คกก.ญาติวีรชนพฤษภาทมิฬ ขอบคุณรัฐบาลที่มอบพื้นที่ให้มีก่อสร้างอนุสรณ์สถานวีรชนฯ และเร่งให้จัดสร้างให้แล้วเสร็จในรัฐบาลนี้ พร้อมเรีกยร้องให้รัฐบาลและกองทัพ อย่าใช้กำลังปราบปราม และเตือนกลุ่มเสื้อแดงอย่าพยายามยั่วยุเพื่อให้เกิดการเผชิญหน้า หวั่นซ้ำรอยเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ
วันนี้ (21 ก.พ.) คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภาคม 2535 ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง ท่าทีต่อสถานการณ์ปัจจุบันและการก่อสร้างอนุสรณ์สถานวีรชนเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2535 โดยมีในจความระบุว่า ตามที่สำนักงานกองสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ส่งมอบพื้นที่ ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของอาคารผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลคืนให้รัฐบาล เพื่อดำเนินการเข้าปรับปรุงพื้นที่ในการก่อสร้างอนุสรณ์สถานวีรชนประชาธิปไตยเหตุการณ์ 17-20 พฤษภาคม พ.ศ.2535 เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2553 ที่ผ่านมานั้น ประกอบกับสถานการณ์การเมืองที่เป็นอยู่ในขณะนี้ คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภาคม 2535 ขอแถลงท่าทีต่อกรณีดังกล่าว ดังนี้
1.เราขอขอบคุณรัฐบาล โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล บุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ผลักดันให้การดำเนินการก่อสร้างอนุสรณ์สถานวีรชนฯ มีความคืบหน้าในการดำเนินการอย่างรวดเร็วในรัฐบาลชุดนี้ พวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการก่อสร้างอนุสรณ์สถานวีรชนฯ จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จในรัฐบาลชุดปัจจุบัน อันจะเป็นอนุสรณ์เตือนสติแก่ผู้ใช้อำนาจรัฐทุกเหล่าทัพและหน่วยงาน ให้ยุติการใช้ความรุนแรงในการปราบปรามประชาชน เพื่อเป็นบทเรียนแก่ผู้ใช้ความรุนแรงทุกองค์กร ให้ตระหนักถึงความเจ็บปวดและสูญเสียของวีรชนบนคราบเลือดและชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ปลุกสติสังคมไทยให้ลุกขึ้นมาต่อต้านการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ
2.เราเห็นว่า แม้ความคืบหน้าในเกือบทุกด้านในการแก้ปัญหาของเหตุการณ์ประวัติศาสตร์เดือนพฤษภาคม 2535 อันเกิดจากการช่วยเหลือจากภาครัฐและสนับสนุนจากหน่วยงานเอกชนทุกภาคส่วน ทั้งการเยียวยาและชดใช้ความเสียหายให้แก่วีรชนและญาติวีรชน และการดำเนินการก่อสร้างอนุสรณ์สถานวีรชน ย่อมเป็นนิมิตหมายที่ดี ในการชำระล้างประวัติศาสตร์การต่อสู้ของประชาชนในเหตุการณ์ดังกล่าว ให้ได้รับการเชิดชูเกียรติและเกิดความเป็นธรรมอย่างแท้จริง แต่ความสำเร็จทั้งหมดจะยังเกิดขึ้นไม่ได้ ตราบใดที่ศพของวีรชนผู้สูญหาย ยังไม่ได้รับการการประกอบพิธีทางศาสนาของแต่ละครอบครัว ดังนั้น เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลและกองทัพเร่งคืนศพของวีรชนเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อให้ครอบครัวของญาตินำไปประกอบพิธีต่อไป
3.เราขอแสดงความกังวลและห่วงใยในสถานการณ์ความตึงเครียดของประเทศในปัจจุบัน อันอาจจะนำไปสู่การใช้ความรุนแรงปรามปราบประชาชนอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้สังคมไทยต้องสูญเสีย เหมือนเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516, 6 ตุลาคม 2519 และเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2535 พวกเราคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภาคม 2535 ในนามของเหยื่อผู้เจ็บปวดจากบาดแผล แห่งการใช้ความรุนแรงของอำนาจรัฐที่เคยปราบปรามประชาชนอย่างโหดเหี้ยม ขอเรียกร้องต่อรัฐบาลและกองทัพต้องแก้ปัญหามวลชนด้วยสันติวิธีเท่านั้น รัฐต้องยุติการใช้ความรุนแรงในการปรามประชาชนในทุกรูปแบบ และขอเรียกร้องต่อการเคลื่อนไหวของมวลชนทุกกลุ่ม ที่จะต้องไม่นำไปสู่เงื่อนไขให้เกิดความรุนแรง เพื่อร่วมกันฝ่าข้ามวิกฤติอย่างสันติต่อไป
ในตอนท้ายยังระบุว่า ญาติวีรชนจะรวมตัวกันเพื่อไปพบนายกรัฐมนตรีเพื่อแสดงการขอบคุณในวันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 09.00 น. ณ ทำเนียบรัฐบาล หลังจากจะเดินทางไปด้านหน้ากองทัพบกเพื่อทวงถามวีรชนผู้สูญหายจากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬและขอให้กองทัพแสดงจุดยืนในการดูแลประชาชนที่กำลังจะมีการชุมนุมเรื่องการใช้กำลัง
วันนี้ (21 ก.พ.) คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภาคม 2535 ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง ท่าทีต่อสถานการณ์ปัจจุบันและการก่อสร้างอนุสรณ์สถานวีรชนเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2535 โดยมีในจความระบุว่า ตามที่สำนักงานกองสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ส่งมอบพื้นที่ ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของอาคารผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลคืนให้รัฐบาล เพื่อดำเนินการเข้าปรับปรุงพื้นที่ในการก่อสร้างอนุสรณ์สถานวีรชนประชาธิปไตยเหตุการณ์ 17-20 พฤษภาคม พ.ศ.2535 เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2553 ที่ผ่านมานั้น ประกอบกับสถานการณ์การเมืองที่เป็นอยู่ในขณะนี้ คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภาคม 2535 ขอแถลงท่าทีต่อกรณีดังกล่าว ดังนี้
1.เราขอขอบคุณรัฐบาล โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล บุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ผลักดันให้การดำเนินการก่อสร้างอนุสรณ์สถานวีรชนฯ มีความคืบหน้าในการดำเนินการอย่างรวดเร็วในรัฐบาลชุดนี้ พวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการก่อสร้างอนุสรณ์สถานวีรชนฯ จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จในรัฐบาลชุดปัจจุบัน อันจะเป็นอนุสรณ์เตือนสติแก่ผู้ใช้อำนาจรัฐทุกเหล่าทัพและหน่วยงาน ให้ยุติการใช้ความรุนแรงในการปราบปรามประชาชน เพื่อเป็นบทเรียนแก่ผู้ใช้ความรุนแรงทุกองค์กร ให้ตระหนักถึงความเจ็บปวดและสูญเสียของวีรชนบนคราบเลือดและชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ปลุกสติสังคมไทยให้ลุกขึ้นมาต่อต้านการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ
2.เราเห็นว่า แม้ความคืบหน้าในเกือบทุกด้านในการแก้ปัญหาของเหตุการณ์ประวัติศาสตร์เดือนพฤษภาคม 2535 อันเกิดจากการช่วยเหลือจากภาครัฐและสนับสนุนจากหน่วยงานเอกชนทุกภาคส่วน ทั้งการเยียวยาและชดใช้ความเสียหายให้แก่วีรชนและญาติวีรชน และการดำเนินการก่อสร้างอนุสรณ์สถานวีรชน ย่อมเป็นนิมิตหมายที่ดี ในการชำระล้างประวัติศาสตร์การต่อสู้ของประชาชนในเหตุการณ์ดังกล่าว ให้ได้รับการเชิดชูเกียรติและเกิดความเป็นธรรมอย่างแท้จริง แต่ความสำเร็จทั้งหมดจะยังเกิดขึ้นไม่ได้ ตราบใดที่ศพของวีรชนผู้สูญหาย ยังไม่ได้รับการการประกอบพิธีทางศาสนาของแต่ละครอบครัว ดังนั้น เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลและกองทัพเร่งคืนศพของวีรชนเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อให้ครอบครัวของญาตินำไปประกอบพิธีต่อไป
3.เราขอแสดงความกังวลและห่วงใยในสถานการณ์ความตึงเครียดของประเทศในปัจจุบัน อันอาจจะนำไปสู่การใช้ความรุนแรงปรามปราบประชาชนอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้สังคมไทยต้องสูญเสีย เหมือนเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516, 6 ตุลาคม 2519 และเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2535 พวกเราคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภาคม 2535 ในนามของเหยื่อผู้เจ็บปวดจากบาดแผล แห่งการใช้ความรุนแรงของอำนาจรัฐที่เคยปราบปรามประชาชนอย่างโหดเหี้ยม ขอเรียกร้องต่อรัฐบาลและกองทัพต้องแก้ปัญหามวลชนด้วยสันติวิธีเท่านั้น รัฐต้องยุติการใช้ความรุนแรงในการปรามประชาชนในทุกรูปแบบ และขอเรียกร้องต่อการเคลื่อนไหวของมวลชนทุกกลุ่ม ที่จะต้องไม่นำไปสู่เงื่อนไขให้เกิดความรุนแรง เพื่อร่วมกันฝ่าข้ามวิกฤติอย่างสันติต่อไป
ในตอนท้ายยังระบุว่า ญาติวีรชนจะรวมตัวกันเพื่อไปพบนายกรัฐมนตรีเพื่อแสดงการขอบคุณในวันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 09.00 น. ณ ทำเนียบรัฐบาล หลังจากจะเดินทางไปด้านหน้ากองทัพบกเพื่อทวงถามวีรชนผู้สูญหายจากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬและขอให้กองทัพแสดงจุดยืนในการดูแลประชาชนที่กำลังจะมีการชุมนุมเรื่องการใช้กำลัง