่อนไหวนั้น จะทำให้สถานการณ์บานปลายขึ้นหรือไม่ นายพิภพกล่าวว่า การเคลื่อนไหว จะคำนึงถึงสถานการณ์เป็นหลัก ซึ่งจะวิเคราะห์แล้วว่า จะไม่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง และยืนยันว่า การเตรียมพร้อมในที่นี้ ไม่ใช่เฉพาะแค่พันธมิตรฯ แต่หมายถึงประชาชนชาวไทยทั้งหมด ซึ่งหากมีการเคลื่อนไหวจะต้องทำให้ทุกอย่างคลี่คลายลงได้
“การออกมาในครั้งนี้ไม่ได้เลือกว่าจะต้องเป็นสีใด โดยตนเสนอให้รัฐใช้กฎหมายจัดการผู้กระทำความรุนแรงได้เต็มที่ แต่ไม่ใช่ยินยอมให้เข่นฆ่าประชาชน ซึ่งยังห่วงใยต่อทุกฝ่าย ไม่อยากให้มีการบาดเจ็บล้มตายลง และไม่อยากให้ใครก็ตามเป็นเหยื่อของความรุนแรง”นายพิภพกล่าว
ขณะที่นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า ระบอบทักษิณจะจบลงด้วยการเคลื่อนไหวของพลังทางศีลธรรม หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ประกาศตัวเป็นศัตรูต่อศาล ล้มล้างราชอาณาจักร ซึ่งจากนี้ อาจได้เห็นชาวบ้านบางระจันยุคใหม่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งในจังหวัดต่างๆ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ส่วนการที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงพยายามข่มขู่จะทำกรุงเทพฯ ให้เป็นทะเลเพลิง และให้เป็นอัมพาตนั้น ขอวอนให้ประชาชนที่เข้าร่วมกับกลุ่มเสื้อแดงอย่าตกเป็นเหยื่อ เพราะประชาชนกลุ่มอื่นอาจมีสิทธิ์ตอบโต้การกระทำดังกล่าวได้เช่นเดียวกัน ซึ่งหากรัฐบาล และกองทัพ ไม่สามารถจัดการป้องกันความรุนแรงได้ ประชาชนก็เป็นสิทธิ์ที่จะลุกขึ้นมาปกป้องบ้านเมืองด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ มองว่า แกนนำเสื้อแดงไม่มีใครที่จะกล้าตายแทน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ มีแต่จะหลอกให้ประชาชนมาเป็นเหยื่อเท่านั้น
“เป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ไร้ทางเลือก จะต้องยึดอำนาจรัฐให้ได้จึงมีตัวเลือก 2 ด้าน คือ ใช้ความรุนแรง และยุบสภา ซึ่งขณะนี้จากการประเมินศักยภาพรัฐที่เตรียมตั้งรับ และพร้อมจะรุกกลับโดยออก พ.ร.บ.ความมั่นคง ก็สบายใจได้อยู่บ้าง แต่ทั้งนี้ ก็ยังไม่สามารถวางใจได้”
ด้านนายอำนาจ พละมี แกนนำสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ กล่าวว่า สหภาพฯ จะไม่ยอมให้ใครทำกรุงเทพฯ ให้เป็นอัมพาตเด็ดขาด ซึ่งสหภาพฯ พร้อมที่จะทำทุกวิถีทางให้เกิดความสงบขึ้น เช่นเดียวกับ นายศิริชัย ไม้งาม แกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 ที่ยอมรับว่า ยังไม่สามารถประเมินได้ว่า กลุ่มเสื้อแดงจะมีการเคลื่อนไหวแบบใด ซึ่งสังคมไทยต้องพร้อมประณามพวกที่ใช้ความรุนแรง และเชื่อว่า กลุ่มคนเสื้อแดงพยายามสร้างเงื่อนไขให้เกิดรัฐประหารขึ้น ส่วนพันธมิตรฯ เองนั้น พยายามหลีกเลี่ยง