xs
xsm
sm
md
lg

ดับฝันแม้วฟ้องศาลโลก มาร์คเมินคำขู่-ยึดกติกา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-"มาร์ค"ประกาศใส่หน้า"แม้ว" รัฐบาลไม่อยู่ใต้คำขู่ของใคร ย้ำหากไม่เคารพกติกา ก็อย่าหวังเจรจา เชื่อวันที่ 26 ก.พ. คุมสถานการณ์ได้ "ปณิธาน" แจงชัดไม่มีสิทธิ์ฟ้องศาลโลก เตรียมรับมือเข้มช่วง 25-28 ก.พ. "บัญญัติ" แนะดึงชุมชนร่วมต้านแดงถ่อย ด้าน"เพื่อไทย"ตั้งวอร์รูมเกาะติดวันยึดทรัพย์ "ชายจืด"เริ่มเดินสายปลุกเสื้อแดง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เสนอแนวทางปรองดองและนิรโทษกรรมให้ทุกฝ่าย เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศไทยได้รับความเสียหายร้ายแรง ว่า ประเทศไม่เละหรอกครับ ถ้ายึดหลักกติกาของบ้านเมือง มันก็เดินไปได้ แต่ประเทศจะเละก็ต่อเมื่อไม่มีใครเคารพกติกา เพราะฉะนั้นเราให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ทุกฝ่าย และเราต้องเชื่อในกระบวนการยุติธรรมของเรา อันนี้คือสิ่งที่ดีที่สุด

ส่วนเรื่องที่เสนอให้มีการนิรโทษกรรมนั้นก็ยังไม่ทราบเลยว่าจะให้มีการนิรโทษกรรมใคร อย่างไร แล้วฝ่ายที่เขาไม่ได้ทำผิดล่ะ

"ถ้าคุณทักษิณเคารพกฎหมาย ก็เจรจากันได้อยู่แล้ว มันมีเรื่องที่สามารถทำได้เยอะแยะ มันต้องยอมรับกระบวนการกันก่อน ถ้าไม่ยอมรับกระบวนการ ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นได้อย่างไร ถ้ายังยืนอยู่ในจุดไม่ยอมรับกติกา กระบวนการ มันก็เจรจาไม่ได้อยู่แล้ว" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าทุกครั้งที่มีการพูดถึงการเจรจา มักจะมีการนำเรื่องของการต่อรองเข้ามาด้วยเสมอ นายกฯกล่าวว่า รัฐบาลจะไปอยู่ภายใต้การข่มขู่ไม่ได้ รัฐบาลมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย รักษากติกา สังคมไทย ตนบอกแล้ว คนไหนที่ยอมรับกติกา ยอมรับผิด สังคมไทยก็มีช่องทางในการให้อภัย

เมื่อถามว่าประเมินว่าหลังวันที่ 26 ก.พ. ที่จะมีการตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท สถานการณ์จะเป็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่าไม่มีอะไร

**ชี้ชัดแม้วไม่มีสิทธิ์ฟ้องศาลโลก

นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้นำรายละเอียดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice : ICJ) ฉบับภาษาอังกฤษที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าหากถูกยึดทรัพย์จะไปฟ้องร้อง มาแจกจ่ายให้กับสื่อมวลชน พร้อมทั้งยืนยันว่า เป็นไปไม่ได้แน่นอนที่พ.ต.ท.ทักษิณ จะนำเรื่องขึ้นสู่ศาล ICJ เพราะกรณีนี้ไม่เข้าเข้าเงื่อนไขที่ ไอซีเจ กำหนดไว้ในธรรมนูญ มาตรา 34 และ 36 โดยมาตรา 34 ระบุว่า “ต้องเป็นข้อพิพาทระหว่างรัฐเท่านั้นที่จะนำคดีเข้าสู่ศาลได้ และรัฐที่เป็นคู่กรณีต้องยินยอมด้วย แม้แต่องค์กรระหว่างประเทศก็ไม่สามารถนำคดีขึ้นสู่ศาลได้" ดังนั้นคดี พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการดำเนินการโดยกฎหมายภายในประเทศ ไม่ใช่เรื่องระหว่างรัฐ จึงทำไม่ได้

ขณะที่ มาตรา 36 ระบุว่า เรื่องที่จะเข้าสู่ศาลได้ ต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ 4 ประการ คือ 1. การตีความสนธิสัญญาระหว่างประเทศ 2. คำถามที่เกี่ยวกับกฎหมายระหว่างประเทศ 3. เรื่องการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ และ 4. เรื่องการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ว่ามีลักษณะในการละเมิดอย่างไร แบบไหน

ดังนั้นตามข้อกำหนดดังกล่าวเห็นได้ว่าไม่สามารถเสนอเรื่องเข้าสู่ศาลได้ทั้ง 2 ศาล

ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างกรณีของประเทศมาเลเซีย ที่เคยทำได้นั้น ก็เพราะมาเลเซียเป็นภาคีสมาชิก แต่ไทยยังไม่ได้เป็นภาคีสมาชิก ส่วนหากจะนำเรื่องขึ้นสู่ศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศ (International criminal court :ICC) เพราะไทยไม่ได้เป็นภาคี เพียงแค่ลงนามแต่ยังไม่ลงสัตยาบัน

" ถ้าหากในอนาคตไทยลงสัตยาบันเข้าร่วมเป็นภาคีของ ICC ก็อาจจะมีผู้ไปฟ้องร้องพ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีเองในเรื่องการใช้ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมไปถึงคดีละเมิดสิทธิมนุษยชนอื่นๆ" โฆษกรัฐบาลกล่าว

ทั้งนี้ ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาระบุแบบนี้เป็นเพราะเขาจะไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมของไทย นอกจากจะตัดสินว่าหลุดคดีหมดทุกอย่าง แต่ข้อเท็จจริงก็ยังเหลืออีกหลายคดี ดังนั้นจึงหาช่องทางใช้กระบวนการยุติธรรมช่องทางอื่น แต่การจะไปอาศัยเวทีโลกนั้น ทำไม่ได้ เพราะรัฐไทยจะสงวนสิทธิอธิปไตยของเราไว้

"ประเด็นที่อยู่ในใจคุณทักษิณ คืออาจจะไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม และพยายามหาช่องทางกระบวนการยุติธรรมจากที่อื่น ซึ่งนายกฯ ยืนยันให้ยอมรับกระบวนการยุติธรรมของไทยก่อน ถึงจะมีการเจรจากันได้ในภายหลัง" นายปณิธาน กล่าว

**รับมือเข้มช่วง 25-28 ก.พ.

ส่วนแผนการรับมือการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในช่วงการตัดสินคดียึดทรัพย์ ว่า ขณะนี้รัฐบาลได้เตรียมการรับมือไว้ทุกทาง ไม่ว่ากลุ่มเสื้อแดงจะเคลื่อนไหวขนาดใหญ่หรือเล็ก จะยืดเยื้อหรือรวดเร็ว มีแผนรับมือไว้หมดทุกทาง โดยจะจับตาเป็นพิเศษในช่วง 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 25-28 ก.พ. จะเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนสนใจคดีนี้มากที่สุด ดังนั้นรัฐบาลจะร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ มากขึ้นในช่วงนี้ พร้อมทั้งจะเร่งชี้แจงกระบวนการขั้นตอน กลไกต่างๆในการวินิจฉัยคดีอย่างละเอียดให้ประชาชนได้รับทราบ โดยผ่านทุกช่องทางของรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ วิทยุ หรือเว็บไซต์ ส่วนประชาชนที่มีข้อสงสัยหรือมีข่าวความเคลื่อนไหวของผู้ที่ไม่หวังดีก็สามารถโทรศัพท์แจ้งได้ที่ เบอร์ 1555 ตลอด 24 ชั่วโมง

เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เตรียมจะแถลงภายหลังมีคำพิพากษาออกมา รัฐบาลจะแถลงเรื่องดังกล่าวนี้ด้วยหรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า ต้องให้โอกาส พ.ต.ท.ทักษิณได้มีพื้นที่สื่อสารกับประชาชน ซึ่งเราก็จะรับฟังด้วย

**เย้ยแม้วไม่ต้องรีบพิพากษาตัวเอง

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินระบุว่า หากไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการตัดสินคดียึดทรัพย์ ก็จะมีการเคลื่อนไหวว่า ที่จริงความยุติธรรมมันมีชัดเจน เป็นเรื่องของการยุติด้วยความจริง ด้วยความตรงไปตรงมา แต่ว่าคนที่ได้รับผล ทำใจต่างกัน
กรณีของพ.ต.ท.ทักษิณ ถ้าเขาถูกยึดทรัพย์ เขาไม่มีทางพูดเป็นอย่างอื่น นอกจากพูดว่า เขาไม่ได้รับความยุติธรรม ซึ่งได้เรียนกับสื่อมวลทั้งหลายว่า ขอให้ติดตามฟังคำวินิจฉัย คำพิพากษาของศาล เราเป็นสามัญชนคนธรรมดาเมื่อฟังเหตุผลของศาล เราก็จะเข้าใจว่า ศาลจะยึด หรือไม่ยึด เพราะฉะนั้นอย่าด่วนรีบพิพากษาเสียเอง ให้รอฟังคำพิพากษาศาลของศาล ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ แน่นอน ชัดเจนถ้าศาลปล่อยเขา แน่นอนก็ต้องบอกว่าศาลยุติธรรม ถ้าสั่งยึดทรัพย์ก็บอกว่า ศาลไม่ยุติธรรม แน่นอน ไม่มีทางเป็นอย่างอื่น

**ลั่นเสื้อแดงล้ำเส้นต้องจับกุม

เมื่อถามว่า ใกล้วันตัดสินรัฐบาลหวั่นไหวมากแค่ไหน โดยเฉพาะการร่วมตัวกันของคนเสื้อแดง ที่ได้มีการสั่งให้เจ้าหน้าที่ในต่างจังหวัดเฝ้าระวัง นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่หวาดหวั่น อะไร ที่พูดไม่ได้อวดดี

"ผมไม่ได้ไปท้าทายอะไร เพียงแต่ว่า ได้มีเวลาปรึกษาหารือกันกับผู้ที่ทำงานร่วมกับทุกฝ่าย และได้เตรียมรับมืออย่างรัดกุม ผมและคณะที่ทำงานเรื่องนี้ ไม่ได้เป็นศัตรูกับคนเสื้อแดง เพียงแต่ว่า ถ้าคนเสื้อแดงมาก่อเหตุความวุ่นวายในบ้านเมือง แล้วทำให้บ้านเมืองเสียหาย ทำให้ประชาชนสุจริตทั้งหลายเป็นที่เสียหาย ทำให้ทรัพย์สินทางราชการเสียหาย ก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐต้องเข้าไปแก้ไข เรามีหน้าที่ต้องรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง เพื่อให้พี่น้องประชาชนใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติสุขได้ แต่ว่าถ้าเขาจะไปปิด 3 แยก 4 แยก เผาบ้านเผาเมือง เหมือนตอนสงกรานต์ ก็ต้องใช้กำลังเข้าไปจับ" นายสุเทพกล่าว

**ปูดสินบนตุลาการหมิ่นเหม่

เมื่อถามว่า จะมีการดำเนินการกับผู้ที่อ้างข่าวลือว่า ศาลมีการรับสินบนอย่างนั้นอย่างนี้ หรือไม่ เพราะการอ้างอยู่บนพื้นฐานการหวังผลทางการเมือง นายสุเทพ กล่าวว่าถ้าเขาทำอย่างนั้นชัดเจน ก็เข้าข่ายหมิ่นศาลอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า แต่มีการหมิ่นศาลไปแล้วถึง 2 วัน นายสุเทพ กล่าวว่า ตรงนี้เป็นเรื่องยาก บางทีเห็นคนพูดอย่างนี้ มองว่าผิดกฎหมาย แต่พอให้นักกฎหมายไปดู มันไม่ค่อยเข้าองค์ประกอบ คือ คนพูดมีวิธีการ มีลีลาให้คนฟังเข้าใจว่าไม่ผูกมัดกับตัวเอง แต่ถ้าชัดเจน เขาก็ต้องถูกดำเนินคดี

เมื่อถามว่า แต่วันนี้ก็บอกว่า มีการซื้อไปแล้ว 4 พูดซ้ำซากแบบนี้แสดงว่าเขาต้องมีข้อมูล นายสุเทพ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าไม่เชื่อ ใครจะเอาตนไปทำอะไร ก็ยืนยันว่าไม่เชื่อ และเห็นว่า มีเจตนาไม่ดีต่อกระบวนการยุติธรรม และระบบศาลของประเทศไทย

**แผนปิ๊กอัพระดมแดงเข้ากรุง

ผู้สื่อข่าวรายงานในที่ประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ว่า นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้วิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองในความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะล้มรัฐบาล เพื่อจะกลับมาใช้รัฐธรรมนูญปี 40 เป็นเส้นทางนิรโทษกรรมให้ตัวเองพ้นข้อกล่าวหาต่างๆ โดยยกข้ออ้างว่าเป็นการต่อสู้กับความไม่ชอบธรรม แบบ 2 มาตรฐานว่า ต้องยึดตามที่แกนนำนปช. เคยประกาศไว้ว่า ครั้งนี้เป็นสงครามครั้งสุดท้าย เพราะนปช. มีทั้งพลังมวลชน และกำลังทรัพย์ในการเคลื่อนไหว เข้าภาษิตจีนที่ว่า “มีเงินจ้างผีโม่แป้งได้” จึงเกิดยุทธการแดงเป็นล้าน ไม่ชนะไม่เลิก ซึ่งเดิมจะระดมคนเข้ากรุงเทพฯ กดดันการพิพากษาของศาลฎีกา

เมื่อประมวลกับกรณีที่มีอดีตนายทหาร จปร. ตบเท้าเข้าพรรคเพื่อไทยเป็นจำนวนมาก รวมทั้งกรณี พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ออกมาเปิดเผยว่าได้ตั้งกองกำลังเสือดำ หรือ กรณีพล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่ระบุว่า มีการจัดตั้งกองทัพแดง เป็นกองกำลังประชาชนที่ขึ้นตรงต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ แสดงให้เห็นว่า เขามีความมั่นใจมีการเตรียมการ ที่จะใช้กำลัง ส่อให้เห็นว่าเป็นการนิยมความรุนแรง

อย่างไรก็ตาม ต่อมาได้เกิดภาวะแดงแทงกันเอง หรือยุทธการหมาเน่าลอยน้ำ ที่แม้ภาพจะทำให้เห็นว่าแตกกัน แต่คนกลุ่มนี้ก็เป็นประเภทโกรธง่าย หายเร็ว เอาผลประโยชน์เป็นที่ตั้ง จึงเกิดเหตุการณ์ ยิงเอ็ม 79 และวางระเบิดซีโฟร์ เพื่อแสดงผลงาน

**สร้างสถานการณ์เพื่อต่อรอง

ในส่วนของพ.ต.ท.ทักษิณ ก็พยายามเคลื่อนไหวล้มล้างสถาบัน และพรรคการเมืองคู่แข่งอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าในช่วงหลังวันที่ 26 ก.พ. อาจจะมีการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่รุนแรง ก็เพื่อต่อรองกับรัฐบาล โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีการปลุกระดมมวลชนว่า นปช. ต้องยอมเจ็บเพื่อชาติ

ดังนั้น ในวันที่ศาลพิพากษาขอเสนอให้รัฐบาลจัดรายการวิเคราะห์เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเชิญนักวิเคราะห์มาสะท้อนว่าคำพิพากษาของศาลมีความหมายอย่างไร และหลังการตัดสินคดีไปแล้ว เชื่อว่าจะมีปฏิกิริยาโต้กลับมาที่รัฐบาล เช่นปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น และการเตรียมความพร้อมเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะการเมืองนอกสภา จะต้องมีการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง

ดังนั้น ในสภาก็ต้องจะเป็นที่พึ่งหรือเป็นหลักให้ได้ เพราะสงครามยังคงยืดเยื้อต่อไป ยังไม่สามารถสิ้นสุดได้ในเร็ววันนี้ ซึ่งรัฐบาลต้องตั้งหลักให้ดี" นายบัญญัติกล่าว

**คนไทยจะทำอะไรต้องตั้งสติให้ดี

นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นก่อนช่วงเวลาวันที่ 26 ก.พ. หรือหลังวันที่ 26 ก.พ. เป็นช่วงเวลาที่ยุ่งยากสำหรับคนไทยทุกคน ทั้งนี้ทุกฝ่าย ควรตั้งสติ และใช้ความอดทน อดกลั้น ปฏิบัติหน้าที่ และใช้สิทธิของตนเอง ให้เป็นไปตามกรอบของกฎหมายทุกอย่างก็จะเรียบร้อย และจะผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยุ่งยากไปได้ ส่วนคนที่ทำผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ก็จะต้องมีความพร้อมในการดำเนินการตามกฎหมาย

***เตื่อนสังคมอย่ามองข้ามสินบนศาล

นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (กมม.) กล่าวว่า กรณีที่พรรคการเมืองใหม่เปิดประเด็นข่าวสินบน 5 พันล้านบาทให้กับองค์คณะผู้พิพากษาในคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทนั้น แม้ข้อเท็จจริงจะไม่ปรากฏพยานหลักฐาน เป็นเพียงกระแสข่าวเล่าต่อๆ กันมาแต่ข่าวดังกล่าวจะกระตุ้นให้สังคมจับจ้องและตรวจสอบการทำงานของฝ่ายตุลาการรวมทั้งนักการเมืองบางคนที่ติดนิสัยซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า เพราะสถานการณ์ที่ศาลและฝ่ายตุลาการมีบทบาทสำคัญในการคลี่คลายวิกฤติความขัดแย้งของชาติบ้านเมือง ไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับการทำให้ศาลและอำนาจตุลาการได้รับความไว้วางใจและสามารถให้ความเที่ยงธรรมกับทุกฝ่ายได้อย่างแท้จริง

เรื่องนี้ไม่ใช่การตีปลาหน้าไซ แต่พฤติกรรมของนักการเมืองบางคนที่วิ่งเต้นติดสินบนผู้พิพากษาต่างหาก ที่เข้าข่ายตีทั้งปลาทั้งไซ ไม่เคยยอมรับว่าตัวเองผิด และยังด่าศาล ในขณะเดียวกันก็ไล่ฟ้องคนอื่นผ่านศาลที่ตัวเองก่นด่าอยู่ทุกวัน

นอกจากนี้พรรคยังเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมไทย และที่ผ่านมาพรรคก็เรียกร้องให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นและเคารพในกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้วิกฤติปัญหาของประเทศมีทางคลี่คลาย ซึ่งที่ผ่านมาต้องยอมรับความจริงว่ากรณีสินบนตุลาการแม้อาจเป็นเรื่องของผู้พิพากษาหรือตุลาการส่วนน้อย แต่ก็สร้างความเคลือบแคลงให้สังคม และที่สำคัญพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็มีพฤติกรรมที่ทำให้คนเคลือบแคลงสงสัยว่า วิ่งเต้นติดสินบนผู้พิพากษาในหลายๆคดี เช่น คดีซุกหุ้นที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ พ้นผิดท่ามกลางข้อสงสัยของประชาชนว่าเป็นคำวินิจฉัยสีเทา

แต่ต่อมาก็ปรากฏข่าวยืนยันว่าคนใกล้ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ไปเสนอสินบนให้กับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางคนจริง หรือแม้แต่กรณีคดีที่ดินรัชดา ที่มีการเตรียมเงินใส่ถุงขนม 2 ล้านบาทให้เจ้าหน้าที่ศาล ก็เป็นตัวอย่างที่พรรคการเมืองใหม่เห็นว่าศาลก็ต้องสร้างหลักประกันให้สังคม และประชาชนเพื่อเพิ่มระดับความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบยุติธรรมของประเทศ

“ พรรคการเมืองใหม่มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่ศาลกำลังถูกทำลายความน่าเชื่อถืออย่างรุนแรงและหวังว่ากรณีนี้จะส่งสัญญาณให้สังคมตื่นตัวและต่อต้านพฤติกรรมของนักการเมืองบางจำพวกที่พยายามติดสินบนศาลเพื่อให้ตัวเองพ้นผิด และ ในวันนี้ เวที People Forum ที่พรรคการเมืองใหม่ จะมีการอภิปรายประเด็นตุลาการภิวัฒน์ กับ วาทกรรม 2 มาตรฐาน”

**พท.ตั้งวอร์รูมเกาะติดคดียึดทรัพย์

ส่วนในช่วงบ่ายวานนี้ พรรคเพื่อไทย ได้มีการประชุม ส.ส.ประจำสัปดาห์ มีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธาน แต่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคและ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไม่ได้เข้าร่วมประชุม แต่ได้นัดหารือที่เซฟเฮาส์ในช่วงเย็น คาดว่าเป็นการประเมินสถานการณ์และเคลียร์ปัญหาภายในพรรค

ทั้งนี้ ที่ประชุม ส.ส.ได้หารือถึงคืบหน้าการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในเดือนมี.ค. นอกจากนี้ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่าพรรคจะตั้ง"วอร์รูม"ในการติดตามสถานการณ์การตัดสินคดียึดทรัพย์ ในวันที่ 26 ก.พ.นี้ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ชั้น 4

**"ชายจืด"ถก 111 ซาก - ตท.10

นายสุทิน คลังแสง อดีต ส.ส.กรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ในช่วงเช้าวานนี้ (23ก.พ.)ได้มีการที่ประชุม "กลุ่ม 9 -10 -1 " ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากอดีตกรรมาบริหารพรรคพลังประชาชน 109 อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 ร่วมถึงตัวแทนเตรียมทหารรุ่น 10 โดยมีนายสมชาย วงศ์สัวสดิ์ เป็นประธาน ซึ่งในที่ประชุมได้ประเมินถึงปัจจัยที่ทำให้เกิดสถานการณ์ความขัดแย้งว่า เป็นเพราะ กกต.และป.ป.ช. ไม่ให้ความเป็นธรรมแก่พรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย หรือแม้กระทั่งศาล ก็อาจได้ข้อมูล สำนวนมาแบบผิด ๆ จึงต้องบอกให้สังคมได้รับรู้

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมองอีกว่า ถ้ามีการยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ จะทำให้ประชาชนรู้สึกว่า ไม่เป็นธรรม ก็จะทำให้เกิดความขัดแย้งทางสังคมแน่นอน และอาจพุ่งเป้าไปที่สาเหตุว่า ใครทำให้เกิดขึ้นมา ส่วนในเรื่องการอุทธรณ์คดีนั้นเชื่อว่า ทีมทนาย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้มีการเตรียมพร้อมข้อมูล แต่คงต้องรอฟังเหตุผลของศาลในวันตัดสินก่อน

ในส่วนของเตรียมทหารรุ่น10 นั้น จะทำหน้าที่ประสาน และเจรจากับกองทัพ เพื่อไม่ให้มีการใช้ความรุนแรงกับกลุ่มคนเสื้อแดง ส่วนของอดีตกรรมการบริหารพรรคทั้งสองชุด ก็จะช่วยประธาน ส.ส.ฝ่ายการเมือง รวมทั้งจะดูแลในส่วนของส.ส. และช่วยดูแลมวลชนด้วย

**อ้างทั่วโลกจับตามองไทย

เมื่อเวลา เวลา 13.00 น. วานนี้ ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ นิตยสารทักษิณวอยซ์ และกลุ่มไทยแลนด์มิเรอร์ ได้จัดเสวนาวิเคราะห์สถานการณ์ "ยึดเขย่าเมือง ล่าขุมทรัพย์ 76,000 ล้านบาท เส้นแบ่งแห่งความยุติธรรม" โดยมีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีต รมว.ยุติธรรม นายสุนัย จุลงศธร นายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม และนางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ อดีตรมว.แรงงาน ร่วมวิเคราะห์สถานการณ์ นายสมชาย กล่าวว่า การตัดสินคดียึดทรัพย์ในวันที่ 26 ก.พ.ไม่ใช่เฉพาะคนไทยที่สนใจเรื่องนี้ แต่คนทั่วโลกรอฟังอยู่เหมือนกัน ว่าจะต้องเป็นบรรทัดฐานที่ให้เกิดความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของเรา ส่วนตัวก็เดาไม่ถูกว่าคำพิพากษาจะออกมาว่า ยึดหมดหรือไม่ แต่ตนไม่กล้าก้าวล่วง ซึ่งจะเป็นการชี้นำศาล

นายสมชาย กล่าวว่า ก่อนที่พ.ต.ท.ทักษิณจะเข้ามาเล่นการเมือง มีเงิน 5 หมื่นล้านบาท รวยอยู่แล้ว แต่ คตส.ตั้งข้อหาว่าร่ำรวยผิดปกติ คงไม่เคยเห็นคนรวยขนาดนี้ ทั้งที่เขารวยปกติ ซึ่งทรัพย์สินของพ.ต.ท.ทักษิณ สามารถอธิบายที่มาที่ไปได้หมด ว่ามาจากไหน เมื่อไร แต่หากเป็นเงิน 1 บาท ถ้าเป็นของหลวง และได้มาจากคอร์รัปชั่น ก็เอาไปไม่ได้ แต่ถ้าเป็นของเรา ก็ต้องเป็นของเรา เอาไปไม่ได้อยู่แล้ว

นายสมชาย กล่าวด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ก็หวังว่าความยุติธรรมยังมีอยู่ และเห็นว่าเงินจำนวน 76,000 ล้านบาท ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะต้องการนำมาทำการเมือง เพื่อพัฒนาการศึกษา แก้ปัญหาความยากจนให้กับคนไทย ทุกวันนี้พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ได้เพราะหวังว่าจะได้กลับมาสู่อ้อมแขนของพี่น้องประชาชน ตนขอให้กำลังใจว่า เรามาถูกทางที่จะนำประชาธิปไตยกลับคืนมาสู่ประเทศไทยเรา อย่าให้อายประเทศที่ล้าหลังกว่าเรา คนที่เราทำให้ไม่เป็นประชาธิปไตย เป็นเผด็จการ ทำให้เราขายหน้าทั่วโลก เพราะฉะนั้นเราภูมิใจเราทำถูกแล้ว แม้แต่ประเทศเพื่อนบ้านยังแดง แล้วคนเสื้อแดงไม่ชนะเป็นไปไม่ได้ เพราะแดงหมดประเทศไทย และแดงเกือบทั่วโลก คนที่ไม่แดงจะอยู่อย่างไร

"ทุกวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ มีความอบอุ่นใจที่พี่น้องประชาชนได้ต่อสู้ในทางที่ถูกต้อง ผมไปเปิดโรงเรียน นปช. มีบางฝ่าย แม้แต่รัฐบาลชอบพูดว่า คนเสื้อแดงจะก่อความรุนแรง เป็นคนไม่ดี คนเลว ทำให้เกิดความวุ่นวาย นั่นแปลว่า ประเมินน้ำใจคนเสื้อแดงต่ำจนเกินไป เป็นการเปรียบเทียบตัวเองหรือไม" นายสมชายกล่าว

**"อ๋อย"เชื่อ"แม้ว"ถูกยึดทรัพย์หมด

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้วิเคราะห์ ถึงคดียึดทรัพย์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะถูกตัดสินยึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท อย่างแน่นอน เนื่องจากที่ผ่านมา ทั้งบุคคลที่อยู่ในรัฐบาล กลุ่มพันธมิตรฯ และอดีตคณะกรรมการ คตส. ได้ออกมากระทำในลักษณะกดดันศาล และชี้นำสังคมว่าจะเกิดความรุนแรง อีกทั้ง รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันยังรับรององค์กรอิสระที่ถูกตั้งขึ้นจากคณะรัฐประหาร และยอมรับการรัฐประหารด้วย

ดังนั้น ตนขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ประชาชน ได้มีส่วนร่วมในประชาธิปไตย อย่างแท้จริง ขณะที่ กลุ่มต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเอง ก็ต้องยึดมั่นต่อสู้ด้วยสันติวิธี อย่างไรก็ตาม การออกมาเรียกร้องครั้งนี้ ไม่ได้หวังผลทางคดีและไม่ได้กดดันศาลแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องการให้สังคม กลับมาสงบสุขอีกครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น