ASTVผู้จัดการรายวัน - กสิกรไทยประกาศรุกสินเชื่อพลังงานหมุนเวียน ตั้งเป้าครองอันดับ 1 มาเก็ตแชร์ 30% เผยกลยุทธนำเสนอสินเชื่อเป็นแพ็คเก็จหวังเป็นหนึ่งในใจลูกค้า ล่าสุดรับเป็นที่ปรึกษาฯโครงการพลังงานทางเลือกอีกหลานแห่งทั้งใน-นอกประเทศ
นายนพเดช กรรณสูต ผู้อำนวยการฝ่ายสหบรรษัทธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) เปิดเผยถึงแนวทางในการดำเนินงานด้านสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ว่า ธนาคารมีเป้าหมายที่จะเป็นอันดับ 1 ในการสนับสนุนทางการเงินแก่ธุรกิจที่ใช้พลังงานหมุนเวียนด้วยส่วนแบ่งตลาด(มาร์เก็ตแชร์) 30% เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานหมุนเวียนเป็นต้น
"จากช่วงก่อนหน้านี้ที่ธนาคารมีนโยบายสนับสนุนการประหยัดพลังงานโดยปล่อยกู้บริษัทโซล่า เพาเวอร์วงเงิน 1.1 พันล้านบาท เพื่อสร้างโรงไฟฟ้าโซล่า ฟาร์มที่ทำให้โซล่าเพาเวอร์ขึ้นชั้นเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ซึ่งการสนับสนุนในครั้งนี้จะเป็นเงินกู้โครงการมาตรฐานระดับสากล ประกอบด้วยวงเงินเพื่อนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ วงเงินกู้ระยะยาว พร้อมวงเงินอื่นๆ เพื่อบริหารโครงการ โดยธนาคารคิดดอกเบี้ยอิง MLR และ อายุเงินกู้ไม่เกิน 7 ปี เช่น วงเงินเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน"นายนพเดช กล่าว
ทั้งนี้ ธนาคารคาดหวังว่าการปล่อยกู้ให้กับธุรกิจที่เกียวกับพลังงานทดแทนจะทำให้ฐานสินเชื่อของธนาคารเป็นหนึ่งในใจของลูกค้า จากเดิมที่ไม่มีสินเชื่อด้านนี้เลย ทำให้ธนาคารต้องรุกเข้าไปนำเสนอรูปแบบ เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้า ซึ่งบางรายต้องใช้เวลานานถึง 2 ปีกว่าจะเป็นที่ยอมรับของธุรกิจ
โดยล่าสุด ธนาคารได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาทางการเงินสำหรับโครงการพลังทางเลือกขนาดใหญ่หลายโครงการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมเชิงพาณิชย์แห่งแรกในประเทศที่จังหวัดเพชรบูรณ์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในจังหวัดลพบุรี โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2554 นอกจากนี้ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และโรงไฟฟ้าชีวมวล
นายนพเดช กรรณสูต ผู้อำนวยการฝ่ายสหบรรษัทธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) เปิดเผยถึงแนวทางในการดำเนินงานด้านสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ว่า ธนาคารมีเป้าหมายที่จะเป็นอันดับ 1 ในการสนับสนุนทางการเงินแก่ธุรกิจที่ใช้พลังงานหมุนเวียนด้วยส่วนแบ่งตลาด(มาร์เก็ตแชร์) 30% เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานหมุนเวียนเป็นต้น
"จากช่วงก่อนหน้านี้ที่ธนาคารมีนโยบายสนับสนุนการประหยัดพลังงานโดยปล่อยกู้บริษัทโซล่า เพาเวอร์วงเงิน 1.1 พันล้านบาท เพื่อสร้างโรงไฟฟ้าโซล่า ฟาร์มที่ทำให้โซล่าเพาเวอร์ขึ้นชั้นเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ซึ่งการสนับสนุนในครั้งนี้จะเป็นเงินกู้โครงการมาตรฐานระดับสากล ประกอบด้วยวงเงินเพื่อนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ วงเงินกู้ระยะยาว พร้อมวงเงินอื่นๆ เพื่อบริหารโครงการ โดยธนาคารคิดดอกเบี้ยอิง MLR และ อายุเงินกู้ไม่เกิน 7 ปี เช่น วงเงินเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน"นายนพเดช กล่าว
ทั้งนี้ ธนาคารคาดหวังว่าการปล่อยกู้ให้กับธุรกิจที่เกียวกับพลังงานทดแทนจะทำให้ฐานสินเชื่อของธนาคารเป็นหนึ่งในใจของลูกค้า จากเดิมที่ไม่มีสินเชื่อด้านนี้เลย ทำให้ธนาคารต้องรุกเข้าไปนำเสนอรูปแบบ เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้า ซึ่งบางรายต้องใช้เวลานานถึง 2 ปีกว่าจะเป็นที่ยอมรับของธุรกิจ
โดยล่าสุด ธนาคารได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาทางการเงินสำหรับโครงการพลังทางเลือกขนาดใหญ่หลายโครงการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมเชิงพาณิชย์แห่งแรกในประเทศที่จังหวัดเพชรบูรณ์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในจังหวัดลพบุรี โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2554 นอกจากนี้ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และโรงไฟฟ้าชีวมวล
