กองสลากฯ มอบพื้นที่กว่า 2 ไร่ บนถนนราชดำเนินให้กทม. นำไปสร้างสวนสาธารณะพร้อมทำอนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม 2535 เพื่อใช้เป็นเครื่องเตือนสติกองทัพอย่าใช้กำลัง-ความรุนแรงกับประชาชนแต่ให้ยึดความอดทนเป็นที่ตั้ง ขณะที่กทม.หวั่นเบิกงบไม่ทันสร้าง 17 พ.ค.นี้ ชี้เหตุต้องรอคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่าอนุมัติแบบการก่อสร้างอย่างเป็นทางการก่อน
เมื่อวันที่ 19 ก.พ. สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้มีการส่งมอบพื้นที่ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของอาคารผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 2 ไร่เศษ บนถนน.ราชดำเนิน ให้กับกรุงเทพมหานคร(กทม.) หวังให้พัฒนาพื้นที่ดังกล่าวเป็นสวนสาธารณะและพื้นที่ของอนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม 2535 โดยนายโคทม อารียา ประธานมูลนิธิพฤษภาประชาธรรม กล่าวว่า ในการเข้าใช้พื้นที่ดังกล่าวนั้นขณะนี้ไม่มีปัญหาทางด้านผู้ค้าสลากแล้ว เพราะทางสำนักงานสลากฯ มูลนิธิ ได้เข้าไปทำความเข้าใจกันแล้ว โดยหลังจากส่งมอบไปจนถึงวันที่ 17 พ.ค. นี้ผู้ค้าสามารถที่จะใช้พื้นที่ปัจจุบันได้ แต่เมื่อถึงวันที่กทม.เข้ามาปรับปรุงพื้นที่ ซึ่งตามแผนคือวันที่ 17 พ.ค. ผู้ค้าสลากจะต้องย้ายออกทันที เบื้องต้นทางกองสลากฯได้ทำสถานที่ขายชั่วคราว ไว้ที่บริเวณลานจอดรถ ให้ผู้ค้าขายก่อนที่จะย้ายไปอยู่ยังสำนักงานสลากฯ แห่งใหม่ ที่ตั้งอยู่สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี ซึ่งตามแผนก่อสร้างที่ทางวิศวกรผู้ออกแบบกำหนดคือต้องแล้วเสร็จภายใน 8 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. ซึ่งหลังจากที่กทม.ได้รับมอบพื้นที่แล้วก็ต้องไปจัดหางบประมาณดำเนินการประมาณ 27 ล้านบาท เพื่อสร้างสวน ส่วนประติมากรรมอนุสรณ์ฯ นั้น ทางมูลนิธิ และญาติวีรชน จะเป็นผู้ระดมทุนเพื่อจัดสร้างเบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบ 3-4 ล้านบาท
ขณะที่นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 กล่าวว่า การส่งมอบพื้นที่ดังกล่าวเพื่อสร้างอนุสรณ์ฯ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ทุกฝ่าย อาทิ รัฐบาล กทม. สำนักงานสลากฯ และผู้ค้าได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งตนมองว่าการสร้างอนุสรณ์ฯ ดังกล่าวถือว่าจะเป็นเครื่องเตือนสติที่ดีที่สุดสำหรับกองทัพว่าไม่ควรใช้กำลัง หรือความรุนแรงกับประชาชน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ไม่นิยมความรุนแรง และการแก้ไขปัญหาต้องใช้ความอดทนให้มากกว่าปกติ
ด้านผู้แทนของกทม. จากเขตพระนคร เปิดเผยว่าหลังจากนี้จะนำเรื่องดังกล่าวรายงานถึงม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. อย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง เพื่อมอบหมายให้สำนักงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง หรือทำรายละเอียดงานที่เกี่ยวข้อง เช่น จัดหาผู้รับเหมา การขอจัดสรรงบประมาณ เป็นต้น
แหล่งข่าวจากกทม. ที่ดูแลเรื่องดังกล่าว เปิดเผยว่า ไม่แน่ใจว่าวันที่ 17 พ.ค.นี้จะสามารถหาผู้รับเหมาเข้ามาทำงานได้ทันหรือไม่ เพราะขณะนี้ยังไม่ได้มีการเบิกจ่ายงบประมาณส่วนดังกล่าว เนื่องจากต้องรอให้คณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่า อนุมัติแบบการก่อสร้างอย่างเป็นทางการ เพราะพื้นที่ดังกล่าวถือว่าอยู่ในพื้นที่ที่ต้องขอความเห็นชอบ ซึ่งแบบที่ได้มีการออกแบบไว้ล่าสุดยังไม่ได้รับการเห็นชอบ แม้ว่าการปรับปรุงพื้นที่จะเป็นไปประกาศเป็นมติครม. แต่ท้ายสุดก็ต้องผ่านความเห็นชอบของกรรมการเกาะฯ ก่อน และเมื่อได้รับความเห็นชอบแล้วก็จะเข้าสู่กระบวนการของบประมาณจากสำนักการคลัง จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการร่างทีโออาร์ หาผู้รับเหมาต่อไป ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวอาจจะใช้เวลามากถึง 4 เดือน
เมื่อวันที่ 19 ก.พ. สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้มีการส่งมอบพื้นที่ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของอาคารผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 2 ไร่เศษ บนถนน.ราชดำเนิน ให้กับกรุงเทพมหานคร(กทม.) หวังให้พัฒนาพื้นที่ดังกล่าวเป็นสวนสาธารณะและพื้นที่ของอนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม 2535 โดยนายโคทม อารียา ประธานมูลนิธิพฤษภาประชาธรรม กล่าวว่า ในการเข้าใช้พื้นที่ดังกล่าวนั้นขณะนี้ไม่มีปัญหาทางด้านผู้ค้าสลากแล้ว เพราะทางสำนักงานสลากฯ มูลนิธิ ได้เข้าไปทำความเข้าใจกันแล้ว โดยหลังจากส่งมอบไปจนถึงวันที่ 17 พ.ค. นี้ผู้ค้าสามารถที่จะใช้พื้นที่ปัจจุบันได้ แต่เมื่อถึงวันที่กทม.เข้ามาปรับปรุงพื้นที่ ซึ่งตามแผนคือวันที่ 17 พ.ค. ผู้ค้าสลากจะต้องย้ายออกทันที เบื้องต้นทางกองสลากฯได้ทำสถานที่ขายชั่วคราว ไว้ที่บริเวณลานจอดรถ ให้ผู้ค้าขายก่อนที่จะย้ายไปอยู่ยังสำนักงานสลากฯ แห่งใหม่ ที่ตั้งอยู่สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี ซึ่งตามแผนก่อสร้างที่ทางวิศวกรผู้ออกแบบกำหนดคือต้องแล้วเสร็จภายใน 8 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. ซึ่งหลังจากที่กทม.ได้รับมอบพื้นที่แล้วก็ต้องไปจัดหางบประมาณดำเนินการประมาณ 27 ล้านบาท เพื่อสร้างสวน ส่วนประติมากรรมอนุสรณ์ฯ นั้น ทางมูลนิธิ และญาติวีรชน จะเป็นผู้ระดมทุนเพื่อจัดสร้างเบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบ 3-4 ล้านบาท
ขณะที่นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 กล่าวว่า การส่งมอบพื้นที่ดังกล่าวเพื่อสร้างอนุสรณ์ฯ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ทุกฝ่าย อาทิ รัฐบาล กทม. สำนักงานสลากฯ และผู้ค้าได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งตนมองว่าการสร้างอนุสรณ์ฯ ดังกล่าวถือว่าจะเป็นเครื่องเตือนสติที่ดีที่สุดสำหรับกองทัพว่าไม่ควรใช้กำลัง หรือความรุนแรงกับประชาชน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ไม่นิยมความรุนแรง และการแก้ไขปัญหาต้องใช้ความอดทนให้มากกว่าปกติ
ด้านผู้แทนของกทม. จากเขตพระนคร เปิดเผยว่าหลังจากนี้จะนำเรื่องดังกล่าวรายงานถึงม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. อย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง เพื่อมอบหมายให้สำนักงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง หรือทำรายละเอียดงานที่เกี่ยวข้อง เช่น จัดหาผู้รับเหมา การขอจัดสรรงบประมาณ เป็นต้น
แหล่งข่าวจากกทม. ที่ดูแลเรื่องดังกล่าว เปิดเผยว่า ไม่แน่ใจว่าวันที่ 17 พ.ค.นี้จะสามารถหาผู้รับเหมาเข้ามาทำงานได้ทันหรือไม่ เพราะขณะนี้ยังไม่ได้มีการเบิกจ่ายงบประมาณส่วนดังกล่าว เนื่องจากต้องรอให้คณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่า อนุมัติแบบการก่อสร้างอย่างเป็นทางการ เพราะพื้นที่ดังกล่าวถือว่าอยู่ในพื้นที่ที่ต้องขอความเห็นชอบ ซึ่งแบบที่ได้มีการออกแบบไว้ล่าสุดยังไม่ได้รับการเห็นชอบ แม้ว่าการปรับปรุงพื้นที่จะเป็นไปประกาศเป็นมติครม. แต่ท้ายสุดก็ต้องผ่านความเห็นชอบของกรรมการเกาะฯ ก่อน และเมื่อได้รับความเห็นชอบแล้วก็จะเข้าสู่กระบวนการของบประมาณจากสำนักการคลัง จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการร่างทีโออาร์ หาผู้รับเหมาต่อไป ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวอาจจะใช้เวลามากถึง 4 เดือน