ดีลซื้อขายธนาคารสินเอเซีย (ACL) "จบเป็นทางการ" ไปแล้วเมื่อเช้าวานนี้ (22 ก.พ.) เมื่อ "กรณ์ จาติกวณิช" เซ็นอนุมัติขยายเพดานให้ ICBC ธนาคารจากจีนถือหุ้น ACL เกิน 49% หลังจากนี้ ICBC ต้องตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้นจากรายย่อย "กรณ์" หวัง ICBC จะยกระดับธนาคารสินเอเซียให้ใหญ่ขึ้นและสามารถเชื่อมโยงไปขยายธุรกิจในประเทศจีนได้...
วันนี้ (23 ก.พ.) กระทรวงการคลังจะเสนอ ครม.ทบทวนมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน ที่จะหมดอายุสิ้นเดือนมีนาคมนี้ ชัดเจนว่าเลิกอุ้มค่าน้ำประปาแต่ตรึงราคาก๊าซหุงต้ม และคงอุ้ม "ค่าไฟ รถไฟ รถเมล์" ฟรี ไว้ก่อน นายกรัฐมนตรีให้เหตุผลการยกเลิกมาตรการใช้น้ำฟรีว่า คนที่ได้ประโยชน์ส่วนใหญ่เป็น "คนมีฐานะ" ขณะที่ค่าไฟฟรีสามารถช่วยเหลือได้ทุกกลุ่ม ส่วนรถเมล์และรถไฟฟรีไว้ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย...
อีกเรื่องใน ครม. คลังเสนอทบทวนมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่จะหมดอายุลงในวันที่ 28 มี.ค.นี้ มีแนวโน้มว่าจะ "ไม่ต่ออายุ" วันนี้โครงการบ้าน-คอนโดจึงเร่งงัด "โปรโมชัน-แคมเปญ" การตลาดเต็มสูบ หวังปิดการขายกันคึกคักๆ...
ปัจจุบันค่าธรรมเนียมการโอนอยู่ที่ 0.01% หากไม่ต่ออายุจะกลับไปอยู่ที่ 2% ค่าธรรมเนียมการจดจำนองจาก 0.01 จะกลับไปอยู่ที่ 1% ส่วนภาษีธุรกิจเฉพาะจาก 0.11 จะกลับไปอยู่ที่ 3.3% คำนวณแล้วผู้ซื้อบ้านจะต้องควักเงินเพิ่มไม่ต่ำกว่า 2%...
หาก ครม.ไม่ต่ออายุมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ จะกดดันผู้ซื้อให้เร่งตัดสินใจซื้อและโอนบ้านโดยเร็ว อย่างน้อยก่อนหมดอายุมาตรการ หรือ 1 เดือนนับจากนี้ แน่นอนยอดการซื้อบ้านเพิ่มขึ้น งานนี้สำหรับโครงการที่ก่อสร้างเรียบร้อยพร้อมโอน เท่านั้น!!..
สิ่งที่จะตามมาจาก "การเลิกอุ้ม" รัฐบาลประหยัดงบประมาณและน่าจะทำให้การจัดเก็บภาษี "เพิ่มขึ้น" แต่หลังเดือนมีนาคม การซื้อบ้านจะชะลอมากแค่ไหน มาตรการฯ จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นที่อาจชะงักงันหรือไม่ ต้องติดตามดู!!...
ไปดูมุมมองผู้ประกอบการ "อธิป พีชานนท์" จากค่ายศุภาลัย มองว่าหากรัฐบาลไม่ต่ออายุมาตรการภาษีอาจส่งผลกระทบผลกำไรภาคเอกชนเพราะราคาวัสดุก่อสร้างยังมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน "ศุภาลัย" ก็อาจจะปรับขึ้นราคาขายที่บ้านอีก 4% ในเดือนเมษายนนี้!!...
นั่นคือ "ศุภาลัย" สำหรับ "ขรรค์ ประจวบเหมาะ" บิ๊ก ธอส.เชื่อว่าแม้ทางการจะไม่ต่ออายุมาตรการฯ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็ยังไปได้ดี เห็นได้จากตัวเลขอ ธอส.เดือนมกราคมที่ผ่านมา สามารถปล่อยกู้ 5,800 ล้าน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ปล่อยกู้ 5,500 ล้าน!!..
"ขรรค์" ชี้ว่าความร่วมมือของสถาบันการเงินในการปล่อยกู้และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ระดับต่ำเป็นปัจจัยสำคัญมากกว่ามาตรการภาษี!!!...
ปิดท้ายที่สภาพัฒน์ วานนี้ (22 ก.พ.) แถลงตัวเลขจีดีพีปี 52 "น่าพอใจ" หดตัวแค่ 2.3% ดีกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ที่ลบ 3% เหตุส่งออกพุ่ง รายได้ภาคเกษตรดีขึ้น ประกอบกับไตรมาส 4 การอุปโภคบริโภคขยายตัวสูง แนวโน้มฟื้นตัวชัดแต่สภาพัฒน์ในมือเด็กเนวิน "อำพน กิตติอำพน" ในฐานะเลขาธิการ คาดจีดีพีปีนี้ขยายตัวแค่ 3.5-4.5% งานนี้ "นายกฯ อภิสิทธิ์" ควันออกหู สวนเปรี้ยงทันควัน อยากเห็นจีดีพีโต 4.7 % "ดร.กบ" ทำได้มั๊ย?
วันนี้ (23 ก.พ.) กระทรวงการคลังจะเสนอ ครม.ทบทวนมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน ที่จะหมดอายุสิ้นเดือนมีนาคมนี้ ชัดเจนว่าเลิกอุ้มค่าน้ำประปาแต่ตรึงราคาก๊าซหุงต้ม และคงอุ้ม "ค่าไฟ รถไฟ รถเมล์" ฟรี ไว้ก่อน นายกรัฐมนตรีให้เหตุผลการยกเลิกมาตรการใช้น้ำฟรีว่า คนที่ได้ประโยชน์ส่วนใหญ่เป็น "คนมีฐานะ" ขณะที่ค่าไฟฟรีสามารถช่วยเหลือได้ทุกกลุ่ม ส่วนรถเมล์และรถไฟฟรีไว้ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย...
อีกเรื่องใน ครม. คลังเสนอทบทวนมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่จะหมดอายุลงในวันที่ 28 มี.ค.นี้ มีแนวโน้มว่าจะ "ไม่ต่ออายุ" วันนี้โครงการบ้าน-คอนโดจึงเร่งงัด "โปรโมชัน-แคมเปญ" การตลาดเต็มสูบ หวังปิดการขายกันคึกคักๆ...
ปัจจุบันค่าธรรมเนียมการโอนอยู่ที่ 0.01% หากไม่ต่ออายุจะกลับไปอยู่ที่ 2% ค่าธรรมเนียมการจดจำนองจาก 0.01 จะกลับไปอยู่ที่ 1% ส่วนภาษีธุรกิจเฉพาะจาก 0.11 จะกลับไปอยู่ที่ 3.3% คำนวณแล้วผู้ซื้อบ้านจะต้องควักเงินเพิ่มไม่ต่ำกว่า 2%...
หาก ครม.ไม่ต่ออายุมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ จะกดดันผู้ซื้อให้เร่งตัดสินใจซื้อและโอนบ้านโดยเร็ว อย่างน้อยก่อนหมดอายุมาตรการ หรือ 1 เดือนนับจากนี้ แน่นอนยอดการซื้อบ้านเพิ่มขึ้น งานนี้สำหรับโครงการที่ก่อสร้างเรียบร้อยพร้อมโอน เท่านั้น!!..
สิ่งที่จะตามมาจาก "การเลิกอุ้ม" รัฐบาลประหยัดงบประมาณและน่าจะทำให้การจัดเก็บภาษี "เพิ่มขึ้น" แต่หลังเดือนมีนาคม การซื้อบ้านจะชะลอมากแค่ไหน มาตรการฯ จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นที่อาจชะงักงันหรือไม่ ต้องติดตามดู!!...
ไปดูมุมมองผู้ประกอบการ "อธิป พีชานนท์" จากค่ายศุภาลัย มองว่าหากรัฐบาลไม่ต่ออายุมาตรการภาษีอาจส่งผลกระทบผลกำไรภาคเอกชนเพราะราคาวัสดุก่อสร้างยังมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน "ศุภาลัย" ก็อาจจะปรับขึ้นราคาขายที่บ้านอีก 4% ในเดือนเมษายนนี้!!...
นั่นคือ "ศุภาลัย" สำหรับ "ขรรค์ ประจวบเหมาะ" บิ๊ก ธอส.เชื่อว่าแม้ทางการจะไม่ต่ออายุมาตรการฯ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็ยังไปได้ดี เห็นได้จากตัวเลขอ ธอส.เดือนมกราคมที่ผ่านมา สามารถปล่อยกู้ 5,800 ล้าน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ปล่อยกู้ 5,500 ล้าน!!..
"ขรรค์" ชี้ว่าความร่วมมือของสถาบันการเงินในการปล่อยกู้และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ระดับต่ำเป็นปัจจัยสำคัญมากกว่ามาตรการภาษี!!!...
ปิดท้ายที่สภาพัฒน์ วานนี้ (22 ก.พ.) แถลงตัวเลขจีดีพีปี 52 "น่าพอใจ" หดตัวแค่ 2.3% ดีกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ที่ลบ 3% เหตุส่งออกพุ่ง รายได้ภาคเกษตรดีขึ้น ประกอบกับไตรมาส 4 การอุปโภคบริโภคขยายตัวสูง แนวโน้มฟื้นตัวชัดแต่สภาพัฒน์ในมือเด็กเนวิน "อำพน กิตติอำพน" ในฐานะเลขาธิการ คาดจีดีพีปีนี้ขยายตัวแค่ 3.5-4.5% งานนี้ "นายกฯ อภิสิทธิ์" ควันออกหู สวนเปรี้ยงทันควัน อยากเห็นจีดีพีโต 4.7 % "ดร.กบ" ทำได้มั๊ย?