ASTVผู้จัดการรายวัน - คลังจี้ธปท.ตรวจสอบแบงก์คิดค่าธรรมเนียมลูกค้าสูงเกินควร หลังพบสินเชื่อติดลบแต่แบงก์ส่าวนใหญ่ยังกำไรดี พร้อมเซ็นขายหุ้นสินเอเชียให้ไอซีบีซีจากจีน หวังแข่งขันแบงก์ขนาดใหญ่ได้
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยบว่า ได้ขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เข้าไปควบคุมดูแลการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมของธนาคารพาณิชย์ที่คิดบริการจากประชาชนว่ามีความเป็นธรรมหรือไม่ เนื่องจากเห็นว่ารายได้จากค่าธรรมเนียมของแบงก์ปรับตัวสูงขึ้นมาก หากเทียบกับรายได้จากดอกเบี้ยเพราะช่วงปีที่ผ่านมาการขยายตัวของสินเชื่ออยู่ในระดับติดลบแต่แบงก์กลับยังมีรายได้ดี
“การทำธุรกรรมที่เกี่ยวเนื่องของแบงก์พาณิชย์ทั้งการทำประกันชีวิต การให้บริการบัตรเครดิตนั้นได้ขอให้ธปท.ติดตามดูว่ามีการคิดค่าธรรมเนียมที่ไม่เป็นธรรมหรือไม่ เพราะแบงก์อาจมีการใช้อำนาจทางการตลาดมาเอาเปรียบลูกค้า จึงเป็นหน้าที่ของธปท.ที่จะดูแลว่ามีการคิดค่าธรรมเนียมสูงเกินควรหรือไม่” นายกรณ์ กล่าวและว่าการดูแลภาคธนาคารนั้นถือเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งของรัฐบาล และยืนยันว่ากระทรวงการคลังไม่มีนโยบายแทรกแซงการทำงานของแบงก์ และยังสนับสนุนให้ธุรกิจธนาคารมีการแข่งขันและเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ
นายกรณ์กล่าวว่าล่าสุดได้ลงนามอนุมัติให้ขยายการถือหุ้นของต่างชาติในธนาคารสินเอเซีย จำกัด(มหาชน) ACL ตามที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เสนอมาโดยป็นการเปิดทางให้ต่างชาติเข้าถือหุ้นได้เกิน 49% ซึ่งเป็นไปตามแนวทางที่ธปท.เสนอมาและถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นครั้งแรกที่มีการขายในช่วงที่ไม่ได้อยู่ในภาวะวิกฤตซึ่งหลังจากนี้ก็จะส่งเรื่องกลับไปที่ธปท.เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
โดยในเบื้องต้นยังไม่มีใครให้ข้อเสนอที่ดีกว่าธนาคาร อินดัสเตรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า(ไอซีบีซี) จากจีน โดยตามเงื่อนไขทางไอซีบีซีสามารถเข้าถือหุ้นใน เอซีแอลได้เกินสัดส่วน 49% เป็นเวลา 10 ปีหลังจากนั้นจึงมาทบทวนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการขายหุ้นครั้งนี้น่าจะมีเงินเข้ามา 6-7 พันล้านบาท และในช่วงเวลา 5-10 ปีนี้ทางไอซีบีซีน่าจะช่วยให้เอซีแอลมีความแข็งแกร่งและมีขนาดใหญ่ขึ้นสามารถแข่งขันในตลาดได้
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยบว่า ได้ขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เข้าไปควบคุมดูแลการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมของธนาคารพาณิชย์ที่คิดบริการจากประชาชนว่ามีความเป็นธรรมหรือไม่ เนื่องจากเห็นว่ารายได้จากค่าธรรมเนียมของแบงก์ปรับตัวสูงขึ้นมาก หากเทียบกับรายได้จากดอกเบี้ยเพราะช่วงปีที่ผ่านมาการขยายตัวของสินเชื่ออยู่ในระดับติดลบแต่แบงก์กลับยังมีรายได้ดี
“การทำธุรกรรมที่เกี่ยวเนื่องของแบงก์พาณิชย์ทั้งการทำประกันชีวิต การให้บริการบัตรเครดิตนั้นได้ขอให้ธปท.ติดตามดูว่ามีการคิดค่าธรรมเนียมที่ไม่เป็นธรรมหรือไม่ เพราะแบงก์อาจมีการใช้อำนาจทางการตลาดมาเอาเปรียบลูกค้า จึงเป็นหน้าที่ของธปท.ที่จะดูแลว่ามีการคิดค่าธรรมเนียมสูงเกินควรหรือไม่” นายกรณ์ กล่าวและว่าการดูแลภาคธนาคารนั้นถือเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งของรัฐบาล และยืนยันว่ากระทรวงการคลังไม่มีนโยบายแทรกแซงการทำงานของแบงก์ และยังสนับสนุนให้ธุรกิจธนาคารมีการแข่งขันและเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ
นายกรณ์กล่าวว่าล่าสุดได้ลงนามอนุมัติให้ขยายการถือหุ้นของต่างชาติในธนาคารสินเอเซีย จำกัด(มหาชน) ACL ตามที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เสนอมาโดยป็นการเปิดทางให้ต่างชาติเข้าถือหุ้นได้เกิน 49% ซึ่งเป็นไปตามแนวทางที่ธปท.เสนอมาและถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นครั้งแรกที่มีการขายในช่วงที่ไม่ได้อยู่ในภาวะวิกฤตซึ่งหลังจากนี้ก็จะส่งเรื่องกลับไปที่ธปท.เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
โดยในเบื้องต้นยังไม่มีใครให้ข้อเสนอที่ดีกว่าธนาคาร อินดัสเตรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า(ไอซีบีซี) จากจีน โดยตามเงื่อนไขทางไอซีบีซีสามารถเข้าถือหุ้นใน เอซีแอลได้เกินสัดส่วน 49% เป็นเวลา 10 ปีหลังจากนั้นจึงมาทบทวนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการขายหุ้นครั้งนี้น่าจะมีเงินเข้ามา 6-7 พันล้านบาท และในช่วงเวลา 5-10 ปีนี้ทางไอซีบีซีน่าจะช่วยให้เอซีแอลมีความแข็งแกร่งและมีขนาดใหญ่ขึ้นสามารถแข่งขันในตลาดได้