“โฆษกรัฐ” แฉพบเส้นทางการเมืองเคลื่อนไหวมาจากกเอเชีย และตะวันออกกลาง ชี้หากถึงมือฮาร์ดคอร์ “อันตราย” ไม่ประมาทแดงแตกคอ จับตาแผนสงครามบู๊ล้างผลาญ หลังได้สัญญาณป่วนชัดเจน อัดฉีด 50 ล้านตรึงกำลังทั่วประเทศ
วันนี้ (9 ก.พ.) นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประเมินการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงว่า กลุ่มเสื้อแดงได้วางแผนการเคลื่อนไหวเป็นสองจังหวะ คือ จังหวะแรกสร้างความปั่นป่วนครั้งใหญ่ จนทำให้ไม่สามารถพิพากษาคดียึดทรัพย์ในวันที่ 26 ก.พ.ได้ แต่ขณะนี้เสื้อแดงรู้ตัวแล้วว่า 26 ก.พ.เร็วเกินไปทำตามเป้าหมายไม่ได้ จึงประเมินกันใหม่ว่าจะเคลื่อนไหวหากผลการตัดสินไม่เป็นที่พอใจ ดังนั้นเสื้อแดงจึงจะชุมนุมกันตั้งแต่ก่อนและหลัง 26 ก.พ. ในส่วนรัฐบาลก็ยังคงเตรียมมาตรการรับมือไว้ 3 ระดับ 1.ในช่วงก่อนตัดสินสถานการณ์ยังปกติ ครม.ให้จัดเตรียมกำลังตำรวจ ทหาร พลเรือน จุดละ 3-5 กองร้อย หากมีการล้อมศาลากลางจังหวัด ก็สามารถเข้ามาควบคุมได้ทันที ไม่โกลาหลเหมือนช่วงเดือนเม.ย.2552 ระดับที่ 2 สถานการณ์เริ่มไม่ปกติใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง มีการตั้งด่านตรวจค้นอาวุธ เป็นจุดๆ และระดับที่ 3 คือใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้อำนาจทหารเข้าควบคุมสถานการณ์ ซึ่งเป็นขั้นที่รุนแรงที่สุด
“ตอนนี้ ครม.อนุมัติงบประมาณงวดแรกประมาณ 50 ล้านบาท ให้ฝ่ายกำลังจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย เมื่อเกิดจลาจลก็สามารถออกจากหน่วยมาปฏิบัติหน้าที่ได้ทันที และหลังจากที่ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ต้องเพิ่มเบี้ยเลี้ยงให้อีก จะไม่ปล่อยให้เป็นเหมือนเดือน เม.ย.52 ที่ทหารไม่ได้เบี้ยเลี้ยง แต่ละคนหิวข้าว ตาลายออกมาทำงาน เพราะเป็นไปได้ว่าในการชุมนุมครั้งนี้ คนเสื้อแดงทั้ง 38 จังหวัดจะชุมนุมคู่ขนานกันไปกับที่กรุงเทพฯ เพราะเสื้อแดงจะไม่เดินทางไปชุมนุมไกลๆ ได้เป็นเวลานาน” โฆษกรัฐบาลกล่าว
นายปณิธานกล่าวว่า การที่กลุ่มเสื้อแดงยังกำหนดวันในการชุมนุมไม่ได้ก็เพราะว่ามีความขัดแย้งกันภายใน โดยเฉพาะแกนนำแดงดารา ซึ่งเป็นผู้นำตามกระแสนิยม ใช้สื่อเป็น มีการแย่งชิงการนำกันเองเพื่อเป็นเบอร์หนึ่ง แม้จะทำให้มวลชนสับสนไปบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ความแตกแยกที่ลึกซึ้งมาก เพราะทุกฝ่ายรู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังดูอยู่ข้างบนว่าแนวทางไหนเป็นประโยชน์ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ มากที่สุด ขณะที่หน่วยความมั่นคง กำลังจับตาสัญญาณที่ส่งออกมาจากกลุ่มเสื้อแดงฮาร์ดคอร์ เพราะมีทิศทางที่จะใช้ความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะบางกลุ่มที่มีประสบการณ์ในการใช้อาวุธสงคราม รวมถึงใช้อาวุธที่ทำเอง คนกลุ่มนี้มีความขัดแย้งส่วนตัวที่สั่งสมมานาน อดีตเคยใช้ความรุนแรงมาก่อน มีจำนวนไม่มากแต่มีสัญญาณทิศทางในการใช้กำลังความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ก็เตรียมการที่จะก่อความรุนแรง หน่วยความมั่นคงวิเคราะห์สัญญาณที่คนกลุ่มนี้ส่งออกมาอย่างใกล้ชิด
“ขณะนี้หน่วยความมั่นคงได้พบเงินจำนวนมากผิดปกติถูกโอนจาก 2-3 เส้นทางทั้งต่างประเทศและในประเทศ เข้าบัญชีบุคคลแกนนำระดับสูงของเสื้อแดง ซึ่งมีหน้าที่ประสานงานกับกลุ่มต่างๆ ซึ่งก็ต้องแกะรอยกันต่อไปว่าเมื่อเงินจำนวนนี้ถูกส่งผ่านไปอยู่ในมือของกลุ่มผู้ที่ใช้ความรุนแรงก็จะประเมินได้ว่าสถานการณ์จะรุนแรงขึ้น” โฆษกรัฐบาลกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เส้นทางเงินมาจากในเอเชียและตะวันออกกลางใช่หรือไม่ นายปณิธานไม่ตอบ แต่บอกว่าที่นักข่าวยกตัวอย่างมาทั้ง 2-3 ทางก็ครบแล้วมั้ง อีกส่วนหนึ่งคือโอนจากกลุ่มทุนในประเทศ และยังมีที่ลักลอบขนเงินเข้ามาตามช่องทางปกติด้วยลักษณะการโอนนั้นเป็นการโอนไปโอนมา หน่วยความมั่นคงกำลังตรวจสอบอยู่
“เงินที่เข้ามาจะทำให้กลุ่มที่ใช้ความรุนแรงเฟื่องฟูขึ้นมา แต่รัฐบาลจะควบคุมกลุ่มเสื้อแดงเหมือนทำขนมถ้วยฟู พอเริ่มจะฟูก็เอาเหล็กมาล้อมไว้ไม่ให้ฟูมากเกินไป”