xs
xsm
sm
md
lg

รบ.ดับฝัน “แม้ว” เข็นคดียึดทรัพย์ขึ้นศาลโลก แฉกำพืดผวาศาลไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปณิธาน  วัฒนายากร
“ปณิธาน” ร่ายยาวกระทุ้ง “แม้ว” ตื่นจากฝันเสียที สอยมวยเปิดกฎบัตร “ไอซีเจ” ฟ้องศาลโลกไม่ได้ แฉกำพืดเพราะไม่ยอมรับศาลไทยทั้งที่เป็นเรื่องภายใน เผยรัฐจับตา 4 วันอันตราย 25-28 ก.พ. แนะให้ ปชช.ใช้วิจารญาณรับฟังคำตัดสิน เปิดช่องสื่อทุกแขนง มั่นใจพร้อมรับมือหางแดงไม่ว่าจะมาไม้ไหน

วันนี้ (23 ก.พ.) นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้นำรายละเอียดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice : ICJ) ฉบับภาษาอังกฤษ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่าหากถูกยึดทรัพย์จะไปฟ้องร้องมาแจกจ่ายให้แก่สื่อมวลชน พร้อมทั้งยืนยัน เป็นไปไม่ได้แน่นอนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะนำเรื่องขึ้นสู่ศาล ICJ เพราะกรณีนี้ไม่เข้าเข้าเงื่อนไขที่ไอซีเจ กำหนดไว้ในธรรมนูญมาตรา 34 และ 36 โดยมาตรา 34 ระบุว่า “ต้องเป็นข้อพิพาทระหว่างรัฐเท่านั้นที่จะนำคดีเข้าสู่ศาลได้ และรัฐที่เป็นคู่กรณีต้องยินยอมด้วย แม้แต่องค์กรระหว่างประเทศ ก็ไม่สามารถนำคดีขึ้นสู่ศาลได้” ดังนั้น คดี พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการดำเนินการโดยกฎหมายภายในประเทศ ไม่ใช่เรื่องระหว่างรัฐ จึงทำไม่ได้

นายปณิธานกล่าวอีกว่า ขณะที่มาตรา 36 ระบุว่า เรื่องที่จะเข้าสู่ศาลได้ต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ 4 ประการ คือ 1.การตีความสนธิสัญญาระหว่างประเทศ 2.คำถามที่เกี่ยวกับกฎหมายระหว่างประเทศ 3.เรื่องการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ และ 4.เรื่องการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศว่ามีลักษณะในการละเมิดอย่างไร แบบไหน ดังนั้น ตามข้อกำหนดดังกล่าวเห็นได้ว่า ไม่สามารถเสนอเรื่องเข้าสู่ศาลได้ทั้ง 2 ศาล ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างกรณีของประเทศมาเลเซีย ที่เคยทำได้นั้นก็เพราะมาเลเซียเป็นภาคีสมาชิก แต่ไทยยังไม่ได้เป็นภาคีสมาชิก ส่วนหากจะนำเรื่องขึ้นสู่ศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศ (International criminal court : ICC) เพราะไทยไม่ได้เป็นภาคี เพียงแค่ลงนามแต่ยังไม่ลงสัตยาบัน

“ถ้าหากในอนาคตไทยลงสัตยาบันเข้าร่วมเป็นภาคีของ ICC ก็อาจจะมีผู้ไปฟ้องร้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีเองในเรื่องการใช้ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมไปถึงคดีละเมิดสิทธิมนุษยชนอื่นๆ” โฆษกรัฐบาลกล่าว

ทั้งนี้ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาระบุแบบนี้ เป็นเพราะเขาจะไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมของไทย นอกจากจะตัดสินว่าหลุดคดีหมดทุกอย่าง แต่ข้อเท็จจริงก็ยังเหลืออีกหลายคดี ดังนั้นจึงหาช่องทางใช้กระบวนการยุติธรรมช่องทางอื่น แต่การจะไปอาศัยเวทีโลกนั้นทำไม่ได้เพราะรัฐไทยจะสงวนสิทธิอธิปไตยของเราไว้

“ประเด็นที่อยู่ในใจคุณทักษิณ คือ อาจจะไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม และพยายามหาช่องทางกระบวนการยุติธรรมจากที่อื่น ซึ่งนายกฯ ยืนยันให้ยอมรับกระบวนการยุติธรรมของไทยก่อน ถึงจะมีการเจรจากันได้ในภายหลัง” นายปณิธานกล่าว

นายปณิธานกล่าวถึงแผนการรับมือการเคลื่อนไหว ของกลุ่มคนเสื้อแดงในช่วงการตัดสินคดียึดทรัพย์ว่า ขณะนี้รัฐบาลได้เตรียมการรับมือไว้ทุกทาง ไม่ว่ากลุ่มเสื้อแดงจะเคลื่อนไหวขนาดใหญ่หรือเล็ก ด้วยคนจำนวนมากหรือน้อย จะยืดเยื้อหรือรวดเร็ว มีแผนรับมือไว้หมดทุกทาง โดยจะจับตาเป็นพิเศษในช่วง 4 วันตั้งแต่วันที่ 25-28 ก.พ.จะเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนสนใจคดีนี้มากที่สุด ดังนั้น รัฐบาลจะร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆมากขึ้นในช่วงนี้ พร้อมทั้งจะเร่งชี้แจงกระบวนการขั้นตอน กลไกต่างๆ ในการวินิจฉัยคดีอย่างละเอียดให้ประชาชนได้รับทราบ โดยผ่านทุกช่องทางของรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ วิทยุ หรือเว็บไซต์ ส่วนประชาชนที่มีข้อสงสัยหรือมีข่าวความเคลื่อนไหวของผู้ที่ไม่หวังดีก็สามารถโทรศัพท์แจ้งได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 1555 ตลอด 24 ชั่วโมง

“รัฐบาลประเมินว่ากลุ่มผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ จะอาศัยช่วง 4 วันดังกล่าวปลุกอารมณ์คนให้ออกมาเคลื่อนไหว โดยอ้างประเด็นสองมาตรฐานเพราะในช่วงนั้นคนจะสนใจคดีนี้มากที่สุดเรียกว่าอยู่ในจุดพีค ดังนั้นทันทีที่การพิพากษาเสร็จสิ้นลง รัฐบาลจะใช้สื่อของรัฐทุกแขนง ชี้แจงรายละเอียดคำพิพากษาโดยจะเชิญนักกฎหมาย หรือบุคคลที่เป็นกลางมาถกเถียงกันในทุกๆแง่มุม เพื่อให้คนหายสงสัย เพื่อนำไปสู่การพูดคุยประเด็นอื่นๆ รวมทั้งยืนยันว่าหากจะมีการเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ต้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยอมรับกระบวนการยุติธรรมก่อน” โฆษกรัฐบาลกล่าว

เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เตรียมจะแถลงภายหลังมีคำพิพากษาออกมา รัฐบาลจะแถลงเรื่องดังกล่าวนี้ด้วยหรือไม่ นายปณิธานกล่าวว่า ต้องให้โอกาส พ.ต.ท.ทักษิณ ได้มีพื้นที่สื่อสารกับประชาชน ซึ่งเราก็จะรับฟังด้วย

นายปณิธานยังกล่าวว่า มีนักวิเคราะห์ความเสี่ยงทางการเมืองต่างประเทศโทรศัพท์มาหาตนโดยกล่าวชื่นชมรัฐบาลว่าเตรียมความพร้อมในการรับมือการเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นระบบ ส่วนกลุ่มแดงฮาร์ดคอร์ที่คาดว่าจะก่อความรุนแรงนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่สังเกตการณ์บุคคลที่เป็นเป้าหมายเพื่อไม่ให้ก่อความวุ่นวายแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น